เปิดขั้นตอนหลัง ‘อนุทิน’ นั่งนายกฯ จับตา ‘ไพ่ลับ’ พท.วัดใจ ปชน.

“ไพ่ลับ” ใบสุดท้าย “เพื่อไทย” ภายหลัง ครม.อนุทิน แถลงนโยบายต่อรัฐสภา คาดว่าจะเกิดขึ้นในช่วงประมาณ 1 เดือนถัดจากนี้ “ก๊กแดง” จะยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ
KEY
POINTS
- สรุปขั้นตอนหลังนายอนุทิน ได้รับเลือกเป็นนายกรัฐมนตรี คือ การรอโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง, การจัดตั้งคณะรัฐมนตรี (ครม.) ซึ่งคาดว่าใช้เวลา 2-3 สัปดาห์, การถวายสัตย์ปฏิญาณ และการแถลงนโยบายต่อรัฐสภาภายใน 15 วัน
- พรรคเพื่อไทยเตรียมยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจคณะรัฐมนตรีของนายอนุทิน ทั้งคณะทันที หลังจากแถลงนโยบายเสร็จสิ้น โดยจะเชิญพรรคประชาชน (ก๊กส้ม) เข้าร่วมด้วย
- การซักฟอกจะมุ่งเป้าไปที่ข้อกล่าวหาต่างๆ ของพรรคภูมิใจไทย (ก๊กน้ำเงิน) เช่น คดีฮั้ว สว. และคดีเขากระโดง พร้อมอาจยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยคุณสมบัติของนายอนุทิน
- ทิศทางการเมืองหลังจากนี้ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของพรรคประชาชนในการลงมติ ซึ่งหากโหวตไม่ไว้วางใจ จะทำให้ นายอนุทินที่ตนเคยสนับสนุนต้องพ้นจากตำแหน่งนายกฯ ทันที
ในที่สุด “อนุทิน ชาญวีรกูล” หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ถึงฝั่งฝันได้นั่งเก้าอี้ นายกรัฐมนตรีคนที่ 32 โดยมีเสียงสนับสนุนจาก สส.ในสภาฯ ถึง 311 เสียง ในจำนวนนี้พรรคประชาชน (ปชน.) ในฐานะพรรคผู้นำฝ่ายค้านในสภาฯ โหวตสนับสนุนด้วยเสียงจำนวน 142+1 (งูเห่า) ครบถ้วนไม่มีใครแตกแถว
สำหรับขั้นตอนหลังจากที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร โหวตเลือก “อนุทิน” เป็นนายกฯ คนใหม่แล้ว ถัดจากนั้น “วันมูหะมัดนอร์ มะทา” ประธานรัฐสภา และประธานสภาผู้แทนราษฎร จะนำชื่อ “อนุทิน” ทูลเกล้าฯ ถวาย เพื่อมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ดำรงตำแหน่งนายกฯ คนที่ 32 อย่างเป็นทางการต่อไป โดยขั้นตอนนี้เป็นพระราชอำนาจ ไม่มีเวลากำหนด
หลังจากมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ “อนุทิน” เป็นนายกฯ อย่างเป็นทางการแล้ว จะมีการคัดเลือกบุคคลมาดำรงตำแหน่งในคณะรัฐมนตรี (ครม.) หลังจากนั้น นายกฯป้ายแดง นำชื่อ ครม.ใหม่ทูลเกล้าฯ เพื่อมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ซึ่งขั้นตอนนี้เป็นพระราชอำนาจ ไม่มีเวลากำหนดเช่นกัน
หลังจากมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ประกาศแต่งตั้งรัฐมนตรีใน “ครม.อนุทิน” เสร็จแล้ว จะมีการเข้าถวายสัตย์ปฏิญาณ เพื่อปฏิบัติหน้าที่อย่างเป็นทางการ โดยภายหลังการถวายสัตย์ “ครม.แพทองธาร” ซึ่งรักษาการอยู่ในปัจจุบัน จะพ้นจากการปฏิบัติหน้าที่ทันที ตามมาตรา 161 แห่งรัฐธรรมนูญปี 2560
ถัดมาภายใน 15 วัน “ครม.ใหม่” จะต้องแถลงนโยบายต่อรัฐสภา เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 162
ทั้งนี้ หากเทียบไทม์ไลน์ในยุค “เศรษฐา ทวีสิน” อดีตนายกฯ คนที่ 30 ที่ประชุมสภาฯ มีมติข้างมากเห็นชอบเป็นนายกฯเมื่อ 22 ส.ค.2566 ต่อมา 23 ส.ค.2566 มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ เป็นนายกฯ หลังจากนั้นตั้ง ครม.เสร็จ และทูลเกล้าฯ รายชื่อ ถัดมาเมื่อ 2 ก.ย.2566 มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ครม.เศรษฐา โดยใช้ระยะเวลาในขั้นตอนข้างต้นประมาณ 11 วัน
ส่วนในยุค “แพทองธาร ชินวัตร” อดีตนายกฯ คนที่ 31 ที่ประชุมสภาฯ มีมติข้างมากเห็นชอบเป็นนายกฯ เมื่อ 16 ส.ค.2567 ต่อมามีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งในวันเดียวกัน หลังจากนั้นฟอร์ม ครม.เสร็จและทูลเกล้าฯ รายชื่อ ถัดมาเมื่อ 3 ก.ย. 2567 มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ครม.แพทองธาร โดยใช้ระยะเวลาในขั้นตอนข้างต้นราว 18 วัน
ดังนั้นคาดว่าในระยะเวลาประมาณ 2-3 สัปดาห์ ถัดจากนี้ “อนุทิน” จะฟอร์มทีม ครม.ใหม่แล้วเสร็จ และทูลเกล้าฯ รายชื่อ เพื่อรอพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ต่อไป
อย่างไรก็ดียังเหลือ “ไพ่ลับ” ใบสุดท้ายของ “เพื่อไทย” นั่นคือภายหลัง ครม.อนุทิน แถลงนโยบายต่อรัฐสภาแล้วเสร็จ ซึ่งคาดว่าจะเกิดขึ้นในช่วงประมาณ 1 เดือนถัดจากนี้ “ก๊กแดง” จะยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจทั้ง ครม.ทันที และจะชวน “ก๊กส้ม” มาร่วมซักฟอกด้วย โดยเน้นไปที่บาดแผล “ก๊กน้ำเงิน” เป็นหลัก ทั้งคดีฮั้ว สว. คดีเขากระโดง เป็นต้น พ่วง “ดาบ 2” ยื่นศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัย “อนุทิน” กรณีฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมฯร้ายแรง ในสารพัดข้อกล่าวหาดังกล่าว อีกด้วย
ขั้นตอนที่ต้องจับตาต่อไปคือ การโหวตลงมติของ “ก๊กส้ม” ถ้าหาก “ไว้วางใจ” อนุทิน เป็นนายกฯต่อ อาจถูกข้อครหาสารพัด โดยเฉพาะการกล่าวหาว่าสนับสนุนบุคคลที่มีประวัติด่างพร้อยให้เข้ามาบริหารประเทศ แต่ถ้า “ก๊กส้ม” ยอมร่วมมือกับ “ก๊กแดง” โหวตไม่ไว้วางใจ “อนุทิน” นายกฯ ที่ “ก๊กส้ม” เคยสนับสนุนจะตกเก้าอี้ทันที
ดังนั้นทิศทางการเมืองหลังจากนี้ จะยิ่งร้อนแรงมากยิ่งขึ้น และสมรภูมิรบศึก “3 ก๊ก” การเมืองไทย ยังไม่มีวี่แววว่าจะจบลงอย่างง่ายดายเป็นแน่
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์







