'ทวี' ชี้ MOA ขัดรธน. - 'ปชน.' โต้กม.ไม่ห้ามฝ่ายค้านโหวตนายกฯ

"ทวี" ค้านโหวตนายกฯ เหตุจุดเริ่มเซาะกร่อนประชาธิปไตย ยุพรรคการเมืองยื่นศาลรธน.ยุบพรรค ด้าน "เท้ง-รังสิมันต์" ลุกสวนยืนยัน MOA ไม่ขัดกฎหมาย
ที่รัฐสภา พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคประชาชาติ อภิปรายต่อที่ประชุมสภาฯ วาระพิจารณาว่าจะเลื่อนหรือไม่เลื่อนญัตติเรื่องด่วนที่ 8 พิจารณาให้ความเห็นชอบบุคคลซ่งสมควรได้รับการแต่งตั้งเป็นนายยกฯ ตามมาตรา 159 ของรัฐธรรมนูญ ว่า รัฐสภา ครม. ศาล หรือองค์กรอิสระ ต้องปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ วันนี้ เห็นว่าการเลือกนายกฯ ครั้งนี้เป็นการกระทำที่ขัดรัฐธรรมนูญ เพราะมีข้อตกลงระหว่างพรรคประชาชนกับพรรคภูมิใจไทย กรณีเลือกบุคคลที่ดำรงตำแหน่งนายกฯ เป็นข้อตกลงทางการเมืองที่บ่อนเซาะ ระบอบประชาธิปไตยและทำลายรัฐธรรมนูญ เพราะข้อตกลงในข้อ 4 ที่ระบุว่าสร้างหลักประกันายกฯคนใหม่ยุบสภาภายใน 4 เดือน พรรคภูมิใจไทยต้องไม่ดำเนินการใดๆ ให้เป็นรัฐบาลเสียงข้างมาก และลงชื่อ นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน และนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย
“ข้อตกลงดังกล่าวเป็นข้อตกลงทางการเมืองสะท้อนการปิดเบือนรัฐธรรมนูญ ทั้งนี้นายกฯ ถือเป็นเสาหลัก จริงอยู่ นายอนุทิน มาโดยพรรคการเมืองเมื่อมีข้อตกลงดังกล่าวขัดรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 การกระทำห้ามบุคคลใช้สิทธิ เสรีภาพล้มล้างการปกครอง แม้ข้อ4 จะไม่ถึงโดยตรงแต่มีลักษณะกร่อนเซาะ ทำลายประชาธิปไตย ตัดกระบวนการตั้งรัฐบาลโดยเสรี” พ.ต.อ.ทวี อภิปราย
พ.ต.อ.ทวี อภิปรายต่อว่า ตนยังไม่ต้องพูดคุณสมบัติ ว่าเป็นอาชญากรรมหรืออาชญากรทางปรระชาธิปไตยอย่างไร หากมีการจัดเลือกนายกฯ อยากให้พิจารณาข้อตกลงด้วยเพราะแถลงในสภา ตนคิดว่าพรรคควรยื่นเรื่องให้ศาลวินิจฉัยข้อตกลงเพราะเป็นข้อตกลงที่นำไปสู่การยุบพรรคการเมือง ทั้งนี้หลักประชาธปไตยให้คำนึงเสียงข้ามาก มาตราในรัฐธรรมนูญให้สส. ไม่ถูกครอบงำใดๆ แต่นี่คือการครบองำและแลกผลประโยชน์ เพื่อได้เป็นรัฐบาลและเป็นฝ่ายค้านได้แก้รัฐธรรมนูญ
“คุณไม่เห็นหัวประชาชน ถือว่าวาระการเลือกนายกฯ ควรวินิจฉัยให้ถ่องแท้ เพราะแค่เริ่มก็ผิดรัฐธรรมนูญ และ ทำลายประชาธิปไตย น่าเสียใจพรรคที่ทำลายคือ ผู้ประกาสตัวเองว่ายึดมั่นในยประชาธิปไตย” พ.ต.อ.ทวี อภิปราย
“เท้ง” ย้ำต้องเปิดประตูหาทางออกประเทศ-แก้รธน.
ทางด้านนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคประชาชน ฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภา อภิปรายโต้แย้งทันทีว่า เหตุการณ์ที่เกิดในสภาฯ ที่พูดสับสนว่าตนเป็นฝ่ายค้านหรือรัฐบาล กล่าวชื่อพรรคผิด ว่าสังกัดพรรคไหน ทุกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เห็นด้วยเกิดจากรัฐธรรมนูญที่บิดเบี้ยว ดังนั้นต้องเปิดประตูหางออกให้ประเทศ แก้รัฐธรรมนูญ ขอเรียกร้องถึงประธานสภา รองประธานสภา และ สส.ทุกคน โดยเฉพาะ สส.หัวหน้าและเลขาธิการและผู้บริหารแต่ละพรรคการเมือง มีญัตติโหวตเลือกนายกฯ หากเห็นว่าญัตตินี้สำคัญ จำเป็น ขอให้ยืนยันต่อสภาฯ ว่าหากโหวตนายกฯก่อนจะอยู่เป็นองค์ประชุมและพิจารณากฎหมายทุกฉบับที่สำคัญ ยืนยันกับประชานว่าเป็นหลักยึดได้ ไม่ใช่โหวตนายกฯ แล้วกลับบ้านไป หากเลื่อนระเบียบวาระ โหวตนายกฯ เสร็จแล้ว สส.อยู่เป็นองค์ประชุมจนจบ
“วันนอร์” ไม่สน พท.ซัดบรรจุวาระโหวตผิดกฎหมาย ท้าให้ยื่นเรื่อง
ทั้งนี้ในช่วงหนึ่งของการอภิปรายนายจิตติพจน์ วิริยะโรจน์ สส.บัญชีรายชื่ พรรคเพื่อไทย อภิปรายว่าการบรรจุวาระและวาระโหวตนายกฯ นั้น ไม่ถูกต้องและส่อว่าขัดกับรัฐธรรมนูญ เนื่องจากมีข้อตกลงระหว่างพรรคประชาชนและพรรคภูมิใจไทย ที่ขัดกับรัฐธรรมนูญ จึงขอให้ประธานวินิจฉัย
ทำให้นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาฯ ฐานะประธานในที่ประชุมได้กล่าวว่า “หากเห็นว่าไม่ถูกต้องยื่นตรวจสอบได้ ตนรับผิดชอบในรัฐธรรมนูญและข้อบังคับ”
“โรม” ย้ำไม่มีข้อห้าม “ฝ่ายค้าน” โหวตนายกฯ
ขณะที่นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน โต้แย้งว่าในรัฐธรรมนูญ ไม่มีข้อห้ามให้ฝ่ายค้านทั้งนี้พรรคประชาชนไม่ได้ละเมิดประชาธิปไตย หรือรัฐธรรมนูญ ทั้งนี้ หากมองว่าข้อตกลงผิดกฎหมาย พวกท่านจะรับไว้ทำไม แต่ที่ออกมาลดแลก แจกแถม เพราะพวกท่านไม่ได้รับเลือก ไม่ได้เข้ารอบ






