'กมธ.การเมือง สว.' จี้ 'อนุทิน' ชะลอโครงการแลนด์บริดจ์

'กมธ.การเมือง สว.' จี้  'อนุทิน' ชะลอโครงการแลนด์บริดจ์

"ปธ.กมธ.การเมือง" ชี้ "อนุทิน" มีเวลา4 เดือนก่อนยุบสภา ไม่ทันทำ-ศึกษา-รับฟังผลกระทบโครงการแลนด์บริดจ์อย่างรอบด้าน จี้ให้ชะลอออกไป

ที่รัฐสภา นายนรเศรษฐ์ ปรัชญากร สว.ฐานะประธานคณะกรรมาธิการ(กมธ.)การพัฒนาการเมือง การมีส่วนร่วมของประชาชน สิทธิมนุษยชน สิทธิ เสรีภาพ และการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา แถลงเรียกร้องให้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกฯ พิจารณาชะลอการทำโครงการแลนด์บริดจ์ และผลักดันร่างราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ระเบียงเขตเศรษฐกิจภาคใต้ หรือ SEC ผ่านการรับฟังความเห็นอย่างรอบด้าน ทั้งนี้จากการลงพื้นที่รับฟังความเห็นของประชาชนในจังหวัดระนองและจังหวัดสุราษฎร์ธานี เกี่ยวกับโครงการแลนด์บริดจ์ และกฎหมาย SEC พบว่า กระบวนการการศึกษาค่อนข้างมีปัญหา ชาวบ้านรู้สึกถึงความไม่โปร่งใส และขาดการมีส่วนร่วม โดยชาวบ้านส่วนใหญ่ไม่เคยได้รับข้อมูลที่ครบถ้วน ผู้ที่ได้รับผลกระทบจริงไม่ได้เข้าร่วมทั้งนี้อยากให้รัฐบาลฟังเสียงประชาชน คำนึงถึงวิถีเศรษฐกิจฐานรากวิถีชีวิตดั้งเดิม และสิ่งแวดล้อม เพื่อให้โครงการขนาดใหญ่ ที่รัฐบาลอยากผลักดันมีความชอบธรรมและยั่งยืน

นายนรเศรษฐ์ กล่าวด้วยว่า รัฐบาลของนายอนุทินมีเวลากำหนดยุบสภา ชัดเจนภายใน 4 เดือน จึงอยากจะวิงวอนให้ชะลอการผลักดัน โครงการดังกล่าวออกไปก่อนและศึกษาให้รอบคอบ โครงการใหญ่ขณะนี้ควรเป็นฉันทามติของประชาชนของประชาชนทั้งประเทศ 

นายนรเศรษฐ์ กล่าวว่า สำหรับกฎหมาย SEC ประชาชนยังมีความกังวล ในเรื่องอำนาจของคณะกรรมการอาจเอื้อประโยชน์ให้กับนายทุน ส่วนเรื่องผลกระทบด้านเกษตรกรรมและการท่องเที่ยว การตัดถนน จากชุมพรไประนอง ผ่านพื้นที่พะโต๊ะ ซึ่งเป็นแหล่งพื้นที่ทุเรียน กาแฟ มีมูลค่าทางเศรษฐกิจหมื่นกว่าล้านบาทต่อปี จะทำให้เกิดความเสียหายต่อทรัพยากรน้ำจำนวนมากเพราะเป็นการตัดผ่านแหล่งน้ำสำคัญที่ใช้ในการเกษตร  
         
เมื่อถามว่าในระยะเวลา 4 เดือนรัฐบาลจะผลักดันโครงการได้แค่ไหน นายนรเศรษฐ์  กล่าวว่า ถ้าจะผลักดันโครงการขนาดใหญ่แบบนี้ควรทำเป็นนโยบาย เพื่อให้ได้ฉันทามติและกลับมาทำในฐานะรัฐบาลในอนาคต และรายงานทั้งหมดจะเสร็จได้คงไม่ทัน 4 เดือน แต่ถ้ารัฐบาลที่ต้องการผลักดันนโยบายนี้ก็ควรเป็นรัฐบาล ที่มีระยะเวลาในการทำงานระยะยาวมากกว่า

ถามย้ำว่ามีการตั้งข้อสังเกตว่ารัฐบาลอาจจะอยู่ยาวกว่า 4 เดือน นายนรเศรษฐ์ กล่าวว่า นายอนุทิน จะดำเนินการตามข้อตกลง MOA ที่ได้ให้สัญญาไว้ ดังนั้นกฎหมายที่รัฐบาลนายอนุทินจะต้องดำเนินการอย่างเร่งด่วนคือ การแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจระยะสั้น รวมถึงการผลักดันการแก้รัฐธรรมนูญ

"โครงการขนาดใหญ่สามารถศึกษาไปพร้อมกันได้ แต่ไม่ควรรีบเร่งเนื่องจากกระบวนการศึกษาผลกระทบและสิ่งแวดล้อมยังเป็นคำถามทั้งในแง่ของกระบวนการและเนื้อหา หากจะผลักดันโครงการลักษณะแบบนี้ ควรจะทำความเข้าใจกับชาวบ้านในพื้นที่ และรายงานต่าง ๆ ที่มีปัญหาก็ควรรื้อกลับมาทำใหม่" นายนรเศรษฐ์ กล่าว