กกต.แจงเหตุยกคำร้องยุบ 6 พรรค ปม 'ทักษิณ' ครอบงำตั้งรัฐบาล

กกต.ชี้แจงเหตุผล สั่งยกคำร้องปมยุบ 6 พรรคการเมืองดัง ยอม 'ทักษิณ' ครอบงำตังรัฐบาล พ่วงยกคำร้อง 'สนธิญา' ขอให้ยุบ 'เพื่อไทย-ปชน.' ประเด็นแลกหมัดวันซักฟอกด้วย
KEY
POINTS
- กกต. มีมติยกคำร้องยุบพรรคเพื่อไทยและพรรคร่วมรัฐบาลรวม 6 พรรค ในประเด็นที่ถูกกล่าวหาว่านายทักษิณ ชินวัตร เข้าครอบงำ
- คำร้องระบุว่าพรรคการเมืองทั้ง 6 พรรคยินยอมให้นายทักษิณ ซึ่งไม่ใช่สมาชิกพรรค เข้ามาควบคุม ชี้นำ หรือครอบงำกิจกรรมของพรรค อันเป็นการฝ่าฝืน พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง
- กกต. ให้เหตุผลในการยกคำร้องว่า ยังไม่มีพยานหลักฐานที่น่าเชื่อถือเพียงพอว่าพรรคการเมืองดังกล่าวได้กระทำการฝ่าฝืนกฎหมาย หรือขาดความเป็นอิสระตามที่
เมื่อวันที่ 15 ก.ย. 2568 สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เผยแพร่เอกสารข่าว ชี้แจงถึงการพิจารณาคำร้องเพื่อยุบพรรคเพื่อไทย และ 6 พรรคร่วมรัฐบาล กรณีมีการยื่นร้องกล่าวหาว่ายินยอมให้ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นบุคคลที่ไม่ใช่สมาชิกพรรคชี้นำครอบงำ ว่า คำร้องดังกล่าวมีผู้ยื่นร้องต่อ กกต.ประกอบด้วย คำร้องของ นายคงเดชา ชัยรัตน์ นายยงยุทธ เสาแก้วสถิต นายวรงค์ เดชกิจวิกรม และนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ร้องพรรคเพื่อไทย และคำร้องของ นายนพรุจ วรชิตวุฒิกุล ร้องพรรคเพื่อไทย พรรคภูมิใจไทย พรรคพลังประชารัฐ พรรครวมไทยสร้างชาติ พรรคชาติไทยพัฒนา พรรคประชาชาติ กรณีนายทักษิณ ซึ่งไม่ใช่สมาชิกพรรค ถูกกล่าวหาว่า ครอบงำ ชี้นำ และมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจของพรรคการ
เมืองทั้ง 6 พรรค
ผู้ร้องทั้ง 5 ราย กล่าวอ้างว่า นายทักษิณ ชินวัตร ซึ่งเป็นผู้ที่มิใช่สมาชิกพรรคการเมือง กระทำการอันเป็นการควบคุม ครอบงำ หรือชี้นำกิจกรรมของพรรคการเมืองในลักษณะที่ทำให้พรรคการเมือง หรือสมาชิก ขาดความอิสระ ไม่ว่าโดยทางตรงหรือโดยทางอ้อม อันเป็นการฝ่าฝืน พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2560 มาตรา 29 และพรรคการเมืองทั้ง 6 พรรคดังกล่าว ยินยอมให้บุคคล อันซึ่งมิใช่สมาชิก กระทำการอันเป็นการควบคุม ครอบงำ หรือชี้นำกิจกรรมของพรรคการเมืองในลักษณะที่ทำให้พรรคการเมือง หรือสมาชิกพรรคขาดความอิสระ ไม่ว่าโดยทางตรงหรือโดยทางอ้อม อันเป็นการฝ่าฝืน พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2560 มาตรา 28 และเป็นเหตุให้ยุบพรรคการเมือง
และกรณี นายสนธิญา สวัสดี ขอให้ตรวจสอบการกระทำของ นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน (ปชน.) และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ อันอาจเป็นการฝ่าฝืน มาตรา 92 แห่ง พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2560 นั้น
นายทะเบียนพรรคการเมือง ได้พิจารณารายงานความเห็นของคณะกรรมการรวบรวมข้อเท็จจริง และพยานหลักฐานของนายทะเบียนพรรคการเมือง คณะที่ 2 และคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง คณะที่ 9 ประกอบความเห็นของคณะอนุกรรมการที่ปรึกษานายทะเบียนพรรคการเมืองแล้ว โดยนายทะเบียนพรรคการเมืองมีความเห็นสอดคล้องกับคณะกรรมการฯ และคณะอนุกรรมการฯ
พบว่า ยังไม่มีหลักฐาน อันควรเชื่อได้ว่าพรรคเพื่อไทยและทั้ง 6 พรรคการเมืองดังกล่าวกระทำการอันเป็นการฝ่าฝืนพระราชบัญญัติ ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2560 จึงยังรับฟังไม่ได้ว่าเป็นการควบคุม ครอบงำ หรือชี้นำ การดำเนินกิจกรรมของพรรคการเมืองที่มีลักษณะทำให้พรรคการเมือง หรือสมาชิกพรรคการเมืองขาดอิสระ ตามมาตรา 28 หรือมาตรา 29 จึงพิจารณายกคำร้องตามข้อ 7 หรือไม่รับคำร้องไว้พิจารณา กรณี นายสนธิญา สวัสดี ตามข้อ 6 ของระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้งว่าด้วยการรวบรวมข้อเท็จจริงและพยานหลักฐาน ของนายทะเบียนพรรคการเมือง พ.ศ.2566 โดยนายทะเบียนพรรคการเมือง ได้มีหนังสือแจ้งให้ผู้ร้องทั้ง 6 ราย เรียบร้อยแล้ว







