‘ภูมิใจธรรม’ ระส่ำสงขลา รุมกินโต๊ะเกมเสี่ยง ‘เดชอิศม์’

‘ภูมิใจธรรม’ ระส่ำสงขลา รุมกินโต๊ะเกมเสี่ยง ‘เดชอิศม์’

สัญญาณ “รุมกินโต๊ะ” จาก 3 พรรค คือ ภูมิใจไทย กล้าธรรม และรวมไทยสร้างชาติ เชื่อได้เลยว่า การเลือกตั้งรอบหน้าจะกลายเป็นเกมเสี่ยงที่ “เลขา ชาย” อาจต้องกรำศึกหนักกว่ารอบที่แล้ว

KEY

POINTS

  • โหมดการเมืองเริ่มเปิดฉาก ส่งสัญญาณชักธงรบไปถึงการเลือกตั้งที่กำลังจะเกิดขึ้นในอีกไม่ช้าไม่นาน หลังจากนี้ 
  • “สมรภูมิภาคใต้” ที่รอบนี้อาจได้เห็นการขับเคี่ยวชิงชัยจากหลากหลายพรรคการเมือง เห็นได้ชัดที่ จ.สงขลา เกิดปรากฎการณ์ “ภูมิใจธรรม” คือ พรรคภูมิใจไทย+กล้าธรรม
  • เริ่มเห็นสัญาณ“รุมกินโต๊ะ”จาก 3 พรรค คือ ภูมิใจไทย กล้าธรรม และรวมไทยสร้างชาติ ด้วยแล้ว เชื่อได้เลยว่า การเลือกตั้งรอบหน้าจะกลายเป็นเกมเสี่ยงที่ “เลขาชาย” อาจต้องกรำศึกหนักกว่ารอบที่แล้ว 
  • การเมืองยุคนี้ “กระสุน”สำคัญไม่น้อยไปกว่า“กระแส” ย่อมส่งผลให้แต้มต่อการเมือง ตามมาด้วยราคาค่างวดที่ต้องจ่าย

โผ ครม.อนุทิน1 เสร็จเรียบร้อยเกือบ 100% โดยหลังมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ครม.ชุดใหม่ นายกรัฐมนตรีจะนำ ครม.เข้าถวายสัตย์ปฏิญาณ ก่อนเริ่มบริหารราชการแผ่นดินภายใต้การนำของ “นายกฯ หนู” อนุทิน ชาญวีรกูล อย่างเต็มรูปแบบหลังแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภาเสร็จสิ้น 

ทว่า ภายใต้สารพัดโจทย์ใหญ่ที่รัฐบาลจำต้องเร่งสะสางให้แล้วเสร็จภายใน 4 เดือน ก่อนมีการประกาศยุบสภา ยังไม่นับรวมช่วงรักษาการหลังยุบสภา ระหว่างรอผลเลือกตั้งเบ็ดเสร็จรัฐบาลจะใช้เวลาบริหารประเทศ 6-8 เดือน 

ยังเป็นจังหวะเดียวกันกับที่โหมดการเมืองเริ่มเปิดฉาก ส่งสัญญาณชักธงรบไปถึงการเลือกตั้งที่กำลังจะเกิดขึ้นในอีกไม่ช้าไม่นาน หลังจากนี้ 

โดยเฉพาะ “สมรภูมิภาคใต้” ที่รอบนี้อาจได้เห็นการขับเคี่ยวชิงชัยจากหลากหลายพรรคการเมือง เห็นได้ชัดที่ จ.สงขลา การเมืองส่อแวว “รุมกินโต๊ะ” จากปรากฏการณ์ “ภูมิใจธรรม” คือ พรรคภูมิใจไทย+กล้าธรรม

ไล่ตั้งแต่การปรากฏซีนที่  “พิพัฒน์ รัชกิจประการ” อดีต รมว.แรงงาน แม่ทัพภาคใต้ค่ายสีน้ำเงิน เดินทางเยือนบ้านใหญ่เขารูปช้างของ “นิพนธ์ บุญญามณี” อดีตรมช.มหาดไทย แห่งพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อ 11 ส.ค.68 ที่ผ่านมา 

โดยมี “สรรเพชญ บุญญามณี” สส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ลูกชายนิพนธ์ รวมถึง “โกถึก” สมยศ พลายด้วง สส.สงขลา ประชาธิปัตย์ ซึ่งก่อนหน้านี้มีกระแสข่าวว่า เตรียมย้ายไปพรรคกล้าธรรม ร่วมอยู่ในวงดังกล่าว 

ถือเป็นการตอกย้ำเกมการเมืองสไตล์ “พรรคสีน้ำเงิน”  ที่เดินหน้าเปิดโปรโมชั่นย้ายค่าย รองรับการเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึง 

จึงไม่แปลกที่ “โผ ครม.อนุทิน1” จะมีชื่อ“นิธิยา บุญญามณี” ลูกสาวของนิพนธ์ เป็นรมช.พาณิชย์ แทนผู้เป็นบิดา ซึ่งติดปัญหาคุณสมบัติ หรืออีกนัยหนึ่งเพื่อเป็นรางวัลต่างตอบแทน “3 สส.ปชป.” ที่โหวตให้อนุทินเป็นนายกฯ 

‘ภูมิใจธรรม’ ระส่ำสงขลา รุมกินโต๊ะเกมเสี่ยง ‘เดชอิศม์’

ไหนจะกรณีที่ “อนุกูล พฤกษานุศักดิ์” อดีตรองโฆษกรัฐบาล อดีตผู้สมัคร สส.สงขลา แห่งพรรคกล้าธรรรม โพสต์สเตตัสถึงศึกเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึง ระบุว่า “สงขลาวันนี้ อ่านว่าเหลือ 2 พรรค ปชป.VS ภูมิใจธรรม เขต1/2/3/4/6/7”

ต่อมา ยังโพสต์ภาพร่วมเฟรม 4 สส.สงขลา ประกอบด้วย ชนนพัฒฐ์ นาคสั้ว จากพรรคกล้าธรรม สมยศ พลายด้วง จากพรรคประชาธิปัตย์ และเป็นหนึ่งใน 3 สส.ที่โหวตอนุทิน ศาสตรา ศรีปาน จากพรรครวมไทยสร้างชาติ และเป็น 1 ใน 16 สส.สายสุชาติ ชมกลิ่น ว่าที่รองนายกรัฐมนตรี และรมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และ ณัฐชนน ศรีก่อเกื้อ สส.สงขลา พรรคภูมิใจไทย

พร้อมติดแคปชั่น วันนี้สบายใจ "เขต 6" ไม่เดียวดาย มีพี่ มีเพื่อน มีพวกพ้อง ขอเสียงสมาชิกหน่อย ฮิ้วววว! #หรอยแหละรอบนี้ #ภูมิใจธรรม #สงขลา #พรรคกล้าธรรม #ได้คนบ้านเรา

‘ภูมิใจธรรม’ ระส่ำสงขลา รุมกินโต๊ะเกมเสี่ยง ‘เดชอิศม์’

ส่องลึกสนามสงขลาในการเลือกตั้งรอบที่ผ่านมา มี สส.9 ที่นั่ง โดยแบ่งเป็น พรรคประชาธิปัตย์ 6 ที่นั่งประกอบด้วย เขต 1  สรรเพชญ เขต 3 สมยศ เขต 5 เดชอิศม์ ขาวทอง เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ เขต 6 สุภาพร กำเนิดผล ภรรยาเดชอิศม์ เขต 8  พล.ต.ต.สุรินทร์ ปาลาเร่ และเขต 9 ศักดิ์สิทธิ์ ขาวทอง ลูกชายเดชอิศม์

ส่วนที่เหลืออีก 3 เขต 3 พรรค แบ่งกันไปคนละเขต ประกอบด้วย เขต 2 ศาสตรา แห่งพรรครวมไทยสร้างชาติ เขต 4 ชนนพัฒฐ์ จากพรรคพลังประชารัฐ ปัจจุบันย้ายมาสังกัดพรรคกล้าธรรม และเขต 7 ณัฏฐ์ชนน แห่งพรรคภูมิใจไทย

ขณะที่“โบ๊ต อนุกูล” น้องรักผู้กองธรรมนัส พรหมเผ่า รอบที่ผ่านมา ลงชิงเขต 6 ในนามพลังประชารัฐ ชนกับ “มาดามน้ำหอม” สุภาพร ภรรยาเดชอิศม์ แพ้ไปเพียง 1 พันกว่าคะแนน รอบนี้เจ้าตัวที่ย้ายมาสังกัดพรรคกล้าธรรม เตรียมลงแก้มือหวังสางแค้น “น้ำหอม” อีกรอบ 

แน่นอนว่า ในสภาวะที่สนามการเมืองสงขลา อาจถึงคราเปลี่ยน จากที่เคยผูกขาดด้วยพรรคสีฟ้า ไม่ต่างจาก “เดชอิศม์” จากเดิมมี สส.ในมือ 5 คนจาก สส.ปชป.ทั้งหมด 6 คน กุมเสียงข้างมากในพรรคประชาธิปัตย์ 

ถึงนาทีนี้ อาจไม่เป็นเช่นนั้นอีกต่อไป จากเสียงในมือ 5 เสียง ทว่าท่ามกลางกระแสความไม่ลงรอยภายในพรรค

โดยเฉพาะความสัมพันธ์ระหว่าง “โกถึก” และ “เลขาชาย” ที่ส่งสัญญาณชัด เตรียมแยกทาง ชนิดไร้วี่แววสมานรอยร้าว ทำให้เวลานี้เหลือเสียง สส.ในมือเพียง 4 คน

ยิ่งเวลานี้ เริ่มเห็นสัญญาณ “รุมกินโต๊ะ” จาก 3 พรรค คือ ภูมิใจไทย กล้าธรรม และรวมไทยสร้างชาติ ด้วยแล้ว เชื่อได้เลยว่า การเลือกตั้งรอบหน้าจะกลายเป็นเกมเสี่ยงที่ “เลขาชาย” อาจต้องกรำศึกหนักกว่ารอบที่แล้ว เป็นเท่าทวีคูณ 

‘ภูมิใจธรรม’ ระส่ำสงขลา รุมกินโต๊ะเกมเสี่ยง ‘เดชอิศม์’

อันที่จริงโมเดล “พวกเหนือพรรค” เปิดเกม “รุมกินโต๊ะ” ก็ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใหม่ในสนามเลือกตั้งภาคใต้ หากยังจำกันได้ เมื่อครั้งเลือกนายก อบจ.นครศรีธรรมราช เมื่อช่วงเดือนพ.ย.2567 ที่ผ่านมา “ภูมิใจไทย” ก็เคยใช้โมเดลนี้ โดยการจับมือกับพรรครวมไทยสร้างชาติสนับสนุน “น้ำ” วาริน ชิณวงศ์ ชิงนายก อบจ. 

ผลการเลือกตั้งครั้งนั้น ปรากฏว่า “น้ำ” วาริน สามารถล้ม “นายกต้อย” กนกพร เดชเดโช แชมป์เก่า ซึ่งเป็นมารดาของ “ชัยชนะ” เดชเดโช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รับผิดชอบพื้นที่ภาคใต้ได้สำเร็จ 

ฉะนั้น จึงไม่แปลก ที่ในห้วงเกมการเมืองกำลังเปิดฉากชิงอำนาจ โมเดลดังกล่าว จะกลายเป็นหมากที่พรรคการเมืองนำกลับมาใช้อีกครั้ง 

ยิ่งการเมืองยุคนี้ “กระสุน” สำคัญไม่น้อยไปกว่า “กระแส” ย่อมส่งผลให้แต้มต่อการเมือง ตามมาด้วยราคาค่างวดที่ต้องจ่าย

การเลือกตั้งที่กำลังจะเกิดขึ้นในอีกไม่ช้าไม่นานหลังจากนี้ ผู้สมัครคนไหนคิดจะเป็น “เสาไฟฟ้า” หวังอิงกระแสพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่ง โอกาสตีตั๋วผู้แทนเข้าสภาฯ อาจผิดหวังมากกว่าสมหวังเป็นได้! 

 

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์