ล้วงลึกเปิดด่านจันทบุรี-ตราด กองทัพ หัก ‘รัฐมนตรีกลาโหม’ ?

ล้วงลึกเปิดด่านจันทบุรี-ตราด  กองทัพ หัก ‘รัฐมนตรีกลาโหม’ ?

"กองทัพ" ได้รับสัญญาณให้เปิดด่านจันทบุรี - ตราด ผ่อนคลายเศรษฐกิจ ท่ามกลางความเคลื่อนไหวทหารกัมพูชายังคุกคามทหารไทย

KEY

POINTS

  • รัฐบาลมีนโยบายให้เปิดด่านผ่อนคลายเศรษฐกิจ ส่วนทหารเป็นเครื่องมือของรัฐบาล ต้องดำเนินการ แต่ต้องทำโดยกำหนดมีเงื่อนไข
  • กองทัพอยากยื้อการเปิดด่านไว้ให้นานที่สุด เพราะเป็นอำนาจต่อรองเดียวที่มีอยู่                           

กลายเป็นประเด็นร้อนฉ่า หลังการแถลงผลการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย-กัมพูชา(GBC) พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ ว่าที่ รมว.กลาโหม หนึ่งในนั้นมีประเด็นเปิดด่านจันทบุรี-ตราด พื้นที่กองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด(กปช.จต.)ขึ้นตรงกองทัพเรือ

โดย พล.อ.ณัฐพล ชี้แจงว่า กระทรวงกลาโหมได้กำหนด 3 โซน ตามระดับความตึงเครียด ได้แก่

โซนที่ 1 : ความตึงเครียดสูงสุด (ชายแดนกองทัพภาคที่ 2 – อุบลราชธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์)

โซนที่ 2 : ความตึงเครียดปานกลาง (ชายแดนกองทัพภาคที่ 1 – สระแก้ว)

โซนที่ 3 : ความตึงเครียดน้อย (กองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรี และตราด)

โดยเริ่มนำร่องมาตรการผ่อนปรนในโซนที่ 3 ก่อน พร้อมมอบหมายให้คณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (RBC) ร่วมกำหนดรายละเอียด เช่น ประเภทสินค้า เวลาผ่านแดน และจำนวนเที่ยวรถ พร้อมตบท้ายว่า

“ต้นเหตุของการเปิดด่านเกิดจากประเทศที่สาม ไม่ได้เกิดจากประเทศไทย และกัมพูชา เนื่องจากประเทศที่สาม แจ้งมาว่าไทย-กัมพูชา มีความขัดแย้งกัน เขาเกี่ยวอะไรด้วย ทำให้เขาเดือดร้อน ซึ่งเรื่องนี้เป็นเหตุผลที่เรารับฟัง จึงเป็นที่มาของการหาทางออก ซึ่งไทย และกัมพูชาก็เห็นด้วย” พล.อ.ณัฐพล กล่าว

สอดรับ พล.อ.เตีย เซ็ยฮา  รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม แถลงข่าวที่เกาะกง ผลประชุม GBC รวม 5 ข้อ ในตอนหนึ่ง ระบุว่า ญี่ปุ่น ร้องขอไทย-กัมพูชา เปิดด่านให้ส่งออก-นำเข้าสินค้าที่จำเป็น

ว่าที่“รมว.กลาโหม” พล.อ.ณัฐพล โดนทัวร์ลงฉ่ำ จนต้องให้ โฆษกกลาโหม ออกมาชี้แจง ว่ายังไม่มีการเปิดด่านในขณะนี้ มาตรการดังกล่าว เป็นเพียงการหารือเชิงหลักการ โดยหากมีการดำเนินการในอนาคต

ย้อนกลับช่วงการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาคชายแดนไทย-กัมพูชา (RBC) ในพื้นที่ กปช.จต. ช่วงปลายเดือนก.ค.โดยฝ่ายการเมืองระบุรัฐบาลมีนโยบายเปิดด่าน หากจะดำเนินการต้องทำอย่างไร

โดยการประชุม RBC ในวันนั้น ฝ่ายกัมพูชาพยายามสอบถามเรื่องการเปิดด่าน แต่ฝ่ายไทยตัดจบ ไม่พูดคุยถึงประเด็นนี้ นอกจากความร่วมมือเก็บกู้วัตถุระเบิด การปราบปรามสแกมเมอร์

นอกจากนี้ กปช.จต. ได้มีการพูดคุยเป็นการภายในกับ กองทัพภาคที่ 2 (ทภ.2) กองทัพภาคที่ 1 (ทภ.1) ไม่ได้มีปัญหากับการเปิดด่าน หากเป็นนโยบายของรัฐบาล ก็ต้องปฏิบัติ เพราะทหารเป็นกลไกหนึ่งของรัฐบาล และเป็นเรื่องดี ประชาชนจะได้มีช่องทางทำกิน มีรายได้เพิ่มขึ้น

ทว่า ควรจะเคลียร์ปัญหาพื้นที่กองทัพภาคที่ 2 (ทภ.) ให้แล้วเสร็จเสียก่อน เนื่องจากปัจจุบันทหารกัมพูชายังมีพฤติกรรมคุกคามทหารไทยพื้นที่ ทภ.2 ทั้งการลอบวางทุ่นระเบิด บินโดรน

รวมถึงจัดการปัญหาบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว พื้นที่ ทภ.1 ให้จบ พร้อมทั้งให้เหตุผลว่า กปช.ชต. ทภ.2 และ ทภ.1 ต้องเป็นเนื้อเดียวกันจะมาแบ่งแยกไม่ได้

“เราทำทุกอย่าง เราเป็นเอกภาพจะมาแบ่งพวกไม่ได้ พื้นที่ ทภ.2 ต้องเคลียร์ให้จบ ถ้าทางโน้นยินดีถอน นั่นหมายความว่าเขาอยากเปิดด่านสุดๆ ถ้าถอนออกจริงๆ ต้องมาวัดกันอีก ได้เสียเท่าไร บ้านหนองจานจะให้จบก่อน ยังไม่อยากให้กัมพูชาได้ตามที่ต้องการ” แหล่งข่าวความมั่นคง ระบุ

จนเป็นที่มา ทีมเลขาฯ จีบีซีฝ่ายไทย-กัมพูชา หารือกันระหว่างวันที่ 7-9 ก.ย.68 ที่เกาะกง โดยฝ่ายกัมพูชาให้การต้อนรับฝ่ายไทยเป็นอย่างดี จัดอาหารพร้อมเลี้ยงดูปูเสื่อ บรรยากาศไร้ความตึงเครียด แต่ทีมเลขาฯ จีบีซีฝ่ายไทย ขอกลับไปรับประทานอาหารฝั่งไทย

โดยตลอด 3 วัน ทีมเลขาฯ ฝ่ายไทย ประกอบด้วย ทภ.2 ทภ.1 และกปช.จต. ลงความเห็นกันว่า หากรัฐบาลมีนโยบายให้เปิดด่านในฐานะที่เป็นทหารเป็นเครื่องมือของรัฐบาล ต้องดำเนินการ แต่จะมาทำโดยไม่มีเงื่อนไขคงไม่ได้

ทีมเลขาฯ ฝ่ายไทย จึงเสนอให้ถอนอาวุธหนักที่มีแสนยานุภาพร้ายแรงออกจากชายแดนทั้งหมด และต้องตรวจสอบได้ว่า มีการขนออกไปจริง ร่วมถึงการเก็บกู้ทุ่นระเบิด การปราบสแกมเมอร์ ฝ่ายกัมพูชาตอบรับทั้งหมด

ทว่าในทางลับ กองทัพอยากยื้อการเปิดด่านไว้ให้นานที่สุด เพราะเป็นอำนาจต่อรองเดียวที่มีอยู่ อีกทั้งทหารบาดเจ็บล้มตาย ประชาชนเสียชีวิต อย่างน้อยก็จนกว่าจะได้พื้นที่บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว คืนมาทั้งหมด โดยไม่ใช้กลไกคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา(JBC) ที่ไม่รู้จะได้ข้อยุติเมื่อไหร่

สอดคล้องกับ พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวถึงกรณีนี้ว่า "การเปิด-ปิดด่านส่งผลต่อเศรษฐกิจของกัมพูชา เพราะทรัพยากรสินค้าส่วนใหญ่มาจากประเทศไทย ฝั่งนั้นมีทั้งบ่อนกาสิโน และที่หลอกลวงทางโซเชียลมีเดีย ตลอดแนวชายแดน สินค้าบางส่วน เช่น ปูนซีเมนต์ น้ำมัน จะกลับมาทำร้ายทหารไทย การทำให้เขาไม่เดือดร้อน รบกับประเทศไทยก็อยู่ได้ เพราะเขามีกินตลอด นี่คือ เหตุผลว่า ทำไมต้องปิดด่าน"

“การเปิดด่าน ทำให้เขาเข้มแข็ง น้ำมัน และปูนซีเมนต์ รวมถึงเครื่องอุปโภค บริโภคก็จะเข้าไป ซึ่งมาจากประเทศไทยทั้งนั้น แม้กระทั่งเรื่องการเปิดด่าน มีประชาชนถูกมอมเมาจากบ่อนการพนัน หมดเนื้อหมดตัว เป็นหนี้สิน อันนี้ก็มาจากเรื่องการเปิดด่าน จึงไม่รู้ว่าเป็นประโยชน์ของใคร ควรคิดให้ดีเรื่องด่าน แต่รัฐบาลอาจมีเหตุผลของเขา ต้องฟังว่าเป็นอย่างไร” พล.ท.บุญสิน ขยายให้เห็นปัญหา

กลายเป็นเครื่องหมายคำถามว่า เกิดอะไรขึ้นกับแนวทางการแก้ปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา ระหว่าง พล.อ.ณัฐพล ซึ่งเป็นฝ่ายนโยบายกับกองทัพ ในฐานะผู้ปฏิบัติงาน ที่เห็นไม่ตรงกัน

หากการเปิดด่านตามความต้องการของกัมพูชา และประเทศที่สาม “เสียไม่คุ้มได้” แทบไม่เอื้อประโยชน์ใดๆ กับประเทศไทยอย่างแท้จริง  

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์