'ไอติม' รับ ปชน.โหวต 'อนุทิน' เสี่ยงหลายปัจจัย แต่พร้อมรับผิดชอบ

'พริษฐ์' รับคงโกหก ถ้าบอกโหวตหนุน 'อนุทิน' แล้วไม่กังวลใจ รับการตัดสินใจวันนี้ เสี่ยงหลายปัจจัยที่คุมไม่ได้ ยัน ปชน. พร้อมรับผิดชอบ โยน 5 ข้อมัด 'เสี่ยหนู' ทำตามสัญญา
KEY
POINTS
- นายพริษฐ์ วัชรสินธุ ในฐานะโฆษกพรรคประชาชน (ปชน.) ยอมรับว่าการที่พรรคโหวตสนับสนุนนายอนุทินเป็นนายกฯ เป็นการตัดสินใจที่ยากลำบากและมีความเสี่ยง
- พรรค ปชน. ระบุว่าการตัดสินใจนี้ไม่ได้เกิดจากความไว้วางใจ แต่เพื่อเลือกทิศทางที่เลวร้ายน้อยที่สุดให้กับประเทศ และพร้อมรับผิดชอบต่อผลที่จะเกิดขึ้น
- พรรคจะทำหน้าที่เป็นฝ่ายค้านเสียงข้างมากเพื่อตรวจสอบและควบคุมรัฐบาลเสียงข้างน้อยอย่างเข้มข้น และพร้อมล้มรัฐบาลทันทีหากมีการบิดพลิ้วข้อตกลง
- การสนับสนุนมีเงื่อนไขสำคัญคือรัฐบาลต้องยุบสภาภายใน 4 เดือน และปลดล็อกการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่โดยสภาร่างรัฐธรรมนูญที่มาจากการเลือกตั้ง
เมื่อวันที่ 5 ก.ย. 2568 นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ โฆษกพรรคประชาชน (ปชน.) เปิดเผยภายหลัง สส.ปชน.ครบทั้ง 143 เสียงโหวตสนับสนุนนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 32 ว่า และแล้ววันนี้ที่ยากลำบากก็มาถึง ถ้าจะบอกว่าลงมติในการเลือกนายกรัฐมนตรีวันนี้ โดยไม่มีความรู้สึกกังวลใจต่ออนาคตประเทศหลังจากนี้เลย คงเป็นคนโกหก
'ไอติม พริษฐ์' ระบุว่า นับตั้งแต่พรรคประชาชนตัดสินใจร่วมกัน ว่าเราจะไม่อยู่นิ่งเฉยในการเลือกนายกรัฐมนตรีหลังจากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี แต่จะพยายามใช้เสียง สส. 140+ คน เพื่อขยับทิศทางประเทศไปสู่ทิศทางที่เลวร้ายน้อยที่สุด
"ผมรู้ดีว่าสักวันหนึ่ง - ไม่ว่าจะขานชื่อใคร - เราจะต้องขานเสียงในสภาที่ขัดต่อจิตสำนึกตนเอง และขัดต่อความฝันและความต้องการของประชาชน 14 ล้านคน ในวันที่เขาเลือกผมและพรรคให้เข้ามาทำหน้าที่เป็นผู้แทนพวกเขาในสภาผู้แทนราษฎร เมื่อ 2 ปีที่แล้ว" นายพริษฐ์ ระบุ
โฆษกพรรค ปชน.ยืนยันว่า การตัดสินใจที่ยากลำบากในวันนี้ ไม่เคยอยู่บนพื้นฐานของความไว้วางใจใคร - ในฐานะหนึ่งในผู้แทนราษฎรที่พยายามผลักดันเรื่องการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ รับรู้ดีว่าฝ่ายไหนมีความไม่จริงใจอย่างไรต่อวาระเรื่องรัฐธรรมนูญ และได้พยายามทักท้วง และเสนอแนะทุกฝ่ายในทุก ๆ ขั้นตอนมาโดยตลอด ถึงแนวทางที่เห็นว่าจะเป็นประโยชน์ที่สุดต่อเป้าหมายดังกล่าว
"แม้เราพยายามรับฟังและไตร่ตรองกับสมาชิกพรรคและประชาชนทุกภาคส่วนอย่างรอบด้านที่สุด แม้เราพยายามออกแบบกลไกและเลือกเส้นทางที่จะทำให้เราควบคุมอีกฝ่ายให้รักษาข้อตกลงได้อย่างรัดกุมที่สุด แต่เรายอมรับว่าการตัดสินใจของเราในวันนี้ ย่อมมีความเสี่ยงจากหลายปัจจัยที่เราควบคุมไม่ได้" นายพริษฐ์ ระบุ
นายพริษฐ์ ระบุอีกว่า เรารู้ดีว่า “โซ่ตรวน” ที่เรามีในฐานะฝ่ายค้านเสียงข้างมาก ที่นำไปคล้องคอรัฐบาลเสียงข้างน้อย อาจถูกอำนาจอื่นๆเข้ามาเซาะกร่อนและทำให้อ่อนแอลง แต่ในเมื่อเราร่วมกันเลือกเดินเส้นทางนี้แล้ว เห็นว่าสิ่งที่เราทำได้เพื่อให้ “โซ่ตรวน” ดังกล่าวแข็งแกร่งที่สุด คือความเป็นเอกภาพและการทำงานหนักของพวกเรา สส. ทั้ง 140+ คน ที่มาจากเสียงของประชาชน 14 ล้านคน ในการตรวจสอบทุกฝีก้าวของรัฐบาลใหม่ และใช้กลไกสภาเพื่อล้มรัฐบาลใหม่ทันทีที่มีการเบี้ยวข้อตกลงหรือการใช้อำนาจโดยมิชอบ
โฆษกพรรค ปชน.ระบุอีกว่า สำหรับพี่น้องประชาชนที่เคยสนับสนุนพรรคก้าวไกล และรู้สึกผิดหวังต่อการตัดสินใจของเราในวันนี้ อยากให้ทุกท่านรู้ ว่าเสียงของท่าน ยังคงสำคัญ ยังคงดังมาถึงห้องประชุมพรรค และยังมีผลต่อการตัดสินใจของพรรคเราเสมอ สำหรับพี่น้องประชาชนที่เคยสนับสนุนพรรคก้าวไกล และเห็นด้วยหรือยอมรับการตัดสินใจของเราในวันนี้ อยากให้ทุกท่านเปิดใจ รับฟัง และเข้าใจ ว่าคนที่เห็นต่างจากท่าน ก็ล้วนปราถนาดีต่อพรรคและประเทศไม่น้อยไปกว่าท่าน สำหรับพี่น้องประชาชนทั่วประเทศที่ไม่อยากเห็นนายอนุทินเป็นนายกฯ ยืนยันว่าเราจะรับผิดชอบต่อการตัดสินใจวันนี้ โดยการทำหน้าที่ฝ่ายค้านต่อไปอย่างเต็มที่ เพื่อตรวจสอบและป้องกันไม่ให้การตัดสินใจของเรา สร้างความเสียหายกับประชาชน
นายพริษ์ฐ ระบุด้วยว่า สำหรับนายอนุทิน เห็นว่าต้องจดจำทุกข้อความและถ้อยคำในข้อตกลงที่คุณได้เซ็นต่อหน้าประชาชน และตระหนักไว้เสมอว่า
1. คุณได้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในวันนี้ ไม่ใช่เพราะประชาชนหรือพรรคประชาชนไว้วางใจคุณ แต่เพราะความบิดเบี้ยวของกติกาการเมืองไทยตามรัฐธรรมนูญ 2560 ที่คุณได้ประโยชน์มาโดยตลอด แต่วันนี้คุณมีหน้าที่ต้องเข้าไปแก้ไขและปลดล็อก
2. คุณถูกเลือกโดยสภา ให้เข้าไปยุบสภาและคืนอำนาจให้กับประชาชนโดยเร็วและภายในไม่เกิน 4 เดือน ไม่ใช่ให้คุณเข้าสู่อำนาจแล้วพยายามหาข้ออ้างเรื่องภัยความมั่นคง ภัยธรรมชาติ หรือเหตุการณ์ต่างๆ เพื่อขยายระยะเวลาที่คุณอยู่ในอำนาจ
3. คุณถูกเลือกโดยสภา ให้เข้าไปปลดล็อกการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ โดยสภาร่างรัฐธรรมนูญที่มาจาการเลือกตั้ง ไม่ใช้ให้คุณเข้าสู่อำนาจแล้วพยายามหาเทคนิคในการบิดพลิ้วจากเป้าหมายดังกล่าวผ่านรายละเอียดในการออกแบบคำถามประชามติหรือที่มาของสภาร่างรัฐธรรมนูญ
4. คุณถูกเลือกโดยสภา ให้เข้าไปเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อยที่ต้องอยู่ภายใต้การควบคุม-กำกับของฝ่ายค้านเสียงข้างมาก ไม่ใช่ให้คุณไปดำเนินการหรือปล่อยให้พรรคร่วมรัฐบาลดำเนินการเติมเสียงให้ฝ่ายตนเอง หรือพยายามหลอกลวงประชาชนว่า สส. พรรคอื่น เขามาเติมเสียงให้คุณเอง
5. คุณถูกเลือกโดยสภา ให้เข้าไปเป็นรัฐบาลเฉพาะกิจเฉพาะกาล ที่มีหน้าที่ในการยุบสภาและปลดล็อกการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ไม่ใช้ให้เข้าไปแทรกแซงกระบวนการยุติธรรม ไม่ใช้ให้เข้าไปตั้งคณะรัฐมนตรีที่เข้ามากอบโกยผลประโยชน์ประเทศ และไม่ใช้ให้เข้าไปสนับสนุนหรือปล่อยให้มีการเข้ามาของอำนาจนอกระบบที่ไม่เป็นไปตามครรลองประชาธิปไตย
"หลังจากนี้ ผมและพรรคจะทำหน้าที่ผู้แทนราษฎรอย่างเต็มที่ในฐานะฝ่ายค้าน เพื่อติดดตามทุกฝีก้าวและตรวจสอบทุกการกระทำของรัฐบาล ให้ไม่บิดพลิ้วจากข้อตกลงที่ได้ลงนามต่อหน้าประชาชน และให้ไม่เป็นการนำเสียงของประชาชนไปใช้อำนาจโดยมิชอบเพื่อประโยชน์ส่วนตนของใคร" โฆษก ปชน.ระบุ







