เลขาฯ ปชน.แจงดัน 'อนุทิน' เพื่อ รธน.ใหม่ หวังสมาชิกไปต่อกับพรรค

เลขาฯ ปชน.แจงดัน 'อนุทิน' เพื่อ รธน.ใหม่ หวังสมาชิกไปต่อกับพรรค

สารจาก 'ศรายุทธิ์' เลขาฯ ปชน.ถึงสมาชิก ขอบคุณที่ร่วมวิจารณ์ ยันพรรคตัดสินใจดัน 'อนุทิน' ส่งผลอนาคตการเมืองไทยอีกหลายปีข้างหน้า ได้ทำ รธน.ใหม่ คาดเลือกตั้ง มี.ค.

KEY

POINTS

  • พรรคประชาชน (ปชน.) โหวตสนับสนุนนายอนุทิน ชาญวีรกูล เป็นนายกรัฐมนตรี ภายใต้เงื่อนไขให้รัฐบาลยุบสภาภายใน 4 เดือน
  • เป้าหมายหลักคือการเปิดทางไปสู่การจัดทำประชามติเพื่อร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่โดยสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ที่มาจากการเลือกตั้ง
  • เลขาธิการพรรคชี้แจงเหตุผลต่อสมาชิก และหวังว่าทุกคนจะร่วมเดินหน้ากับพรรคต่อไปเพื่อรณรงค์เรื่องรัฐธรรมนูญฉบับใหม่

เมื่อวันที่ 8 ก.ย. 2568 พรรคประชาชน (ปชน.) เผยแพร่สารจากเลขาธิการพรรค (นายศรายุทธิ์ ใจหลัก) ถึงสมาชิกพรรคประชาชนผู้เป็นเจ้าของพรรคทุกท่าน โดยระบุว่า สัปดาห์ที่ผ่านมา เป็นห้วงเวลาที่พรรคประชาชนเชิญกับการตัดสินใจครั้งสำคัญที่จะส่งผลอย่างยิ่งต่อการกำหนดทิศทางอนาคตของประเทศไทยและการเมืองไทยในอีกหลายปีข้างหน้า

การตัดสินใจใช้เสียง 143 เสียงของผู้แทนราษฎรของเรา โหวตให้กับคุณอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ได้ก่อให้เกิดรัฐบาลใหม่ บนเงื่อนไขที่เราได้ยื่นต่อพรรคภูมิใจไทย ว่า รัฐบาลชุดนี้จะยุบสภาภายใน 4 เดือนนับจากการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา และจัดการลงประชามติที่เปิดทางไปสู่การร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่โดยสภาร่างรัฐธรรมนูญที่มาจากการเลือกตั้ง ภายในไม่เกินวันเลือกตั้งทั่วไป

นั่นหมายความว่า หากรัฐบาลของคุณอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีคนที่ 32 ของประเทศไทย ไม่ผิดสัญญาที่ให้ไว้ต่อหน้าประชาชนไทยทั้งประเทศ เราจะมีการเลือกตั้งพร้อมกับการประชามติร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ภายในไม่เกินเดือน มี.ค.นี้

เราไม่ได้เลือกคุณอนุทินมาบริหารประเทศ แต่เลือกนายกรัฐมนตรีที่จะมาทำหน้าที่ยุบสภา คืนอำนาจกลับไปให้ประชาชนได้เลือกผู้นำที่ท่านต้องการ และเริ่มกระบวนการร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ขจัดรากเหง้าของปัญหาการเมืองไทย นั่นคือรัฐธรรมนูญ 2560 อันเป็นมรดกจากคณะรัฐประหารของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา

การตัดสินใจครั้งนี้ไม่ได้เป็นการตัดสินใจโดยคณะผู้บริหารของพรรคเพียงกลุ่มเดียว แต่เกิดจากการรับฟัง ถกเถียงแลกเปลี่ยน และหยั่งเสียงจากทุกองคาพยพของพรรค ตั้งแต่สมาชิกพรรค คณะทำงานจังหวัดทั่วประเทศ พนักงานพรรค สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรค และกรรมการบริหารพรรค และมติของทุกองคาพยพ ได้นำมาซึ่งการตัดสินใจลงนามใน MOA หรือ Memorandum of Agreement ระหว่างหัวหน้าพรรคประชาชน และหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย

เวลาจะพิสูจน์ว่ารัฐบาลใหม่จะทำตามสัตย์สัญญาที่ให้ไว้หรือไม่ แต่ในระหว่างนี้ พรรคประชาชนจะทำงานอย่างเต็มที่ในฐานะฝ่ายค้านอย่างตรงไปตรงมา ภารกิจของเรานับจากนี้ ไม่ใช่เพียงการตรวจสอบการบริหารงานและงบประมาณของรัฐบาลตามที่เคยเป็นมาเท่านั้น แต่เรายังมีภารกิจติดตามความคืบหน้าในการบรรลุสัญญาตาม MOA นั่นก็คือการเตรยมการประชามติรัฐธรรมนูญด้วย

เลขาฯ ปชน.แจงดัน 'อนุทิน' เพื่อ รธน.ใหม่ หวังสมาชิกไปต่อกับพรรค

ผมขอขอบคุณสมาชิกพรรคประชาชนทุกคน ที่ร่วมส่งเสียงวิพากษ์วิจารณ์แสดงความคิดเห็นอย่างแข็งขันต่อสถานการณ์การเมือง ไม่ว่าท่านจะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยกับการตัดสินใจของพรรค สิ่งที่เราปรารถนาคือประชาชนที่ตื่นรู้และมีส่วนร่วมต่อการเมืองตลอดเวลา ในฐานะประชาชนผู้เป็นเจ้าของประเทศ โดยพรรคพร้อมน้อมรับฟังข้อวิพากษ์วิจารณ์ของทั้งสมาชิกพรรค และประชาชนทั่วไป ผมขอให้สมาชิกพรรคทุกท่านร่วมรับฟังความคิดเห็นที่แตกต่างเช่นเดียวกัน โดยไม่ด่วนตัดสินว่าผู้วิพากษ์วิจารณ์นั้นเป็นผู้ที่ปรารถนาดีต่อพรรคหรือไม่ หรือแม้แต่เคยเป็นผู้ลงคะแนนเสียงให้พรรคหรือไม่ เนื่องจากทุกข้อวิพากษ์วิจารณ์ล้วนเป็นประโยชน์ต่อพรรคในการเดินหน้าทำงานต่อไป

จากนี้ไป ภารกิจร่วมกันของพวกเราพรรคประชาชน คือการติดตามคำมั่นสัญญาของรัฐบาลให้เป็นจริง และเตรียมการรณรงค์ประชามติร่างรัฐธรรมนูญ ซึ่งยังคงเป็นประเด็นที่มีความเห็นแตกต่างหลากหลายอย่างมากในสังคม ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่าทุกท่านจะยังคงเดินหน้าต่อไปกับพรรค และร่วมกันรณรงค์อย่างแข็งขันเพื่อให้การเลือกตั้งครั้งหน้าที่จะเกิดขึ้นพร้อมการทำประชามติ เป็นการปักหมุดหมายใหม่ในการเมืองไทย นำความปกติกลับสู่ระบบการเมืองของเราเสียที

In Solidarity (ด้วยความสามัคคี)

ศรายุทธิ์ ใจหลัก
เลขาธิการพรรคประชาชน

ภาพและข้อมูลจาก: พรรคประชาชน - People's Party