4 ทหารเสือ ฮึดสยบ ‘ทักษิณ’ ไฟแค้น‘แดง-น้ำเงิน’ เดิมพันอยู่รอด

เกมนี้ระหว่างแดงและน้ำเงิน เดิมพัน คือ ความอยู่รอดทางการเมือง
KEY
POINTS
- การรวมตัวของ 4 แกนนำการเมือง ได้แก่ อนุทิน, ประวิตร, ธรรมนัส และสุชาติ เพื่อสกัดพรรคเพื่อไทยและผลักดันนายอนุทินขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี
- พรรคภูมิใจไทย พยายามวางตัวเป็นแกนนำฝ่ายอนุรักษนิยม เจรจาพรรคประชาชน แลกเสียงสนับสนุน
- ความขัดแย้งครั้งนี้เป็นการเดิมพันความอยู่รอดทางการเมืองของทั้งขั้วแดงและน้ำเงิน
การเดินหน้าฟอร์มรัฐบาล เพื่อปูทางเลือกนายกรัฐมนตรี คนที่ 32 สถานการณ์อาจไม่เอื้อฝ่ายเพื่อไทยเท่าใดนัก ด้วยบริบทของพรรคร่วมรัฐบาลเดิม เกิดแยกทาง เพราะน่าจะเห็นโอกาสมากกว่าอยู่ที่เก่า
แนวร่วมคนสำคัญ ทั้ง ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม และ สุชาติ ชมกลิ่น แกนนำกลุ่ม 16 สส.รวมไทยสร้างชาติ หักทักษิณ ชินวัตร ไปซูฮก อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เดินหน้าดันนั่งนายกฯ กันเต็มที่
ไหนยังมีลุงป้อม ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่พร้อมเอาด้วยกับ อนุทิน ปีกสีน้ำเงินตอนนี้
จึงได้เห็นปรากฎการณ์ 4 ทหารเสือ ขั้วตรงข้ามทักษิณและเพื่อไทย ประกอบด้วย อนุทิน ประวิตร ธรรมนัส และสุชาติ ประจันหน้ากับทักษิณ
ยังไม่นับ งูเห่า เพื่อไทย ที่รอวันแยกย้าย เพราะอยู่ไป ก็เห็นอนาคตว่า จะไม่ได้กลับเข้าสภา และที่ผ่านมา ลงแรงแบกหามนายใหญ่ นายน้อยมา ก็แทบไม่ได้รับการเหลียวแล
สถานการณ์ตอนนี้ ดูเหมือนภูมิใจไทย พยายามอย่างเต็มที่ในการวางบทบาทตัวเองเป็น“หัวแถวพรรคอนุรักษนิยม” เพราะยังมีที่ทางให้ยึดหัวหาดถือธงนำ หลังจากพรรคอื่นๆ แผ่วจนไม่เหลือทรง ทั้งประชาธิปัตย์ พลังประชารัฐ และรวมไทยสร้างชาติ
โดยเฉพาะการพรีเซนต์ว่า ตัวเองมีกลไกเชื่อมต่อถึงรัฐพันลึก หรือ Deep State นี่เอง ที่จูงใจให้นักการเมืองบิ๊กเนมหลายคน หันเห พร้อมมาร่วมงานกับภูมิใจไทย
อนุทิน น่าจะรู้ดีที่สุดว่า เพราะใคร ถึงทำให้ธรรมนัส กล้าพากล้าธรรม มาร่วมหัวจมท้าย ฝ่าคลื่นลมตั้งรัฐบาลชั่วคราว แทนเพื่อไทย ถึงแม้สุดท้ายต้องลุ้นว่าพรรคประชาชน จะตัดสินใจเลือกฝ่ายไหนก็ตาม
อีกทั้ง ยังเริ่มมีกระแสสะพัด ถึงดีลน้ำเงิน-ส้ม ว่าด้วยการโหวตแลกคดี 44 สส.ที่ทำให้ว่าที่นายกฯ อนุทินยิ่งมาแรง
ไม่ว่าจะเลือกใคร ก็ดูจะช้ำกับสีส้มไม่มากก็น้อย หากส้มเลือกน้ำเงิน จะตอบแฟนคลับอย่างไร
เนื่องจากปีกนี้ พัวพันกับคดีฮั้ว สว. และที่ดินเขากระโดง แถมมีแนวร่วมอย่างลุงป้อม หนึ่งในผู้สืบทอดมรดกยุค คสช. แล้วยังมีเสี่ยเฮ้ง คู่กรณีที่ฟ้องร้องดำเนินคดี รักชนก ศรีนอก สส.กทม.และสหัสวัต คุ้มคง สส.ชลบุรี ฐานหมิ่นประมาท เรียกค่าเสียหายคนละ 50 ล้าน จากการเดินหน้าตรวจสอบการซื้อตึก SKYY9
หรือกรณีที่พรรคส้ม เลือกเพื่อไทย ก็จะถูกตราหน้าว่า เจ็บไม่จำ จากเหตุการณ์ฉีก MOU ตระบัดสัตย์ ในการตั้งรัฐบาลหลังการเลือกตั้งปี 66 ตอนนั้นเพื่อไทยเลือกจับกับเครือข่ายอำนาจเก่า ทิ้งก้าวไกลในตอนนั้นก่อนเปลี่ยนเป็นพรรคประชาชน
เพื่อไทย และทักษิณ กำลังถูกความท้าทายทางการเมืองรุกไล่อย่างหนัก หลังพ่ายเหลี่ยม ฮุน เซน จนแพทองธาร ชินวัตร กระเด็นหลุดเก้าอี้นายกฯ และความนิยมทางการเมืองตกต่ำอย่างขีดสุด
งานยากเฉพาะหน้า โดยเฉพาะในส่วนของทักษิณ คือ ทำอย่างไรที่จะยื้ออำนาจรัฐให้อยู่ในมือขององคาพยพตัวเองให้นานที่สุด ถ้าเป็นไปได้ ก็อยากให้พรรคประชาชนจับมือกับเพื่อไทย ถึงได้สายตรง ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ เพื่อเปิดดีล
ความเป็นพ่อค้านักธุรกิจ และนักการเมืองของตัวทักษิณ ทำให้เขาเป็นมือดีลที่หาตัวจับยากคนหนึ่ง แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าจะเคี้ยวหมูกิน เนวิน ชิดชอบ ได้ง่ายๆ
เงื่อนไขสำคัญข้อหนึ่งก็คงวัดกันที่ข้อเสนอ ระหว่างแดงกับน้ำเงิน ใครจะกล้ายื่นในสิ่งที่ส้มปฏิเสธไม่ได้มากกว่ากัน
นอกจากนี้ บัญชีแค้นของทักษิณ รอบนี้ คงยาวเป็นหางว่าว หลังลูกสาวบอบช้ำ จากปฏิบัติการของ สว.สีน้ำเงิน แล้วยังมาโดนคนที่เคยไว้ใจหักหลังไปเข้ากับอนุทิน
งานนี้หากขั้วสีน้ำเงินพลิกเกมขึ้นกุมอำนาจได้ และ 9 ก.ย.นี้ ไม่มีข่าวดีสำหรับทักษิณ ในคดีชั้น 14 เพื่อไทยก็น่าฝ่อลงอย่างเห็นได้ชัด
ในทางกลับกัน หากขั้วสีน้ำเงินพลิกเกมไม่ได้ แล้วปล่อยให้เพื่อไทย และทักษิณ ตั้งหลักประคองตัวต่อไปได้ คงไม่แคล้วได้เห็นเกมเช็กบิลกันขนานใหญ่
น่าจะมีทั้งนักการเมือง และทุนใหญ่ เพราะยี่ห้อนายใหญ่ ขับเคลื่อนด้วยแรงแค้น แม้บารมีจะถดถอยไปมากเมื่อเทียบกับวันก่อนๆ
เพื่อไทย ถ้าปล่อยตัวเองทรุดลงไปกว่านี้ เลือกตั้งครั้งหน้ามีปัญหาแน่ ภูมิใจไทย ถ้าคุมกลไกอำนาจไม่ได้ คดีฮั้ว สว. และที่ดินเขากระโดง เสี่ยงสูงจะพาสู่ทางตัน
เกมนี้ระหว่างแดงและน้ำเงิน เดิมพัน คือ ความอยู่รอดทางการเมือง







