‘พล.อ.ณัฐพล’ ตั๋วพิเศษกลาโหม โซ่ข้อกลาง 'กองทัพ-การเมือง’

1 ใน 4 ภารกิจเร่งด่วน ของ “อนุทิน ชาญวีรกูล” ที่ประกาศไว้หลังได้รับการโปรดเกล้าฯเป็น “นายกรัฐมนตรี คนที่ 32” ของประเทศไทย จะเร่งแก้ปัญหาพิพาทชายแดนไทย-กัมพูชา ด้วยแนวทางสันติภาพ ลดความสูญเสียของประชาชน 

ภายใต้หลักการ ไทยไม่ยอมเสียดินแดนแม้แต่ตารางเซนติเมตรเดียว และคนไทยต้องไม่เสียประโยชน์ สามารถดำเนินชีวิตอย่างปกติสุข โดยรัฐบาลจะเร่งชดเชยให้พี่น้องผู้ประสบภัยอย่างรวดเร็ว และครอบคลุมทุกหลังคาเรือน

1 ปีเต็ม หลักสูตร วปอ.คอนเนคชัน ปี 2561 “อนุทิน” ซึมซับวัฒนธรรม ประเพณีคนในกองทัพ วัดได้จากการออกหน้าคัดค้านการแก้ พ.ร.บ.จัดระเบียบกลาโหม สกัดรัฐประหาร ฉบับ สส.พรรคเพื่อไทย

"การปฏิวัติมีไม่กี่เงื่อนไข และส่วนใหญ่ก็มาจากนักการเมือง หากเราไม่ทำอะไรให้เข้าเงื่อนไข ก็ปฏิวัติไม่ได้ ต่อให้ออกกฎหมายอะไรมา ถ้ามีการปฏิวัติ สิ่งแรกที่ทำก็คือ การฉีกรัฐธรรมนูญ ดังนั้น ตรงนี้ที่จะทำก็อาจเป็นแค่สัญลักษณ์ บังคับใช้อะไรไม่ได้ ดีที่สุดก็ต้องทำตัวให้ดี ต้องซื่อสัตย์สุจริต อย่าขี้โกง อย่าไปยุแยงให้ใครแตกความสามัคคี อย่าไปลงถนน จนทำให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อย ทุกอย่างก็มีอยู่แค่นี้” อนุทิน กล่าวไว้เมื่อวันที่ 9 ธ.ค.2567

จนมาถึงการคัดเลือกคนมานั่งเก้าอี้ “รมว.กลาโหม” ซึ่งเป็นโควตากลาง โดยรายชื่อที่โผล่มา ล้วนเป็นอดีตทหารทั้งสิ้น เช่น ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ พล.อ.ณัฐ อินทรเจริญ และพล.อ.สุพจน์ มาลานิยม

ก่อนจะมาลงตัวที่ชื่อ “พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์” หรือบิ๊กเล็ก รักษาการ รมช.กลาโหม จากพรรครวมไทยสร้างชาติ ด้วยเหตุผลไม่อยาก“เปลี่ยนม้ากลางศึก” เพราะ พล.อ.ณัฐพล แก้ปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา มาตั้งแต่เริ่มจนถึงปัจจุบัน

ทั้ง “อนุทิน-พล.อ.ณัฐพล” คุ้นเคยกันเป็นอย่างดี ได้ทำงานร่วมกันยุครัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แก้ไขปัญหาการระบาดของโควิด-19 ซึ่งขณะนั้น “อนุทิน” เป็น รมว.สาธารณสุข ส่วน “พล.อ.ณัฐพล” เป็นเลขาฯสมช.และ ผอ.ศบค. จนมาถึงยุครัฐบาลเศรษฐา ทวีสิน ต่อเนื่องจนมาถึง รัฐบาลแพทองธาร ชินวัตร

สำหรับ พล.อ.ณัฐพล มีชื่อจะได้เป็น รมว.กลาโหม ตั้งแต่ช่วงต้นรัฐบาลเศรษฐา แต่ดีลการเมืองรอบนั้นไม่เป็นผล จึงได้นั่งแค่เลขานุการ รมว.กลาโหม ยุค สุทิน คลังแสง โดยได้รับมอบหมายรับผิดชอบการปรับโครงสร้างกองทัพตามนโยบายรัฐบาล

จากนั้น พล.อ.ณัฐพล ได้ขยับขึ้นมานั่ง รมช.กลาโหม โดยมี ภูมิธรรม เวชยชัย เป็น รมว.กลาโหม ในรัฐบาลแพทองธาร และได้รับมอบหมายแก้ปัญหาน้ำท่วมแม่สาย กลายเป็นผลงานชิ้นโบแดงรัฐบาลเพื่อไทย จนมาถึงปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา

กระทั่งมีการปรับ ครม.แพทองธาร 1/2 “พล.อ.ณัฐพล” ถูกจับตาว่า จะได้ขยับขึ้นมาเป็น รมว.กลาโหม แทนภูมิธรรม ที่ถูกโยกไปคุมกระทรวงมหาดไทย ท่ามกลางไฟชายแดนไทย-กัมพูชา ร้อนระอุ แต่ปรากฏว่าเก้าอี้ รมว.กลาโหม กลับถูกปล่อยว่างเอาไว้ 

กระแสข่าวด้านหนึ่งระบุว่า ดีลการเมือง อยากเปลี่ยนตัว หาคนใหม่แก้ชายแดนไทย-กัมพูชา จึงต้องรอแคนดิเดตอีกคน ปลดล็อกเงื่อนไข ที่ต้องเว้นวรรคจากตำแหน่ง สว. ครบในช่วงต้นเดือนต.ค.

ส่วนกระแสข่าวอีกด้าน ระบุว่า คนในพรรคเพื่อไทยยังไม่วางใจ พล.อ.ณัฐพล เสียทีเดียว แม้จะสร้างผลงานกู้วิกฤติน้ำท่วมแม่สายก็ตาม เพราะเป็นอดีตทหาร และใกล้ชิดคนในกองทัพ

ทั้งนี้ หากพลิกปูม พล.อ.ณัฐพล แกนนำเตรียมทหารรุ่น 20 รุ่นเดียวกับ พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ อดีตผบ.ทบ. เป็นที่ไว้วางใจของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เรียกมาช่วยงานสำคัญ จนกลายเป็นน้องรักอีกคน

ขณะที่สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาในห้วงรัฐบาลเพื่อไทยขาลง ชื่อ พล.อ.ณัฐพล ยังจำเป็น เพราะเป็นช่องทางประสานงานกับกองทัพ เช่นเดียวกับ “อนุทิน”ที่เข้ามารับไม้ต่อ ก็เล็งเห็นจุดแข็งนี้ 

“พล.อ.ณัฐพล” ยังมีน้องรักสายยุทธการ อย่าง พล.ท.ชัยพฤกษ์ ด้วงประพัฒน์ (ตท.26)รองเสธ.ทบ. ซึ่งในการปรับย้ายล่าสุด ได้ขยับเป็น เสธ.ทบ. เสธ.คู่ใจ พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ (ตท.26) ผบ.ทบ. และมีเพื่อน ตท.26 นั่งเก้าอี้สำคัญ มีผล 1 ต.ค.ทั้งสิ้น 

อาทิ พล.อ.ชิษณุพงษ์ รอดศิริ รอง ผบ.ทบ. พล.อ.ณรงค์ฤทธิ์ คัมภีระ ผู้ช่วย ผบ.ทบ. พล.ท.วีรยุทธ รักศิลป์ แม่ทัพภาคที่ 2 พล.ท.วรเทพ บุญญะ แม่ทัพภาคที่ 3 พล.ท.นรธิป โพยนอก แม่ทัพภาคที่ 4 พล.ท.อดุลย์ จันทร์มา ผบ.นสศ.

ส่วนกองบัญชาการกองทัพไทย พล.อ.ณัฐพล มีน้องรักอีกคน พล.อ.อุกฤษฎ์ บุญตานนท์ รอง ผบ.สส. ที่จ่อขึ้นเป็น ผบ.สส. เดือนต.ค.นี้ ที่สามารถ “สายตรง” ถึงกันได้

"เหตุผลที่เลือก พล.อ.ณัฐพล เพราะต้องการให้งานของกระทรวงกลาโหมต่อเนื่อง เรามองเรื่องประเทศชาติเป็นสำคัญ แต่เราอาจจะมีแนวทางใหม่ให้ท่าน เพราะที่ผ่านมา เห็นท่านบ่นๆ ว่า มีข้อจำกัดหลายเรื่อง จึงต้องทลายข้อจำกัดก่อน จะได้ทำงานสะดวก สิ่งสำคัญที่จะต้องเรียน พล.อ.ณัฐพล นำไปเป็นส่วนประกอบสำคัญในการประชุมจีบีซี วันที่ 10 ก.ย.68 ต้องหาทุกวิถีทาง ให้คนไทย หรือแม้กระทั่งคนกัมพูชา สามารถทำมาหากินค้าขาย ทำให้เศรษฐกิจของประชาชนทั้ง 2 ประเทศ กลับมาเป็นเหมือนเดิม" 

"ส่วนการทหารก็ว่ากันไป ก็จะไม่มีลดราวาศอก เพื่อปกป้องอธิปไตยของประเทศ เรื่องนี้ชัดเจน ส่วนเรื่องการทูต การเจรจาเพื่อหาข้อยุติให้ได้ เราก็ใช้กระทรวงการต่างประเทศ ทหารก็ทำหน้าที่ไป กระทรวงการต่างประเทศก็ทำหน้าที่ไป ใช้องคาพยพทุกด้านที่จะทำให้ความสัมพันธ์ 2 ประเทศ สู่จุดที่เป็นปกติ เหมือนก่อนที่จะมีปัญหาความขัดแย้ง" นายกฯ อนุทิน ชี้แจง

แม้อาจมองได้ว่า เหตุที่อนุทิน เลือกพล.อ.ณัฐพล เป็น รมว.กลาโหม ส่วนหนึ่งอาจมีดีลการเมือง เรื่องตั๋วพิเศษ แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่า พล.อ.ณัฐพล มีคุณสมบัติโดดเด่น คือ การเป็น “โซ่ข้อกลาง” ในการทำงานระหว่างกองทัพ และประสานการเมืองได้อย่างทะลุทะลวง

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์