ค่ายแดง ‘เพื่อไทย’ รีแบรนด์‘ชินวัตร’ สกัดขาลง 'พรรคต่ำร้อย'

ค่ายแดง ‘เพื่อไทย’ รีแบรนด์‘ชินวัตร’ สกัดขาลง 'พรรคต่ำร้อย'

“พรรคเพื่อไทย” เตรียมปรับทิศทางภาพลักษณ์ของพรรคใหม่ เพื่อรองรับศึกเลือกตั้งใหญ่ในปี 2569 ท่ามกลางสถานการณ์ที่ “ทักษิณ ชินวัตร” ต้องถูกจำคุกในเรือนจำ

KEY

POINTS

  • พรรคเพื่อไทยเผชิญวิกฤตคะแนนนิยมตกต่ำที่สุด เสี่ยงต่อการมี สส. ต่ำกว่า 100 ที่นั่ง แกนนำและคนชินวัตรจำเป็นต้องรีแบรนด์พรรค เพื่อสกัดทิศทางขาลงของพรรค
  • ตระกูลชินวัตร จะยังมีบทบาทสำคัญกำกับทิศทางพรรคเพื่อไทยต่อไป เพื่อรักษาฐานที่มั่น ตรึง สส. ไม่ให้ถูกพรรคขั้วตรงข้ามดึงตัวไป ในระหว่าง "นายใหญ่" ต้องโทษจำคุก 1 ปี
  • แบรนด์ชินวัตร ยังคงเป็นจุดขายของพรรคในนโยบายจับต้องได้จากความสำเร็จในอดีต แน่นอนพรรคจะสานต่อนโยบายที่สะดุดไปจากการเปลี่ยนรัฐบาล
  • โจทย์ใหญ่ของพรรคเพื่อไทยแก้ภาพลักษณ์ตกต่ำ แล้ว ยังต้องเผชิญความเสี่ยงถูกพรรคคู่แข่งรุมกินโต๊ะ ตัดแต้มค่ายแดง โอกาส สส.ไม่ถึงหลักร้อย มีสูง

พรรคเพื่อไทย ต้องเผชิญวิบากกรรมซ้ำอีกครั้ง หลัง “แพทองธาร ชินวัตร” ต้องพ้นจากตำแหน่งนายกฯ ด้วยคดีคลิปเสียง ตามมาด้วยพ่ายเกมชิง จัดตั้งรัฐบาล ให้กับ “ภูมิใจไทย”

วิบากกรรมรอบ 3 “ศาสดาค่ายแดง” อย่าง “ทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกรัฐมนตรี ต้องกัดฟันสู้ด้วยการเดินเข้าสู่เรือนจำ แม้ว่าจะพ่ายแพ้เกมที่ “รัฐพันลึก” กำกับ ทว่า“นายใหญ่”แห่ง“ค่ายแดง”ประเมินทางเลือกและทางรอดไว้แล้วว่า ผลของการถูกบังคับโทษจำคุก 1 ปี ย่อมเป็นผลดีต่อตัวเองและพรรคเพื่อไทยในทางหนึ่ง

ท่ามกลางวิบากกรรม คราวเคราะห์ของพรรคเพื่อไทย ยังซ่อนผลดีในทางหนึ่ง เพราะ สส.ในพรรคเพื่อไทยประเมินว่า การติดคุกครั้งนี้ของนายใหญ่ อาจเรียกคะแนนสงสารให้กลับมาสู่พรรคเพื่อไทยได้หลังจากพรรคประชาชนเมินสูตรยุบสภาฯ ของค่ายแดง ไปสนับสนุน “อนุทิน ชาญวีรกูล” เป็นนายกฯ คนที่ 32 ภายใต้เงื่อนไขแก้ไขรัฐธรรมนูญเปิดทางเลือกตั้ง ส.ส.ร.แล้ว ยุบสภาฯ ใน 4 เดือน

ค่ายแดง ‘เพื่อไทย’ รีแบรนด์‘ชินวัตร’ สกัดขาลง 'พรรคต่ำร้อย'

ทว่า มติของศาลรัฐธรรมนูญเสียงข้างมาก กลับมองเห็นต่างจากอำนาจรัฐสภา คือให้การจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ไม่สามารถสถาปนาผ่านองค์กรที่ร่างรัฐธรรมนูญได้โดยตรงจากประชาชน และยังให้การจัดทำรัฐธรรมนูญใหม่ ขีดเส้นด้วยเงื่อนไขต้อง ประชามติ 3 ครั้ง

ถือเป็นการปิดช่องทาง จัดทำรัฐธรรมนูญใหม่ผ่านองคาพยพตัวแทนประชาชน ที่พรรคสีส้มฝันหวานเอาไว้ ก่อนที่“อนุทิน”เป็นนายกฯ โดยคิดพล็อต สร้างฉากทัศน์ไว้สวยงามว่า สูตรยุบสภา 4 เดือนเพื่อจัดทำรัฐธรรมนูญใหม่ จะเป็นไปตามโรดแมป หลังจากหนุนผู้นำก๊กสีน้ำเงิน ซึ่งเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดในชั่วโมงนี้

สส.พรรคเพื่อไทย จึงมองว่า“สูตรของพรรคสีส้ม”ที่ศาลรัฐธรรมนูญไม่ขานรับนั้น กำลังเข้าตำรา“สีส้มถูกต้ม” จากดีลตั้งรัฐบาลภูมิใจไทย

ผลบวกจากเกมที่ “พรรคประชาชน” พลาดท่า ไม่สามารถใช้โมเดลเลือกตั้ง ส.ส.ร.โดยตรงได้ ทำให้ “พรรคเพื่อไทย” ประเมินว่า เกมเสี่ยงของ“พรรคประชาชน” ส่งผลให้กระแสส้มกำลังร่วง เพียงแต่ยังประเมินไม่ได้ว่ามากน้อยแค่ไหน ซึ่งปัจจัยทั้งหมดต้องไปวัดกันอีกที ช่วงโหมดหาเสียงเลือกตั้ง

สำหรับ “แบรนด์ชินวัตร” กับพรรคเพื่อไทย นาทีนี้ ยังมีทางเลือกไม่มาก มีการประเมินฉากทัศน์กันสั้นๆ ว่า “แพทองธาร ชินวัตร” ยังต้องนั่งในตำแหน่งหัวหน้าพรรคเพื่อไทยไปพลางก่อน 

ส่วนการเลือกตั้งใหญ่ในปี 2569 หลังยุบสภาฯ จะยังเป็น “แพทองธาร” นำทัพเพื่อไทยได้อีกหรือไม่ ยังเป็นประเด็นที่ต้องลุ้นกันชอตต่อไป

ค่ายแดง ‘เพื่อไทย’ รีแบรนด์‘ชินวัตร’ สกัดขาลง 'พรรคต่ำร้อย'

แน่นอนว่า การรีแบรนด์พรรคเพื่อไทยจะเป็นโจทย์ใหญ่ที่สำคัญกว่า ซึ่งบรรดาคีย์แมน แกนนำ ในเวลานี้ จะต้องคิดโจทย์หนักเพื่อแก้ปัญหาภาพลักษณ์พรรคที่ตกต่ำ จากการตั้งรัฐบาลข้ามขั้ว และผลงานในเชิงนโยบายเรือธงที่ไม่ชัดเจนและต้องสะดุด ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา รวมทั้งยังต้องแก้ภาพลักษณ์ กู้เรตติ้งจากผลกระทบชาตินิยมจากสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ที่เป็นจุดทำให้รัฐบาลเพื่อไทยต้องล้มลง

ทางเลือกทางรอดแรก “คนชินวัตร” ยังไม่ได้ปล่อยมือทางการเมืองไปจากพรรคเพื่อไทย แต่หาก "นายน้อย"ถอดใจ ย่อมส่งผลต่อการตรึงกำลัง สส.ที่กำลังอยู่ในสภาวะที่ระส่ำระสาย เสี่ยงที่จะถูกขั้วน้ำเงินดูดไปร่วมสังกัด

จะเห็นได้ว่า พรรคภูมิใจไทย พรรคกล้าธรรม ทยอยดูดนักเลือกตั้งที่มีคะแนนจัดตั้งเข้าพรรค สำหรับใช้ในการต่อรองเป็นรัฐบาลในอนาคต ความเสี่ยงนี้ ทำให้“ตระกูลชินวัตร” จำเป็นต้องกำกับทิศทางพรรคเพื่อไทยต่อไป ในระหว่างที่ “นายใหญ่” ไร้อิสรภาพ ต้องจำคุก 1 ปี

ขณะเดียวกัน มีเสียงโยนหินถามทางเลือก จากคนหลังฉากในเพื่อไทย เป็นประเด็นให้ร่วมคิดกันว่า เพื่อไทยจำเป็นต้องแตกไลน์ หรือแตกแบงก์พัน เหมือนโมเดล“พรรคไทยรักษาชาติ” หรือทษช.ในอดีตหรือไม่ 

โดยการทำพรรคใหม่ ที่ปราศจากนักการเมืองหน้าเก่า รูปแบบตั้งพรรคขึ้นใหม่ อาจยึดโมเดลที่พรรคส้ม “อนาคตใหม่” เคยทำแล้วประสบความสำเร็จต่อเนื่อง มายังพรรคก้าวไกล และพรรคประชาชน

อย่างไรก็ตาม สูตรแตกแบงค์พัน ตั้งพรรคใหม่ อาจเป็นเรื่องยากในอนาคต และเป็นจุดอ่อน เพราะยุคนี้ประชาชนรู้ทันนักเลือกตั้ง หากต้องกลับไปใช้สูตรเหล้าเก่าในขวดใหม่ โจทย์นี้จึงเป็นเพียงไอเดีย ที่มีการเสนอและคิดกันในพรรคเพื่อไทย แต่ยังไม่ถึงขั้นที่ผู้นำสูงสุดของพรรคจะตัดสินใจ

ทางเลือกทางรอดของ “พรรคเพื่อไทย” ในการเลือกตั้งใหญ่ ครั้งต่อไป ยังเป็นการ "รักษาแบรนด์ชินวัตร" ที่จับต้องได้ โดยเฉพาะเรื่องนโยบายที่เป็นรูปธรรม จากความสำเร็จในอดีต ที่ต้องสานต่อไปในรัฐบาลใหม่ หากได้กลับมาเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล เพราะประเมินแล้วว่า คนที่ชื่นชอบชินวัตรยังคงมีอยู่ เพียงแต่ต้องรีแบรนด์พรรค ปิดจุดอ่อนโดยเร็ว

นับจากเดือน ต.ค.เป็นต้นไป พรรคเพื่อไทยจะเร่งจัดทัพว่าที่ผู้สมัคร สส.ให้ครบ 400 เขต โดยกลุ่มทุนในพรรคเพื่อไทยยังยืนยันจะไปต่อกับค่ายแดง ซึ่งจะทำให้พรรคตรึงฐานเสียงที่ยังแข็งแรงให้อยู่กับพรรคได้ ขณะเดียวกัน ก็ยังรอลุ้นด้วยว่า “ผู้นำสูงสุดของพรรค” จะออกจากเรือนจำก่อนกำหนด 1 ปีหรือไม่

ค่ายแดง ‘เพื่อไทย’ รีแบรนด์‘ชินวัตร’ สกัดขาลง 'พรรคต่ำร้อย'

โจทย์ยากที่สุดของ “คนชินวัตร” และคีย์แมนค่ายแดง คือรีแบรนด์พรรค การรักษาฐาน สส.ของพรรค ไม่ให้ต่ำกว่าหลักร้อย 

จึงถือว่าเป็นความท้าทายไม่น้อย ภายใต้สถานการณ์ที่ศัตรูของพรรคเพื่อไทยในสนามเลือกตั้ง ที่ต้องเผชิญ ทั้ง ภูมิใจไทย-กล้าธรรม-ประชาชน จึงเสมือนถูกรุมกินโต๊ะในแทบทุกพื้นที่ของค่ายแดง 

โอกาสที่เพื่อไทยจะไปถึงตำแหน่งพรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาลจึงยากยิ่งกว่าทุกครั้ง