มทภ.1ลั่น ต้องเดินเกมย้อนศรกัมพูชา ทวงคืน บ้านหนองจาน ขอให้ใจเย็น

มทภ.1 ควง ผู้ว่าฯสระแก้ว ลงพื้นที่บ้านหนองจาน ขอประชาชนใจเย็น อย่าเดินตามเกมกัมพูชา ใช้นานาชาติ กดดันไทย ต้องเดินเกมย้อนศร
เมื่อวันที่ 4 ก.ย. 68 ที่จ.สระแก้ว พล.ท.อมฤต บุญสุยา แม่ทัพภาคที่1 พร้อมด้วยนายปริญญา โพธิสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว และคณะ เดินทางลงพื้นที่ บ้านหนองจาน ต.โนนหมากมุ่น อ.โคกสูง จ.สระแก้ว เพื่อพบปะประชาชน และตรวจเยี่ยมกำลังพลที่ปฏิบัติหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อยบริเวณแนวชายแดนถนนศรีเพ็ญ
จากนั้นเเดินทางต่อไปยังบริเวณหลักเขตแดนหมุด 46–47 เพื่อตรวจสอบพื้นที่ข้อพิพาท
พล.ท.อมฤต ให้สัมภาษณ์ว่า วันนี้ตนเดินทางมาที่บ้านหนองจาน มีจุดประสงค์อยู่ 4 เรื่องคือ
1.มาดูพื้นที่ที่เรากำหนดไว้ในการอำนวยความสะดวก และรักษาความปลอดภัยให้กับประชาชนที่จะเข้ามาให้กำลังใจ และมาดูความเรียบร้อยต่างๆ
2.ตรวจเยี่ยมการปฎิบัติงานของกำลังพลที่อยู่หน้าแนวทั้งหมดในพื้นที่ของกองกำลังบูรพา ซึ่งมาดูปัญหาข้อขัดข้องต่างๆ และเน้นย้ำเรื่องควบคุมพื้นที่ให้ได้
3.มาเยี่ยมเยียนประชาชนบ้านหนองจานที่ได้รับโฉนดต่างๆ ที่ทางผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้วได้มาดำเนินการให้ ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นทิศทางที่ดีที่จะนำไปสู่พื้นที่อื่นๆ อีก ทั้งนี้ทุกอย่างมีขั้นตอนต้องมีระยะเวลา
และ 4.มาติดตามความคืบหน้าเรื่องการปฎิบัติงาน เพราะการดำเนินงานไม่ใช่มิติทางทหารอย่างเดียวแต่ในพื้นที่ของกองทัพภาคที่1 มีความค่อนข้างยากหลายมิติ ไม่ใช่เฉพาะการปฎิบัติการทางทหารอย่างเดียว ดังนั้นสิ่งที่สำคัญ คือเราต้องมีความเข้าใจ และคิดเหมือนกัน คิดตรงกัน เพื่อเดินหน้าต่อไปในการบูรณาการทุกภาคส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง
ซึ่งตอนนี้การทำงานร่วมกันระหว่างกองกำลังบูรพาและจังหวัดสระแก้วมีความแน่นแฟ้นเป็นอย่างยิ่ง เพื่อขับเคลื่อนสิ่งต่างๆ ตามกลไกที่มีอยู่ ซึ่งในพื้นที่ตรงนี้ไม่ได้อยู่กับกัมพูชาอย่างเดียว สิ่งที่ทางกัมพูชาต้องการก็คือให้นานาชาติมาปิดล้อมเรากดดันเรา แต่เราไม่หลงกลในสิ่งต่างๆ เหล่านี้ เราต้องย้อนกลับไปว่าจะทำอย่างไรให้นานาชาติมากดดันกัมพูชาแทน
"ปัจจุบันเราปิดด่าน ทำให้ปัญหาเรื่องสแกมเมอร์ลดน้อยลง รวมถึงชาวกัมพูชาที่พยายามลักลอบเข้ามาไทย เราจับได้เป็นจำนวนมาก และเห็นผู้นำกัมพูชาไปปรากฏการณ์ที่จีนบ้าง สหรัฐฯบ้าง เพื่อต้องการแสดงออกว่ามีมหาอำนาจให้ความดูแล ซึ่งตรงนี้เราต้องไม่เดินไปตามเกมของเขา ต้องให้เขาเดินเข้ามาในเกมของเรา" มทภ.1 กล่าวและว่า
สำหรับการปฏิบัติมีขั้นตอนในวันที่ 10 ก.ย. นี้จะมีการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย-กัมพูชา( GBC )ซึ่งได้รวบรวมข้อมูลต่างๆ ไว้จากผลการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค( RBC) ทั้งหมดในทุกพื้นที่ ทางพื้นที่กองทัพภาคที่1 และกองทัพภาคที่2 นำไปรวบรวม เพื่อไปทำข้อเสนอ และยื่นกับกัมพูชา เพื่อพูดคุยร่วมกันให้ได้ข้อสรุปออกมา
"ขอให้ประชาชนใจเย็นๆ เพราะเราต้องไม่เดินไปในเกมของเขา เราต้องให้เขาเข้ามาในเกมของเรา" มทภ.1 ระบุ
พล.ท.อมฤต ระบุอีกว่า เมื่อเช้าได้มีการติดตามเรื่องทุ่นระเบิด ได้ไปดูพื้นที่ที่มีระเบิดตกค้าง ซึ่งทางกัมพูชารับข้อเสนอของกองทัพภาคที่1 ในการเก็บกู้ระเบิด ต้องเรียนว่าทุ่นระเบิดไม่รอเวลาว่าจะหยุดจริงหรือไม่หยุดจริง มันสามารถระเบิดได้ตลอดเวลา ดังนั้นหากใครเดินไปเหยียบ หรือเข้าไปในพื้นที่ที่คิดว่าปลอดภัยแล้วบางครั้งมันยังไม่ปลอดภัย ทำให้เกิดการสูญเสียขึ้น รวมทั้งพื้นที่ทางทหารเราจะพยายามควบคุมไม่ให้มีการวางระเบิดใหม่ขึ้น เราสามารถควบคุมได้ทุกพื้นที่
เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ส่งคลิปเรื่องด่านคลองหาดเขาดินให้ตนดู ซึ่งคลิปนั้นเป็นคลิปปลอม เรื่องนี้เกิดขึ้นมาตั้งแต่เดือน มิ.ย. แล้ว ซึ่งรถสินค้าตกค้าง เจ้าของคลิปที่พูดก็เจอตัวแล้ว เขาก็ขอโทษว่ามีคนเอาคลิปของเขาไปบิดเบือน ซึ่งตนได้มอบให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง คือกรมศุลกากร และส่วนต่างๆ ได้ชี้แจงแล้ว หากบิดเบือนแบบนี้ ทางกรมศุลกากรอาจจะฟ้องในข้อหา พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ก็ได้
ส่วนกรณีที่มีสถานการณ์ที่บ้านหนองจานนั้นเป็นเรื่องปกติของกัมพูชา เพราะเมื่อวานท่านผู้ว่าฯไปปักป้าย เพื่อให้กัมพูชาย้ายออกไป เพราะหากเราดำเนินการตาม พ.ร.บ.ตรวจคนเข้าเมือง และกฎหมายป่าไม้ และเป็นธรรมดาที่กัมพูชาจะเอาเด็ก หรือผู้หญิงมาแสดงต่างๆ ซึ่งเราก็สามารถควบคุมสถานการณ์ไว้ได้ ไม่ได้เกิดปัญหาอะไร ตอนนี้มีความสงบเรียบร้อยแล้ว
ส่วนการผลักดันประชาชนชาวกัมพูชาที่รุกล้ำดินแดน ทางทหารกับผู้ว่าฯจะร่วมมือกันอย่างไรนั้น แม่ทัพภาคที่1 กล่าวว่า ต้องดูผลการประชุม GBC ซึ่งปัญหาของกองทัพภาคที่1 และกองทัพภาคที่2 คล้ายคลึงกัน แต่มูลเหตุแตกต่างกัน เพราะฉะนั้นแนวทางแก้ไขปัญหาต้องแตกต่างกัน แต่ทุกอย่างต้องบรรลุผลสำเร็จโดยเฉพาะมูลเหตุปัญหากรณีบ้านหนองจานมันแตกต่างกัน ดังนั้นแนวทางในการแก้ไขปัญหาก็ต้องแตกต่างกัน แต่ทุกอย่างต้องบรรลุผลสำเร็จในสิ่งที่เราต้องการ เพื่อเป็นประโยชน์ของชาติ
ยืนยันว่าการลงพื้นที่ครั้งนี้ไม่ได้มาเพียง เพื่อดูแลความมั่นคงเท่านั้นแต่ยังต้องการช่วยเหลือประชาชนในเรื่องสิทธิที่ดินโดยเฉพาะการวัดรังวัดและการออกโฉนดให้กับชาวบ้านบ้านหนองจานเพื่อสร้างความมั่นใจว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นที่ดินของไทยและชาวบ้านสามารถอยู่อาศัยได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย
เมื่อถามว่า จะมีการรื้อถอนบ้านเรือนที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ข้อพิพาทหรือไม่ แม่ทัพภาคที่1 กล่าวว่า เรื่องนี้จะต้องดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายอย่างเคร่งครัด พร้อมย้ำว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นดินแดนของประเทศไทยอย่างแน่นอน ดังนั้นประชาชนไม่ควรกังวล แต่ควรมั่นใจว่ารัฐบาลและกองทัพจะยืนหยัดเคียงข้างประชาชน และปกป้องสิทธิ์ในที่ดินของไทย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการลงพื้นที่ของแม่ทัพภาคที่1 และผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว ถือเป็นการสร้างขวัญและกำลังใจแก่ประชาชนและเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ชายแดน รวมถึงแสดงเจตนารมณ์ชัดเจนว่าประเทศไทย พร้อมยืนยันสิทธิ์เหนือดินแดน และจะไม่ปล่อยให้ประชาชนในพื้นที่ต้องเผชิญความไม่มั่นคงเพียงลำพัง






