'เปรมศักดิ์' เสียดาย 'ศาลรธน.' ปิดทาง ประชาชนเลือก สสร.โดยตรง

"สว.เปรมศักดิ์" ห่วงมีไอ้โม่งตั้งคนร่างรธน. หลัง "ศาลรธน." วินิจฉัยปิดทางประชาชนนเลือก "สสร." โดยตรง พร้อมประเมินไทม์ไลน์แก้รธน. จากนี้ยาว2 ปี
ที่รัฐสภา นพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ สว. ฐานะผู้ยื่นญัตติต่อรัฐสภาเพื่อส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยเกี่ยวกับหน้าที่และอำนาจของรัฐสภา ในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ กล่าวถึงคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมที่กำหนดให้ทำประชามติแก้รัฐธรรมนูญ 3 ครั้ง และห้ามประชาชนเลือกสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) โดยตรง ว่า เป็นเรื่องที่น่าเสียดายที่ศาลรัฐธรรมนูญไม่ให้ประชาชนเลือกผู้ร่างรัฐธรรมนูญโดยตรง และตนเชื่อว่าอาจเกิดเดดล็อกกับการแก้รัฐธรรมนูญ จนกลายเป็นวิกฤตได้ เพราะหากประชาชนไม่ได้เลือก สสร. โดยตรง อาจมีไอ้โม่งมาชักใยคุมคนยกร่างรัฐธรรมนูญเพื่อสถาปนาอำนาจตัวเองให้ยาวนานที่สุด
"พรรคการเมืองบางพรรคมีอำนาจเบ็ดเสร็จคุมทั้งสภาล่างสภาบน โดยเฉพาะ สว.สีน้ำเงินซึ่งเป็นเสียงส่วนใหญ่ ในการเลือกคน เพื่อมาร่างรัฐธรรมนูญ จึงเชื่อว่า รัฐธรรมนูญฉบับใหม่อาจจะออกแบบมาตามที่มีคนบงการมาหรือไม่ และคงไม่เป็นประชาธิปไตยอย่างแน่นอน" นพ.เปรมศักดิ์ กล่าว
นพ.เปรมศักดิ์ กล่าวต่อว่าสำหรับจำนวนครั้งทำประชามติที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้ทำ 3 ครั้ง แต่สามารถรวมครั้งแรกกับครั้งที่สองได้ ดังนั้นตนมีข้อเสนอให้ทำพร้อมกัน โดยใช้คำถามว่า 1.ท่านเห็นชอบให้จัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่เพื่อใช้แทนรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2560 หรือไม่ 2.หากท่านเห็นชอบให้จัดทำรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ ท่านเห็นชอบร่างรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่แนบมาหรือไม่ เช่น จัดให้มี สสร. ที่รัฐสภาเป็นผู้เลือก หรือตั้งคณะกรรมการหน้าที่ ตามคำวินิจฉัยว่า รัฐสภาไม่อาจให้ประชาชนเลือกผู้ร่างรัฐธรรมนูญได้โดยตรง และกำหนดระยะเวลา อำนาจหน้าที่ กระบวนการที่จำเป็นอย่างชัดเจน
นพ.เปรมศักดิ์ กล่าวต่อว่าส่วนประชามติครั้งที่ 3 ทำเมื่อ สสร. ที่เลือกมาโดยกระบวนการใดก็ตาม และเมื่อร่างรัฐธรรมนูญเสร็จแล้ว ให้ประชาชนออกเสียงประชามติว่า เห็นชอบตามรัฐธรรมนูญที่ร่างมาหรือไม่ ซึ่งกระบวนการทั้งหมด น่าจะใช้เวลาประมาณ 2 ปี และตนหวังว่ากระบวนการดังกล่าวจะไม่มีใครมาขัดขวางให้สะดุดหยุดลง หรือเหนียวรั้งกระบวนการแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2560 อีกต่อไป





