'อนุฯท่องเที่ยว' จ่อลงพื้นที่ซาฟารีเวิลด์ สอบเหตุสิงโตทำร้ายคน

"พล.ต.ต.อังกูร" จ่อนำคณะอนุกมธ.ท่องเที่ยว ตรวจสอบเหตุสิงโตซาฟารีเวิลด์ทำร้ายคน ชี้กระทบภาพลักษณ์และการท่องเที่ยว พร้อมรับเรื่องจากองค์กรสัตว์จี้ให้ตรวจสอบ
ที่รัฐสภา พล.ต.ต. อังกูร คล้ายคลึง สว. ฐานะประธานคณะอนุกรรมาธิการ(กมธ.)ความปลอดภัยด้านการท่องเที่ยวและการกีฬา ในกมธ.การท่องเที่ยวและการกีฬา วุฒิสภา รับหนังสือจากนายสาธิต ปรัชญาอริยะกุล เลขาธิการและผู้อำนวนการสมาคมป้องกันการทารุณสัตว์แห่งประเทศไทย พร้อมองค์กรเครือข่าย เพื่อขอให้พิจารณาตรวจสอบกรณีที่เกี่ยวเนื่องกับเหตุการณ์สิงโตในสวนสัตว์ทำร้ายเจ้าหน้าที่จนเสียชีวิต
โดยนายสมศักดิ์ สุนทรนวภัทร ผู้ประสานงานภาครัฐ Four Paws International เปิดเผยว่า ต่างประเทศเพ่งเล็งจำนวนสิงโตในไทยมากเกิดความจำเป็น เฉพาะปีนี้ปีเดียวมีสิงโตเพิ่มขึ้น 625 ตัว ซึ่งส่วนใหญ่เพิ่มในสวนสัตว์สาธารณะที่กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช จำนวนสิงโตมีจำนวนมากจะเกี่ยวข้องกับการซื้อขายสัตว์ป่า ซึ่งผิดอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศ ซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ หรืออนุสัญญาไซเตส ดังนั้น จึงขอเสนอให้รัฐปรับปรุงนโยบายและกฎหมาย โดยให้ยุติการนำเข้าสิงโต รวมถึงแก้กฎกระทรวงห้ามไม่ให้ผสมพันธุ์ เพื่อควบคุมปริมาณสิงโตในสวนสัตว์ และห้ามไม่ให้รายบุคคลเลี้ยงสิงโต
ด้านพล.ต.ต. อังกูร กล่าวว่า วันที่ 17 ก.ย. ทางคณะอนุ กมธ. จะลงพื้นที่ที่สวนสัตว์ซาฟารีเวิลด์ พร้อมเจ้าหน้าที่กรมอุทยานฯ และสน.คันนายาว เพื่อพูดคุยถึงความรับผิดชอบและหาสาเหตุว่าเกิดมาจากอะไร เพราะเรื่องดังกล่าวกะทบต่อภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของประเทศ และในวันเดียวกันจะกลับมาประชุมคณะอนุกรรมาธิการความปลอดภัยด้านการท่องเที่ยว ซึ่งได้เชิญภรรยาของเจ้าหน้าที่สวนสัตว์ที่เสียชีวิต มาสอบถามข้อมูลด้วย







