'ภูมิธรรม' รับต้องปฏิรูป 'เพื่อไทย' เตรียมพร้อมเลือกตั้งหน้า

'ภูมิธรรม' ปัดเปลี่ยนตัว 'ม้าศึก' กลางคัน 'อุ๊งอิ๊ง' รับบทหัวหน้าเพื่อไทยอยู่ แต่รับต้องรื้อระบบ ปฏิรูปพรรคใหม่ เตรียมพร้อมเลือกตั้งครั้งหน้า
KEY
POINTS
- นายภูมิธรรม เวชยชัย แกนนำพรรคเพื่อไทย ยอมรับว่าพรรคเพื่อไทยจำเป็นต้องมีการปรับปรุงและปฏิรูป เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการเลือกตั้งครั้งต่อไป
- ชี้แจงว่าที่ผ่านมาแกนนำพรรคหลายคนไปทำหน้าที่บริหารประเทศ ทำให้ไม่มีเวลาทำงานในพรรค ซึ่งเป็นข้อบกพร่องที่ต้องกลับไปแก้ไข
- ยืนยันว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร จะยังคงดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคต่อไป เนื่องจากสมาชิกพรรคยังคงให้การสนับสนุน
เมื่อวันที่ 10 ก.ย.2568 ที่กระทรวงมหาดไทย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี ในฐานะแกนนำพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีการเปลี่ยนตัวหัวหน้าพรรคเพื่อไทย จะไม่มีการเปลี่ยนม้ากลางศึกใช่หรือไม่ ว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ประกาศชัดเจนแล้วว่าจะยังคงอยู่กับพรรคหากสมาชิกคิดว่า น.ส.แพทองธารยังทำงานได้ ทางสมาชิกก็คิดเช่นนั้นอยู่
"ยืนยันว่าพรรคเพื่อไทยมีความพร้อมในหลายเรื่อง เพียงแต่ต้องทำให้เข้าระบบ ที่ผ่านมาตอนที่ไปบริหารประเทศ หลายคนก็ไม่ได้มีโอกาส และไม่มีเวลาเข้าพรรค ซึ่งเป็นข้อบกพร่องที่เราก็สำนึกอยู่ว่าจะกลับไปทำงานชดเชย" นายภูมิธรรม กล่าว
เมื่อถามว่า ในที่ประชุม สส.พรรคเมื่อวันที่ 9 ก.ย.ที่ผ่านมา น.สแพทองธาร ได้การกำหนดทิศทางของพรรคเพื่อไทยหลังจากนี้อย่างไร นายภูมิธรรม กล่าวว่า เราเตรียมตัวปรับปรุงพรรคและปฏิรูปพรรค กลับไปสร้างระบบ ประสานงานต่างๆให้ดี และเดินหน้าเข้าสู่การเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้น
เมื่อถามว่า การเลือกตั้งซ่อมศรีสะเกษ ที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 28 ก.ย.นี้ แกนนำพรรคเพื่อไทยจะลงพื้นที่ไปช่วยหาเสียงหรือไม่นายภูมิธรรม กล่าวว่า ยังไม่ทราบรายละเอียด เนื่องจากเพิ่งจะกลับเข้าไปทำงานที่พรรคเมื่อวันที่ 9 ก.ย. แต่เชื่อว่า ทางกระบวนการเลขาธิการพรรค และหัวหน้าพรรคคงได้จัดวางไว้หมดแล้ว
เมื่อถามว่า กรณีที่เพจ CSI LA ออกมาแฉเครือข่ายก๊วนเดียวกันของน.ส.แพทองธาร ที่ใช้การเมือง-ธุรกิจ-โปรเจกต์รัฐ หมุนหาผลประโยชน์เข้าหาตัวเอง ซึ่งมีความเชื่อมโยงกับคนใกล้ชิดของน.ส.แพทองธาร พร้อมปรากฏชื่อนายปิฎก สุขสวัสดิ์ สามี และนายคณาพจน์ โจมฤทธิ์ คณะทำงานของน.ส.แพทองธาร นั้น นายภูมิธรรม กล่าวว่า เรื่องนี้ก็พูดยากว่าใครใกล้ตัวขนาดไหน แต่เป็นสิ่งที่กระบวนการยุติธรรมต้องดำเนินการ และคิดว่าจะแจ้งชัดก็ต่อเมื่อทุกอย่างชัดเจน แต่มองว่าไม่เป็นไร เพราะเราเป็นนักการเมืองเราพร้อมที่จะถูกตรวจสอบ







