เปิดแนวรบชิง ‘พรรคสีฟ้า’ ส่องโจทย์ฟื้น ‘ประชาธิปัตย์’ ?

เปิดแนวรบชิง ‘พรรคสีฟ้า’   ส่องโจทย์ฟื้น ‘ประชาธิปัตย์’ ?

ทั้งหมดคือ มุมของ “พรรคประชาธิปัตย์” ในวันที่สายลมแห่งการเปลี่ยนแปลงหวนกลับคืนมาอีกครั้ง ชื่อของ “หัวหน้าพรรคคนใหม่” จะเป็น “อภิสิทธิ์” ตามแรงเชียร์ หรือยังอยู่ในสายของ “เดชอิศม์” ต้องติดตามกันต่อไป

KEY

POINTS

  • การลาออกของนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน จากตำแหน่งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เปิดทางให้มีการเลือกตั้งคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่
  • เกิดการแข่งขันชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคระหว่างกลุ่มอำนาจเก่าที่สนับสนุนนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และกลุ่มของนายเดชอิศม์ ขาวทอง
  • นักวิเคราะห์มองว่าการกลับมาของนายอภิสิทธิ์ อาจช่วยฟื้นคะแนนนิยมของพรรค โดยมีเป้าหมายหลักคือ การดึงฐานเสียงคืนจากพรรครวมไทยสร้างชาติ และยึดที่มั่นในภาคใต้
  • แม้การกลับมาของ นายอภิสิทธิ์จะสร้างความหวัง แต่ก็มีความท้าทายในการดึงดูดคะแนนจากคนรุ่นใหม่ เนื่องจากถูกมองว่าเป็น "สินค้าเก่า" ทางการเมือง

สายลมแห่งการเปลี่ยนแปลงพัดมาถึงพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) อีกครั้งหนึ่ง ภายหลัง “เฉลิมชัย ศรีอ่อน” ลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรค ปชป. เปิดทางให้มีการเลือกกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่

จากอดีตที่เคยยิ่งใหญ่ เป็นพรรคการเมืองเก่าแก่ที่สุด และอยู่คู่ประเทศไทย มาอย่างยาวนาน ผ่านร้อนผ่านหนาวมา 79 ปี วันนี้ “ประชาธิปัตย์” ถูกมองว่าอยู่ในจุดตกต่ำที่สุด บรรดาสมาชิกพรรคระดับแม่เหล็กทยอยออกจากพรรค จากพรรคกระแสกลับการเป็นพรรคไร้กระแส

การลาออกของ “เฉลิมชัย” ทำให้ “ขั้วเก่า” ที่ทยอยเดินออกจากพรรค มีโอกาสกลับมาฟื้นฟู “พรรคสีฟ้า” ท่ามกลางความหวังว่าจะพลิกวิกฤติให้เป็นโอกาส เพื่อซ่อมแซมบ้านหลังเก่าให้เฟื่องฟูอีกครั้ง

รายการคมชัดลึก ออกอากาศทางช่องเนชั่นทีวี 22 พูดคุยกับ “ถาวร เสนเนียม” อดีตสส.สงขลา พรรค ปชป. และ “สุวิชา เป้าอารีย์” ผอ.ศูนย์สำรวจความเห็นนิด้าโพล อ่านทิศทางของ “ประชาธิปัตย์” ในยุคผลัดใบ เลือกหัวหน้าใหม่

“ถาวร” เปิดฉากเล่าว่า การลาออกของนายเฉลิมชัย ใช้คำว่าสุขภาพไม่ดี แสดงว่าท่านรักพรรค จึงไม่อยากเขียนรายละเอียดลงลึก เมื่อเป็นผู้เสียสละ ตนก็ขอชื่นชม ตนเชื่อว่าอาจจะมีประเด็นอื่นเยอะ

อย่างไรก็ตามระหว่างการจัดตั้งรัฐบาลอนุทิน ชาญวีรกูล มีความเคลื่อนไหวของ “เดชอิศม์ ขาวทอง” เลขาธิการพรรค ปชป. เปิดตัวจับมือกับ “พรรคเพื่อไทย” โดยที่ “เฉลิมชัย” ไม่ยอมรับการกระทำของ “เดชอิศม์” อาจจะเป็นชนวนแตกหักหรือไม่นั้น “ถาวร” กล่าวว่า นายเดชอิศม์ ตอบผู้สื่อข่าวในวันที่เดินทางไปยังพรรคประชาชน ซึ่งสอบถามว่าได้แจ้งกับนายเฉลิมชัยแล้วหรือไม่ โดยบอกว่าลืมบอก ตนคิดว่ามันมองได้หลายมิติ แต่นายเฉลิมชัย อาจจะมีอารมณ์อยู่

“เบื้องหลังการเสียสละของนายเฉลิมชัย อาจจะมีฟันเฟืองภายในสะดุดหรือติดขัด เครื่องยนต์จะดับอาจจะมีอะไรบางอย่าง ซึ่งคิดว่านายเฉลิมชัยจะไม่กลับเข้าไปชิงตำแหน่งอีกแล้ว แต่อาจจะพร้อมจะสนับสนุนใครเข้าไปชิงตำแหน่ง เพราะความผูกพัน ความรักกับพรรคยังมีอยู่”

“ถาวร” วิเคราะห์อีกว่า คนที่เป็น กก.บห. คนหนึ่งต้องการเป็นหัวหน้าพรรค ทาบทามอีกคนให้เป็นเลขาธิการพรรค อีกกลุ่มหนึ่งเขาต้องการให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรค ปชป. หรือ นายกรณ์ จาติกวณิช อดีตรองหัวหน้าพรรค ปชป. มาเป็นหัวหน้าพรรค จึงต้องมาดูความนิยมกัน โดยนายอภิสิทธิ์เคยได้รับความนิยมถึง 12 ล้านเสียง ส่วนยุคนี้ได้รับความนิยม 9 แสนเสียง คนที่รักพรรคมักจะเล็งไปที่นายอภิสิทธิ์

อย่างไรก็ตาม หาก “อภิสิทธิ์” และ “กรณ์” จะเข้ามาชิงเก้าอี้หัวหน้าพรรค ตามข้อบังคับพรรคอาจจะไม่มีปัญหา จึงต้องมาดูคะแนนในสัดส่วนที่กำหนดไว้ โดยคะแนน กก.บห. ร้อยละ 20 มีความปะปนกันอยู่ระหว่าง “เฉลิมชัย” และคนอื่น

ซึ่งคิดว่าสัดส่วนของ “เฉลิมชัย” น่าจะมากกว่า คะแนน สส. ร้อยละ 40 เมื่อนับดูผู้สนับสนุน “เฉลิมชัย” น่าจะมากกว่า และคะแนนอดีตหัวหน้าพรรค กก.บห.พรรค อดีตสมาชิกพรรค ร้อยละ 40 อาจจะแย่งชิงกันอยู่ ซึ่งคาดการณ์ว่าสัดส่วนนี้มักจะมีจิตสำนึกว่าผลการเดินงานทางการเมืองของกลุ่มใหม่ผลออกมาเป็นอย่างไร

“สมมติว่านายอภิสิทธิ์ และนายกรณ์ จะเข้ามาช่วยเหลือพรรค เข้ามาจับเข่าคุยกับเพื่อน พ้อง น้อง พี่ ได้ไหม ถ้าจับเข่าคุยเพื่อเดินไปข้างหน้า เนื้อไหนร้ายตัดออกไป เนื้อไหนดีเก็บเอาไว้ ทำการเมืองบริสุทธิ์ จะซื่อสัตย์สุจริต กำจัดการทุจริต ถ้ามีแนวคิดแบบนี้ผมว่ามีโอกาสกลับมาได้”

“ถาวร” มองว่า วันที่ “เฉลิมชัย” กับ “อภิสิทธิ์” แยกย้ายจากกันไม่ได้มีปัญหากัน สองคนนี้ฟื้นมิตรภาพเดิน ตนมองว่าเป็นไปได้ และการที่ “เฉลิมชัย” ลาออก เพื่อให้ กก.บห. พ้นจากตำแหน่ง ตนจึงมองว่าความสัมพันธ์ระหว่าง “เฉลิมชัย” กับ “อภิสิทธิ์” มีมากกว่า “เดชอิศม์”

“สุวิชา” กล่าวว่า ในเชิงคะแนนนิยมการมี “เฉลิมชัย” และ “เดชอิศม์” นำพรรคคะแนนมันไม่มา มันมีแต่ลงเรื่อยๆ คนยังรอว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงอะไรบ้าง เมื่อ “เฉลิมชัย” ลาออก จะทำให้พรรค ปชป. รีเซตใหม่หมด วันนี้อาจจะป่วนกันพอสมควรว่าจะเลือกใครมาเป็นหัวหน้าพรรค ใครจะเป็นเลขาธิการพรรค

สำหรับคะแนนนิยมของ “อภิสิทธิ์” ในระยะหลังไม่มีการสำรวจ เนื่องจากเขาออกนอกระบบไปแล้ว แต่ยังมีคนพูดถึงอยู่ ตนเชื่อว่าหาก “อภิสิทธิ์” กลับไปพรรค ปชป. คะแนนนิยมกลับมาแน่นอน แต่อาจจะไม่หวือหวาเหมือนสมัยก่อน บรรดาแม่ยกกระจัดกระจายหายไป แต่การกลับไปฟื้นฟูพรรคได้

“หากกลับไปอย่าไปคิดว่าจะฟื้นฟูให้พรรค ปชป. กลับมายิ่งใหญ่ เหมือนตอนสู้กับพรรคเพื่อไทย คะแนนที่จะต้องเอาคืนคือมีพรรครวมไทยสร้างชาติ ที่แตกออกจากพรรค ปชป. กำลังล้มพอ จึงสามารถเอาคะแนนตรงนั้นกลับมาได้ พรรครวมไทยสร้างชาติ คือ คะแนนของพรรค ปชป. และคะแนนของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เมื่อไม่มีพล.อ.ประยุทธ์ และมีคะแนนแฟนคลับเก่าของพรรค ปชป. แล้วพรรครวมไทยสร้างชาติจะไปต่ออย่างไร ดังนั้นคะแนนที่จะกลับมาพรรค ปชป. จะคืนกลับมา”

“สุวิชา” มองว่า การโอนย้ายคะแนนกลับมาพรรค ปชป. จะมาเป็นก้อน สร้างฐานให้ขยายขึ้นได้ ตอนนี้สีเหลืองมันไม่มีแกนนำ ทุกคนมองไปที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกฯ จะขึ้นมาเป็นแกนนำ แต่ก็ยังลังเลว่าจะไปไหวไหม จึงมองกันว่าสีฟ้าจะขึ้นมาเป็นแกนนำกลุ่มอนุรักษ์ได้ ถ้าสามารถรวบรวมกำลังกลับมาได้ แต่นายอภิสิทธิ์เป็นหัวหน้าพรรคยาวไม่ได้ เพราะไม่ใช่สินค้าใหม่ เป็นสินค้าเก่าที่ยังมีคนคิดถึง แต่ไม่สามารถขายได้นาน เพราะขายกับคนรุ่นใหม่ไม่ได้

“พรรค ปชป. อาจจะเอาคะแนนคืนมาได้ เนื่องจากช่วงหลังสีส้มผิดพลาดเยอะ ในภาคใต้ช่วงหลังคะแนนสีส้มเยอะ เพราะอยากจะลองของใหม่ เมื่อลองแล้วคนพบอะไร ตรงนี้ก็ดึงกลับมาได้ อย่าลืมว่าพรรค ปชป. ฐานหลักอยู่ที่ภาคใต้ จึงต้องกลับมายึดพื้นที่เดิมก่อน ผมเชื่อว่าภาคใต้ไม่มีปัญหา เดินหน้าต่อได้ ถ้าภาคใต้พังมันจะพังทั้งพรรค ที่สำคัญต้องเอาอุดมการณ์เดิมกลับมาด้วย”

ทั้งหมดคือ มุมของ “พรรคประชาธิปัตย์” ในวันที่สายลมแห่งการเปลี่ยนแปลงหวนกลับคืนมาอีกครั้ง ชื่อของ “หัวหน้าพรรคคนใหม่” จะเป็น “อภิสิทธิ์” ตามแรงเชียร์ หรือยังอยู่ในสายของ “เดชอิศม์” ต้องติดตามกันต่อไป

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์