4 โรดแมป ‘รัฐบาลภูมิใจไทย’ ปัดฝุ่นแผน ศก. กู้วิกฤติการเมือง

4 โรดแมป ‘รัฐบาลภูมิใจไทย’  ปัดฝุ่นแผน ศก. กู้วิกฤติการเมือง

หากรัฐบาลภูมิใจไทยพลิกวิกฤติเป็นโอกาสได้ อาจหมายถึงความได้เปรียบทางการเมือง ในการเลือกตั้งอีกไม่นานนี้

KEY

POINTS

  • โฉมหน้า “ครม.อนุทิน1” ซึ่งนาทีนี้มีความชัดเจนเกือบ 100% โฟกัสตำแหน่งหลัก ต้องจับตาไปที่ “3 กระทรวงเศษฐกิจ” ที่สำคัญ 
  • “4 โรดแมป”ของรัฐบาล ตามที่นายกฯ อนุทิน แถลงไฮไลต์สำคัญ อยู่ที่ ข้อแรก คือ การแก้ปัญหาเศรษฐกิจ รัฐบาลเตรียม “ปัดฝุ่น” นโยบาย “คนละครึ่ง”  กลับมาอีกครั้ง
  • ในมิติการเมือง นโยบาย “คนละครึ่ง” ในเวอร์ชันใหม่ เห็นชัดเจนว่า คือหนึ่งในหมากการเมืองที่ “พรรคสีน้ำเงิน” หยิบมาใช้ เพื่อเกทับนโยบาย “ดิจิทัลวอลเล็ต” ของพรรคเพื่อไทย ที่ถูกวิจารณ์ว่าไม่ต้องปก และต้องปิดฉากไปพร้อมรัฐบาลเพื่อไทย 
  • หากรัฐบาลภูมิใจไทยพลิกวิกฤติเป็นโอกาสได้ อาจหมายถึงความได้เปรียบทางการเมือง ในการเลือกตั้งอีกไม่นานนี้ จากพรรคไร้กระแส ถูกคาดหมายว่า เป็นตัวแทนอนุรักษนิยม ที่มีแนวโน้มว่า กำลังขึ้นมาแทนที่เพื่อไทยที่เวลานี้กำลังบอบช้ำ

หลังที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรเมื่อวันที่ 5 ก.ย.2568 ที่ผ่านมา มีมติ  311 เสียง ให้ความเห็นชอบ“อนุทิน ชาญวีรกูล” หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 32 ของประเทศไทย ก่อนที่ “นายกฯ อนุทิน” จะประกอบพิธีรับสนองพระบรมราชโองการแต่งตั้งไปเมื่อวันที่ 7 ก.ย.68 ที่ผ่านมา 

ตามกระบวนการหลังจากนี้ คือ ต้องไปลุ้นกันที่การจัดวางตำแหน่งต่างๆ ภายในคณะรัฐมนตรี(ครม.) โดยหลังจากที่มีการจัดทำโผ “ครม.อนุทิน 1” เสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้ว นายกฯ จะนำรายชื่อขึ้นทูลเกล้าฯ

หลังจากนั้น เมื่อมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ นายกฯ จะนำ ครม.ชุดใหม่เข้าเฝ้า เพื่อถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนรับตำแหน่ง 

โดยการบริหารราชการแผ่นดินจะเริ่มนับหนึ่งอย่างเต็มรูปแบบ หลังจากที่รัฐบาลแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภา 

4 โรดแมป ‘รัฐบาลภูมิใจไทย’  ปัดฝุ่นแผน ศก. กู้วิกฤติการเมือง

ต้องจับตาโฉมหน้า “ครม.อนุทิน1” ซึ่งนาทีนี้มีความชัดเจนเกือบ 100% ขณะที่ “ว่าที่รัฐมนตรี” หลายคน ได้ทยอยกรอกประวัติ เพื่อตรวจสอบคุณสมบัติแล้ว 

ล่าสุด โฉมหน้า ครม.อนุทิน 1 จะประกอบไปด้วย  พรรคภูมิใจไทย จะได้เก้าอี้รัฐมนตรี 12 ที่นั่ง

โดย “อนุทิน” จะนั่งนายกรัฐมนตรี ควบ รมว.มหาดไทย  ขณะที่ รมช.มหาดไทย จะมี ทรงศักดิ์ ทองศรี  รมว.วัฒนธรรม ซาบีดา ไทยเศรษฐ์  รมว.คมนาคม  พิพัฒน์ รัชกิจประการ  รมช.คมนาคม นภินทร ศรีสรรพางค์

รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม  ไชยชนก ชิดชอบ เลขาธิการพรรค รมว.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม  สุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล   รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี คือ ศุภมาส อิศรภักดี และ ภราดร ปริศนานันทกุล

4 เดือนท้าทาย 3 กระทรวงเศรษฐกิจ 

นอกจากนี้ โฟกัสตำแหน่งหลัก ต้องจับตาไปที่ “3 กระทรวงเศษฐกิจ” ที่สำคัญ ที่ชัดเจนแล้วว่า เป็นสัดส่วนบุคคลภายนอก

ประกอบด้วย รมว.คลัง เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมธนารักษ์ รมช.คลัง วรภัค ธันยาวงษ์ อดีตกรรมการผู้จัดการใหญ่ธนาคารกรุงไทย ประธานที่ปรึกษาพิชัย ชุณหวชิร อดีตรมว.คลัง ในรัฐบาลแพทองธาร ชินวัตร

รมว.พลังงาน อรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ อดีตประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน)

รมว.พาณิชย์ จตุพร บุรุษพัฒน์ อดีต รมว.พาณิชย์ ในรัฐบาลแพทองธาร 

ในส่วนของโควตา “คนนอก” ยังต้องจับตาไปที่ รมว.การต่างประเทศ ที่ล็อกชื่อ สีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว เป็นเสนาบดีกระทรวงบัวแก้ว 

เช่นเดียวกับรมว.ยุติธรรม ท่ามกลางคดีความที่กำลังค้างคาอยู่ในกระบวนการ โดยเฉพาะกรณีฮั้ว สว.ซึ่งขณะนี้มีในส่วนของคดีอั้งยี่ และคดีฟอกเงิน ค้างอยู่ในการตรวจสอบของกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) โดยมีรายงานว่า ตำแหน่งรมว.ยุติธรรม จะเป็น “บุคคลภายนอกที่เป็นตำรวจ”

‘ธรรมนัส’ หมดลุ้นรมว.กลาโหม

สำหรับโควตาพรรคร่วมรัฐบาล ตามสูตรรัฐบาลใหม่ พรรคกล้าธรรม ​จะได้ 7 เก้าอี้​ แต่ที่ยังต้องลุ้นคือ ตำแหน่ง รมว.กลาโหม ที่มีความเคลื่อนไหวของ ร.อ.ธรรมนัส​ พรหมเผ่า​ ที่ปรึกษาพรรค ต้องการนั่งตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการ 

ทว่าหากจับสัญญาณจากที่ “นายกฯอนุทิน” ให้สัมภาษณ์วันก่อน ระบุว่า “ต้องการให้เป็นคนที่มีความรู้ความสามารถในวิชาชีพ” ถึงนาทีนี้ โอกาสของ ร.อ.ธรรมนัส อาจต้องหมดลุ้น

ตามโผล่าสุด เจ้าตัวอาจขยับไปที่ รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา ซึ่งโควตาดังกล่าวเป็นของพรรคภูมิใจไทยเดิม

ขณะที่ รมว.เกษตรและสหกรณ์ ตามโผเดิม วางตัว อรรถกร ศิริลัทธยากร​ รมว.เกษตรและสหกรณ์ ในรัฐบาลแพทองธาร  โดยมี รมช.เกษตรและสหกรณ์ คือ ไผ่ ลิกค์ และ สัมพันธ์ มะยูโซ๊ะ  

รมว.​ศึกษา​ธิการ​ นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ ขณะที่รมช.ศึกษาธิการ คือ องอาจ วงษ์ประยูร​ สส.สระบุรี  และ รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ อัครา พรหมเผ่า​ 

4 เก้าอี้ พปชร.“ประวิตร-สันติ”เกมซื้อใจ

พรรคพลังประชารัฐ​ 4 เก้าอี้​ ในส่วนของ พล.อ.ประวิตร​ วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค ก่อนหน้านี้มีกระแสข่าว จะนั่ง รมว.กลาโหม เอง หรืออาจควบรองนายกรัฐมนตรี

แต่สัญญาณล่าสุด ระบุว่า พล.อ.ประวิตร จะส่ง พล.อ.ณัฐ อินทรเจริญ​ เข้ามาดำรงตำแหน่ง​

อีกนัยหนึ่ง พล.อ.ประวิตร กำลังเล่นบทซื้อใจ “สันติ​ พร้อมพัฒน์” เลขาธิการพรรค ในฐานะแกนนำซุ้มมะขามหวาน ด้วยการไม่รับตำแหน่งใน ครม.อนุทิน และให้อำนาจไปอยู่ที่ “สันติ” มากขึ้น

​เช่นเดียวกับ รมว.แรงงาน ที่คาดว่าจะเป็นโควตาพรรคพลังประชารัฐ โดยมีชื่อ “ตรีนุช​ เทียนทอง” และ “ชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์” เป็นรัฐมนตรี 

ขณะที่ กลุ่ม 16 สส.รวมไทยสร้างชาติ สาย “สุชาติ​ ชมกลิ่น” ชัดเจนแล้วว่า จะได้ 3 เก้าอี้ ประกอบด้วย รองนายกรัฐมนตรีควบ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม​ ซึ่งสุชาติจะนั่งเอง 

ส่วน รมว.อุตสาหกรรม มีชื่อ จ่าเอก ยศสิงห์ เหลี่ยมเลิศ คนสนิทสุชาติ และ รมช.มหาดไทย คือ ธนกร วังบุญคงชนะ

ในส่วนกลุ่มของ “ศักดา วิเชียรศิลป์” พร้อม 8 สส.เพื่อไทย บวก 1 สส.พรรคประชาธิปัตย์ "นริศ ขำนุรักษ์" ได้โควตา “1 รมว.” บวก “1 รมช.” ส่วนกลุ่มของ นิพนธ์ บุญญามณี และ 3 สส.ปชป.จะได้ “1 รมช.” โดยมีชื่อ "นิธิยา บุญญามณี"  บุตรสาวเป็นรัฐมนตรีแทนผู้เป็นบิดาที่ติดปัญหาในเรื่องคุณสมบัติเนื่องจากมีคดีความ

4 โรดแมป ‘รัฐบาลภูมิใจไทย’  ปัดฝุ่นแผน ศก. กู้วิกฤติการเมือง

 “4 เดือน 4 โรดแมป” รัฐบาลภูมิใจไทย

แน่นอนว่า ระยะเวลาบริหารประเทศ 4 เดือนก่อนประกาศยุบสภา ตามข้อตกลงระหว่าง “พรรคภูมิใจไทย” และ “พรรคประชาชน” ยังไม่นับรวมช่วงการเป็นรัฐบาลรักษาการหลังยุบสภา จนกว่าการเลือกตั้งจะรู้ผลแพ้ชนะ เบ็ดเสร็จแล้วแล้วรัฐบาลชุดนี้จะต้องบริหารประเทศอีกราว 6-8 เดือน หรือหากมีสถานการณ์แทรกซ้อนก็อาจต้องยืดเยื้อไปกว่านั้น 

ฉะนั้นภายใต้โจทย์ใหญ่ ความท้าทายในหลายมิติ ทั้ง ภาคการเมือง เศรษฐกิจ และสังคม โดยกำหนด “4 โรดแมป” ของรัฐบาล ตามที่นายกฯ อนุทิน แถลง

ไฮไลต์สำคัญ อยู่ที่ ข้อแรก คือ การแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ในการเร่งดำเนินมาตรการลดรายจ่าย ลดค่าครองชีพ ลดค่าพลังงาน ค่าเดินทาง ค่าขนส่งต่างๆ การแก้ปัญหาหนี้สินให้กับเกษตรกร และผู้มีรายได้น้อย รวมทั้งการเสริมสร้างรายได้ให้แก่ผู้ประกอบการ เสริมสร้างรายได้ของชุมชน

ประเด็นนี้เห็นสัญญาณ ล่าสุด รัฐบาลเตรียม “ปัดฝุ่น” นโยบาย “คนละครึ่ง” ซึ่งเคยเกิดขึ้น และได้รับความสนใจ ในรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา โมเดลนี้ “ภูมิใจไทย” พยายามประโคมโหมโรงว่า จะเป็น “คนละครึ่งเวอร์ชันใหม่” ที่มีออปชันเสริม เพิ่มมากขึ้น 

ซึ่งต้องติดตามรายละเอียดต่างๆ ของโครงการ ที่จะต้องดำเนินการควบคู่กับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจทั้งในระยะสั้นและระยะยาว ที่จะถูกปล่อยออกมาเร็วๆ นี้ 

4 โรดแมป ‘รัฐบาลภูมิใจไทย’  ปัดฝุ่นแผน ศก. กู้วิกฤติการเมือง

หากอ่านเกมในมิติการเมือง นโยบาย “คนละครึ่ง” ในเวอร์ชันใหม่ เห็นชัดเจนว่า คือหนึ่งในหมากการเมืองที่ “พรรคสีน้ำเงิน” หยิบมาใช้ เพื่อเกทับนโยบาย “ดิจิทัลวอลเล็ต” ของพรรคเพื่อไทย ที่ถูกวิจารณ์ว่าไม่ต้องปก และต้องปิดฉากไปพร้อมรัฐบาลเพื่อไทย 

2.ด้านความมั่นคง รัฐบาลให้คำมั่นว่า จะเร่งแก้ไขปัญหากรณีพิพาทระหว่างไทย-กัมพูชา ด้วยแนวทางสันติภาพ เพื่อให้เกิดการลดความสูญเสียของพี่น้องประชาชนทั้งสองประเทศ 

ซึ่งเรื่องนี้ รัฐบาลภูมิใจไทยจะไฟเขียวกองทัพเต็มที่ เพื่อตรึงกระแสในเวลานี้ ที่สำคัญนายกฯ อนุทิน ยังมีคอนเน็กชันกับบรรดาบิ๊กทหารไม่ธรรมดาอีกด้วย 

3.ปัญหาภัยธรรมชาติ ในการเร่งต่อยอดในเรื่องการจัดทำระบบเตือนภัยระบบป้องกันภัยระบบเยียวยาฟื้นฟู และระบบการแจ้งเตือนภัยต่างๆ รวมทั้งเร่งให้มีการชดเชยค่าเสียหายแก่ประชาชนผู้ประสบภัยอย่างรวดเร็วทันท่วงที

4.ปัญหาเรื่องสังคม รัฐบาลจะเร่งปราบปรามกระบวนการค้ายาเสพติด ค้ามนุษย์ สแกมเมอร์ การพนัน และการพนันออนไลน์ทั้งหลายอย่างจริงจัง โดยสร้างความร่วมมือกับเพื่อนบ้าน และมิตรประเทศเพื่อกำจัดภัยสังคมทุกรูปแบบ 

แม้จะมีเวลาแค่ 4 เดือนกับสารพัดโจทย์ท้าทาย ไม่ว่าจะเป็นปัญหาเศรษฐกิจทั้งใน และนอกประเทศ อีกทั้งปัจจัยการเมืองที่เลี่ยงไม่ได้ อันเนื่องมาจากนิติสงครามที่ยังดำเนินอย่างต่อเนื่อง  

หากรัฐบาลภูมิใจไทยพลิกวิกฤติเป็นโอกาสได้ อาจหมายถึงความได้เปรียบทางการเมือง ในการเลือกตั้งอีกไม่นานนี้ จากพรรคไร้กระแส ถูกคาดหมายว่า เป็นตัวแทนอนุรักษนิยม ที่มีแนวโน้มว่า กำลังขึ้นมาแทนที่เพื่อไทยที่เวลานี้กำลังบอบช้ำอย่างหนักจากสารพัดเกมรุกในเวลานี้

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์