สภาฯ ถก 'โหวตนายกฯ' - 'พท.' เรียกเสียงฮา หลังหลุดปากเป็นฝ่ายค้าน

ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาฯ ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาฯ เป็นประธานการประชุม โดยเมื่อเวลา 09.40 น. น.ส.แนน บุณย์ธิดา สมชัย สส.อุบลราชธานี พรรคภูมิใจไทย เสนอให้ที่ประชุมเปลี่ยนแปลงระเบียบวาระ โดยเลื่อนเรื่องด่วนที่ 8 พิจารณาให้ความเห็นชอบบุคคลซึ่งสมควรได้รับการแต่งตั้งเป็นนายกฯ ตามมาตรา 159 ของรัฐธรรมนูญ ทั้งนี้ สส.พรรคเพื่อไทยเห็นแย้ง

ซึ่งนายวัชระพล ขาวขำ สส.อุดรราชธานี พรรคเพื่อไทย อภิปรายเห็นแย้งเนื่องจากต้องการให้พิจารณาเรื่องไปตามระเบียบวาระที่กำหนดไว้ ขณะเดียวกันนั้นการเลือกนายกฯ ถือเป็นเรื่องที่สำคัญมากดังนั้น สส.ควรมีเวลาพิจารณาให้รอบคอบ

ทำให้นายวันมูหะมัดนอร์ วินิจฉัยว่าเมื่อมีความเห็นแย้งจำเป็นต้องมีการลงมติตัดสิน ทว่าในจังหวะนั้นนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ สส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย หารือว่าควรเปิดให้ สส. ได้อภิปรายสนับสนุนความเห็นทั้ง 2 ประเด็นซึ่งเป็นตามธรรมเนียมของสภา

จากนั้นที่ประชุมจึงเปิดให้ สส. อภิปรายสนับสนุนญัตติที่เสนอ ทั้งประเด็นขอเลื่อนวาระและไม่เห็นด้วยกับการเลื่อนระเบียบวาระ ทั้งนี้ในความเห็นของฝ่ายที่คัดค้านมองว่า วาระเลือกนายกฯ เป็นเรื่องสำคัญ และควรให้ สส.พิจารณาให้ดี ต่อกรณีที่พรรคการเมืองที่มีบุคคลดำรงตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้านในสภาฯ สนับสนุนพรรคการเมืองที่จะเสนอแคนดิเดตนายกฯ ถือว่าฝ่ายค้านกำหนดแนวทางให้ฝ่ายบริหารไปทำ ขัดกับหลักการตรวจสอบถ่วงดุล

ส่วนฝั่งที่สนับสนุนให้เลื่อนระเบียบวาระ อภิปรายในสาระ โดยนายอรรถกร ศิริลัทธยากร สส.ฉะเชิงเทรา พรรคกล้าธรรม อภิปรายว่า ต้องเร่งดำเนินการเลือก เพราะสถานการณ์ของประเทศต้องการรัฐบาลแก้ไขปัญหาในภารกิจเร่งด่วน และภารกิจค้างอยู่ เช่น ความขัดแย้งชายแดน การเจรจาภาษีสหรัฐ เพราะหากไม่มีรัฐบาลจะมีคนต่อยอดทันท่วงทีหรือไม่

“ในสภาฯ เกือบ 500 คน ไม่มีใครอยากเลือกตั้ง ผ่านมา 2 ปี ผมเป็น สส.เขตไม่อยากเลือกตั้ง  ผมไม่รู้ว่าเลือกตั้งครั้งหน้าจะเกิดอะไรขึ้น ผมเชื่อว่า 400 คนที่เป็น สส.เขต เชื่อว่าภารกิจต่างๆใช้สภาขับเคลื่อนได้ เช่น สนับสนุนรัฐบาล ร่วมตรวจสอบรัฐบาลที่เกิดขึ้นแบบเฉพาะกิจ ที่รัฐบาลชุดหน้ามีอายุ  4 เดือนเพื่อทำภารกิจเร่งด่วน  วันนี้จำเป็นเร่งด่วน ทั้งนี้สมัยที่สภาฯ เลือก น.ส.แพทองธาร ชินวัตร เป็นนายกฯ ได้ใช้เวลา 1 วันหลังจากที่ส่งสัญญาณว่าพรรคการเมืองรวบรวมเป็นเสียงส่วนใหญ่ได้แล้ว” นายอรรถกร อภิปราย

ทั้งนี้ช่วงหนึ่ง นายวันมูหะมัดนอร์ ชี้แจงว่ามีผู้ลงชื่ออภิปราย 7  คน ดังนั้นจะให้เวลาอภิปรายคนละไม่เกิน 5 นาที โดยมีประเด็นแค่สนับสนุนหรือไม่สนับสนุน อย่างไรก็ดี สส.พรรคภูมิใจไทยคัดค้านเพราะมองว่าจะเสียเวลา และเสนอให้เปิดให้อภิปรายฝ่ายละ 2 คนเท่านั้น ทำให้ นายจุลพันธ์ โต้แย้งขึ้นว่า วาระการเลือกนายกฯ อยู่ในระเบียบวาระอยู่แล้ว ซึ่งแล้วแต่บุญ และวาสนาของคนที่จะได้ ดังนั้นการจะได้เป็นฝ่ายรัฐบาลอย่าเริ่มด้วยการปิดปาก

จากนั้นนายวันมูหะมัดนอร์ วินิจฉัยว่าขณะนี้มี สส.ที่จะอภิปรายสนับสนุนให้เลื่อน 5 คน และฝ่ายที่สนับสนุนไม่ให้เลื่อน 5 คน ตนจะให้อภิปรายคนละ 5 นาที โดยอยู่ในประเด็น ไม่เสียดสี

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในช่วงหนึ่งของการอภิปราย นายจุลพันธ์ ได้พูดหลุดปากว่าอยู่ฝ่ายค้าน แต่เมื่อรู้ตัวว่าพูดผิดจึงหัวเราะ ทำให้บรรยากาศในสภาฯ ครึกครื้น

ส่วนการอภิปรายของนายอรรถกร ศิริลัทธยากร สส.ฉะเชิงเทรา พรรคกล้าธรรม ที่อภิปรายสนับสนุนเลื่อนวาระ ได้อภิปรายชื่อพรรคกล้าธรรม เป็นพรรคก้าวไกล ถึง 2 รอบ ทำให้เรียกเสียงหัวเราะจากที่ประชุมอีกครั้ง

ทั้งนี้ นายอรรถกร อภิปรายแก้คำพูดของตนเองว่า ตนเป็นลูกศิษย์ของนายจุลพันธ์ เมื่อนายจุลพันธ์ พูดผิด ตนจึงพูดผิดบ้าง

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์