ส่องลึก 'งูเห่าสีแดง' ศรีสะเกษ ‘นุชนาถ’ บ้านใหญ่ ไม่ใช่ 'เสาไฟฟ้า'

ท่ามกลางสงครามชิงธงจัดตั้งรัฐบาล ระหว่างขั้วน้ำเงินปะทะขั้วแดง จึงมีขบวนการ “งูเห่า” เกิดขึ้น อันเป็นธรรมชาติการเมืองไทย

“ครูนุช” หรือ นุชนาถ จารุวงษ์เสถียร สส.ศรีสะเกษ เขต 9 เป็นคนแรกที่เปิดหน้ายอมรับว่า ตัวเองพร้อมถูกตราหน้าเป็นงูเห่า พร้อมร่ายยาวถึงเหตุผลที่ต้องทิ้งพรรคเพื่อไทย

นุชนาถ จารุวงษ์เสถียร เป็นผู้แทนฯสมัยแรก หากไม่เกิดกรณี “กีกี้” ก็แทบจะไม่มีใครรู้จักเธอ

อันเนื่องมาจากศึกซักฟอก 24 มี.ค.2568 ได้มีวิวาทะระหว่าง วิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชนและ นุชนาถ จารุวงษ์เสถียร สส.ศรีสะเกษ พรรคเพื่อไทย

สส.นุชนาถ ทำหน้าที่ผู้พิทักษ์ข้อบังคับ เจอดาวสภาอย่าง วิโรจน์ จึงมีวลี “กีกี้” สวนกลับมา แต่ สส.หญิงหน้าใหม่ก็สวนกลับด้วยวลี “ไม่รู้สี่รู้แปด”

บทบาทองครักษ์พิทักษ์ข้อบังคับของ “ครูนุช” นุชนาถ จารุวงษ์เสถียร สส.ศรีสะเกษ เขต 9 จึงถือว่า ได้แจ้งเกิดแล้ว

ชาวเมืองศรีนครลำดวน ชื่อของ “ครูนุช” เริ่มมีคนรู้จักมากขึ้นจากการล้มช้างล้มแชมป์ในการเลือกตั้ง สส.ปี 2566

พลิกแฟ้มเลือกตั้ง สส.ศรีสะเกษ เขตเลือกตั้งที่ 9 อ.ราษีไศล อ.โพธิ์ศรีสุวรรณ อ.บึงบูรพ์ อ.ศิลาลาด และ อ.ยางชุมน้อย 

“ครูนุช” นักการเมืองโนเนม ลงสนามครั้งแรก โดยสวมเสื้อเพื่อไทย โกยแต้มไป 38,051 คะแนน ชนะแชมป์ 9 สมัย ปวีณ แซ่จึง สังกัดภูมิใจไทย ที่ได้ 30,637 คะแนน

คนแถวลุ่มน้ำมูลรู้จัก “ครูนุช” นุชนาถ จารุวงษ์เสถียร ในฐานะเป็นเจ้าของโรงเรียนเกศเกล้า และวิทยาลัยเทคโนโลยีพณิชยการราษีไศล อ.ราษีไศล จ.ศรีสะเกษ

สมัยที่มีปรากฏการณ์สนธิ และม็อบเสื้อเหลือง ครูนุชได้ประกาศตัวเป็นแนวร่วมพันธมิตรฯ ขับไล่รัฐบาลทักษิณ

ครูนุชสนใจการเมือง แต่ยังไม่คิดจะลงสมัคร สส. เพราะแถวถิ่นศรีสะเกษเป็นดงเสื้อแดง ใครอยากเป็น สส.ต้องอาศัยแบรนด์ทักษิณ

หลังจาก ปวีณ แซ่จึง อดีต สส.ศรีสะเกษ หอบหิ้ว ผ่องศรี แซ่จึง ภรรยาที่ตอนนั้นยังเป็น สส.ศรีสะเกษ พรรคเพื่อไทย ไปสังกัดพรรคภูมิใจไทย ทางแกนนำเพื่อไทยศรีสะเกษ ก็เตรียมสรรหาผู้สมัคร สส.คนใหม่

ตอนนั้น มีผู้เสนอตัว 2 คนคือ ไชยวัฒน์ อำนวย ประธานชมรมยินดีต้อนรับพี่โทนี่กลับบ้าน(คนเสื้อแดง) และ นุชนาถ จารุวงษ์เสถียร

แกนนำเสื้อแดงราษีไศลฯ พยายามทักท้วงว่า ครูนุชไม่ใช่ดีเอ็นเอเพื่อไทย แต่แกนนำในพื้นที่ศรีสะเกษก็เคาะชื่อ “นุชนาถ” เป็นผู้สมัคร สส.ศรีสะเกษ เขต 9 เพราะมีความพร้อมในทุกด้าน โดยเฉพาะทรัพยากรเพื่อการเลือกตั้ง

เมื่อครูนุชได้สวมเสื้อสีแดง ประกอบกับเธอมีบุคลิกผู้นำแบบใจถึงพึ่งได้ ชาวบ้านจึงเทคะแนนให้เธอ หักปากกาเซียนโค่นบ้านใหญ่ “แซ่จึง” ได้สำเร็จ

จุดขายของ “ครูนุช” อีกด้านคือ ชูความเป็นท้องถิ่นนิยม ผ่านกลยุทธ์ลูกหนังนำการเมือง โดยทุ่มทุนสร้าง “สโมสรฟุตบอลราษีไศล ยูไนเต็ด” ฉายา “ราชาวานร” ได้สร้างชื่อเสียงให้ อ.ราษีไศล จ.ศรีสะเกษ แบบเดียวกับนักการเมืองอีกหลายคน ที่ใช้กีฬาฟุตบอลสร้างฐานเสียงการเมือง

4 ปีที่แล้ว สโมสรฟุตบอลราษีไศล ยูไนเต็ด ลงแข่งขันระดับลีกอาชีพ และคว้าแชมป์ไทยแลนด์ อเมเจอร์ลีก จึงได้เลื่อนขึ้นมาแข่งขันในไทยลีก 3

สโมสรฟุตบอลราษีไศล ยูไนเต็ด คว้าแชมป์ไทยลีก 3 โซนภาคอีสาน ได้สิทธิ์เข้าแข่งรอบแชมเปี้ยนส์ลีก เพื่อเลื่อนชั้นสู่ไทยลีก 2

ปัจจุบัน ราษีไศล ยูไนเต็ด หรือฉายา “ราชาวานร” กำลังแข่งขันในไทยลีก 2 ภายใต้การนำของ “ครูคลิ้น” ภาณุพงศ์ จารุวงษ์เสถียร ประธานสโมสร ซึ่งเป็นทายาทครูนุช

ตอนแรกๆ ครูนุชรับบทประธานสโมสร ทุ่มทุนมหาศาลปั้นทีมลูกหนังบ้านนอก ให้ผงาดในไทยลีก 2 และเมื่อเป็น สส.จึงนั่งเป็นประธานที่ปรึกษาสโมสรราษีไศล ยูไนเต็ด

การลงทุนทำทีมลูกหนังจากทีมสมัครเล่น สู่ทีมลูกหนังอาชีพไม่ใช่ใครจะทำก็ได้ หากไม่มีทุนทรัพย์ และทีมงานที่มีฝีมือ

ครูนุชจึงได้ฉายาเจ้าแม่ราชาวานร ผู้มากบารมีในวงการลูกหนังอีสาน และมีแสงในตัวเองมากพอที่จะสลัดทิ้งแบรนด์ทักษิณ