สว.สำรองบุก ปชน.จี้สอบ รมว.ยุติธรรมคนใหม่ หวั่นล้วงลูกฮั้ว สว.

สว.สำรองบุก ปชน.จี้สอบ รมว.ยุติธรรมคนใหม่ หวั่นล้วงลูกฮั้ว สว.

'กลุ่ม สว.สำรอง' บุกพรรค ปชน.ยื่นหนังสือจี้ตรวจสอบปม 'อนุทิน' เตรียมตั้ง รมว.ยุติธรรมคนใหม่ หวั่นก้าวก่าย 'คดีฮั้ว สว.' ด้าน 'วิโรจน์' ยันสอดส่องติดตามใกล้ชิด

KEY

POINTS

  • กลุ่ม สว.สำรอง ยื่นหนังสือถึงพรรคประชาชน (ปชน.) ให้ตรวจสอบการแต่งตั้งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมคนใหม่
  • แสดงความกังวลว่าจะมีการใช้อำนาจแทรกแซงการสอบสวนคดีฮั้ว สว. ของดีเอสไอ โดยอ้างว่ามี "มือที่มองไม่เห็น" คอยสกัดกั้นการทำงานของเจ้าหน้าที่
  • พรรคประชาชนรับเรื่อง โดยระบุว่าจะติดตามอย่างใกล้ชิด และหากพบหลักฐานการแทรกแซงที่เชื่อมโยงถึงพรรคภูมิใจไทย อาจไม่ไว้วางใจให้เป็นรัฐบาลต่อไป

เมื่อวันที่ 16 ก.ย. 2568 เวลา 09.50 น. ที่อาคารอนาคตใหม่ ที่ทำการพรรคประชาชน (ปชน.) นายธนวัฒน์ ศรีสุข ตัวแทนกลุ่ม สว.สำรอง นำคณะ สว.สำรอง เดินทางมายื่นหนังสือถึงพรรค ปชน. ขอให้ติดตามตรวจสอบนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ในกรณีการแต่งตั้ง รมว.ยุติธรรมคนใหม่ เพื่อป้องกันการก้าวกายแทรกแซงคดีฮั้ว สว. โดยมีนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร รองหัวหน้าพรรค ปชน. เป็นตัวแทนรับเรื่อง

นายธนวัฒน์ กล่าวว่า พวกเรามีความกังวลและขอมาแสดงความห่วงใยเกี่ยวกับคดีฮั้ว สว.กลัวเรื่องการแทรกแซง แม้จะยังไม่มี รมว.ยุติธรรม แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตอนนี้ เราได้ข่าวมาว่าเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กระจายไปตามจังหวัดต่าง ๆ เพื่อไป สอบปากคำพยาน 1,200 ปาก แต่ก็ถูกสกัดโดยมือที่มองไม่เห็น จึงตั้งคำถามว่าเกิดอะไรขึ้น

โดยนายวิโรจน์ กล่าวว่า กรณีนี้พรรค ปชน. ไม่ได้นิ่งนอนใจ ติดตามว่ามีการแทรกแซงหรือมีความพยายามอย่างหนึ่งอย่างใดที่เข้าไปขัดขวางการพิจารณาคดี หรือกระบวนการยุติธรรมกรณีการเลือกสว.หรือไม่ ย้ำว่าเราติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด หาก รมว.ยุติธรรมคนใหม่ เป็นคนที่อยู่ในเครือข่ายใกล้ชิดกับปราสาทสายฟ้าหรือพรรค ภท.ที่อยู่ในกระบวนการที่ถูกกล่าวหา จะบอกว่าไม่แทรกแซงคงไม่มีคนในสังคมเชื่อ ไม่ใช่แค่อมพระมาพูด อมพระประธานมาพูดก็ไม่มีใคร เชื่อจุดเริ่มต้นทำให้สังคมสบายใจคือการแต่งตั้ง รมว.ยุติธรรมที่มีความเหมาะสมพร้อมยืนยันว่าจะเข้าไม่เข้าไปแทรกแซงกับพยานหลักฐานที่ทำให้กระบวนการยุติธรรมบิดเบี้ยว

นายวิโรจน์ กล่าวอีกว่า ได้รับเรื่องร้องเรียนมาพอสมควรว่ามีการกดดันไปที่ข้าราชการ แม้กระทั่งอธิบดีดีเอสไอ ก็เริ่มถูกกดดัน กรณีนี้จึงต้องติดตามต่อไป  รวมถึงประเด็นการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการใน ดีเอสไอ และออกระเบียบเกี่ยวข้องกับเอกสารคำสั่งต่าง ๆ

"เป็นโจทย์สำคัญที่พรรค ปชน. มีทีมงานติดตามสอดส่องอย่างใกล้ชิด ยินดีทำงานกับกลุ่ม สว.สำรอง และเครือข่ายต่าง ๆ  ยืนยันว่าหากมีหลักฐานชัดเจน และเชื่อมโยงถึงพรรคภท. พรรคปชน. ไม่อาจไว้วางใจพรรคภท.ให้เป็นรัฐบาลต่อไปได้" นายวิโรจน์ กล่าว