ไม่ไว้ใจ พท.- ภท.! ปชน.ถก สส.วันแรกไร้ข้อสรุป นัดต่อ 2 ก.ย.68

ไม่ไว้ใจ พท.- ภท.! ปชน.ถก สส.วันแรกไร้ข้อสรุป นัดต่อ 2 ก.ย.68

ปชน.ประชุม สส.วันแรก ยังไร้ข้อสรุป นัดต่อ 2 ก.ย.68 ‘พริษฐ์’ ลั่นไม่ไว้ใจ ‘เพื่อไทย-ภูมิใจไทย’ ทั้งคู่ ท้ารักษาการนายกฯ ยุบสภา ผ่าทางตันได้เลยตอนนี้

KEY

POINTS

  • พรรคประชาชน (ปชน.) ประชุม สส. เพื่อหาทิศทางการโหวตนายกรัฐมนตรี แต่ยังไม่ได้ข้อสรุป โดยจะนัดประชุมอีกครั้งในวันที่ 2 ก.ย.68
  • โฆษกพรรคยอมรับว่าไม่ไว้วางใจทั้งพรรคเพื่อไทย (พท.) และพรรคภูมิใจไทย (ภท.) และจะตัดสินใจโดยพิจารณาจากเหตุผล และความเสี่ยงต่อประเทศเป็นหลัก
  • พรรคยังคงยืนยันจุดยืนเดิมที่ต้องการให้มีการยุบสภาเพื่อจัดการเลือกตั้งใหม่โดยเร็วที่สุด และกังวลว่าหากงดออกเสียงอาจทำให้เกิดรัฐบาลเสียงข้างมากที่อยู่ครบวาระ

เมื่อวันที่ 1 ก.ย.2568 ที่อาคารอนาคตใหม่ ที่ทำการพรรคประชาชน (ปชน.) นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ พรรค ปชน. ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุม สส.นัดพิเศษ เพื่อหาข้อสรุปในการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่ ว่า ในวันนี้ถือว่าจบการประชุม สส.วันนี้แล้ว มี สส.เข้าร่วม 90 กว่าคน หรือ 90% เพราะมี สส.หลายคนติดภารกิจล่วงหน้า ทั้ง กมธ. และในพื้นที่ เพราะเป็นการประชุมพิเศษในวันจันทร์ ความเห็นในที่ประชุมหลากหลายมาก หลายคนแสดงความเห็นด้วยความหนักใจ เราสรุปว่าประชุมต่อในวันพรุ่งนี้ เพื่อให้ สส.ตกผลึก แสดงความเห็นเพิ่มเติม และนำความเห็นของ สส.มาประกอบกับความเห็นทุกภาคส่วนของพรรค ทั้งทีมเครือข่าย และอื่นๆ นี่คือข้อสรุปวันนี้

นายพริษฐ์ กล่าวว่า มี 2 ประเด็นที่พูดคุยกันค่อนข้างชัดเจนมากคือ 1.เรายืนหยัดจุดยืนเดิมว่า สิ่งที่ตอบโจทย์ประเทศคือ การเลือกตั้งใหม่โดยเร็ว 2.เราเรียกร้องให้ยุบสภาฯโดยตลอด ตั้งแต่เกิดเหตุคลิปเสียง เพียงแต่ผู้มีอำนาจ ไม่ว่า น.ส.แพทองธาร หรือนายภูมิธรรม ไม่ตอบสนอง วันนี้เรายืนยันว่าการยุบสภาฯ ตอบโจทย์ประเทศ หากรักษาการนายกฯ มีอำนาจยุบสภาฯ ก็สอดคล้องกับจุดยืนของเรา เราก็พร้อมเลือกตั้ง และหากสมมติรักษาการนายกฯ ไม่ยุบสภา และไม่มีกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งรวมเสียงได้เกินกึ่งหนึ่ง เราต้องใช้กระบวนการพิจารณาเลือกนายกฯ คนใหม่ เพื่อนำไปสู่การยุบสภาฯ และเลือกตั้งใหม่โดยเร็ว

ไม่ไว้ใจ พท.- ภท.! ปชน.ถก สส.วันแรกไร้ข้อสรุป นัดต่อ 2 ก.ย.68

“เข้าใจดีว่าทุกคนหนักใจไม่ว่า สส. หรือประชาชน หากไม่มียุบสภาฯ ก่อนหน้า บางคนมองว่าจำเป็นหรือไม่ หรืองดออกเสียง แต่เราพยายามคิดอีกมุมว่า หากสมมติไม่มีการยุบสภาฯ เกิดขึ้นจริง และต้องเลือกนายกฯใหม่ ณ เวลานี้ ไม่มีกลุ่มใดได้เสียงเกินกึ่งหนึ่ง ต้องคิดต่อว่า หากเรางดออกเสียง จะเกิดอะไรขึ้น เราก็มองไปถึงความน่ากังวล 2 ประการด้วยกัน ความน่ากังวล 1.ปัจจุบันที่แดงกับน้ำเงินรวบรวมเสียงไม่เกินกึ่งหนึ่ง แดงน้ำเงินไหลกลับไปรวมกัน กังวลเพราะจะเป็นรัฐบาลเสียงข้างมาก มีแนวโน้มอยู่ครบวาระไปอีกเกือบ 2 ปี ขัดกับจุดยืนของเราที่ต้องการเลือกตั้งโดยเร็ว” นายพริษฐ์ กล่าว

นายพริษฐ์ กล่าวอีกว่า โดยอีก 2 ปีข้างหน้ากังวลอย่างไร ก็มองย้อนไป 2 ปีที่ผ่านมา ไม่มีนโยบายแก้ปัญหาให้ประชาชนมีประสิทธิภาพ ช่วงแดงน้ำเงินเป็นรัฐบาล คดีหลายอย่างถูกใช้เป็นเครื่องมือต่อรองทางการเมือง ยืนยันว่า สิ่งที่เราป้องกันแดงน้ำเงินกลับไปรวมกัน ทำประเทศเสียหาย ทั้งเชิงเลือกตั้งใหม่ช้าออกไป 2 ปี การมีนโยบายไม่ประสิทธิภาพ กระบวนการยุติธรรมไม่ตรงไปตรงมา

โฆษกพรรค ปชน.กล่าวว่า 2.หากแดงน้ำเงินไม่ไหลไปรวมกัน อาจไหลไปจากนอกระบอบประชาธิปไตย ไม่ส่งผลดีต่อการเมืองไทย เราเข้าใจดีถึงความรู้สึกหลายคนว่า เราอยู่เฉยจะได้หรือไม่ หากสมมติรักษาการนายกฯ ไม่ยุบสภา หากเราไม่ทำอะไร ก็เสี่ยงว่า 2 เหตุการณ์นี้เกิดขึ้น ไม่ส่งผลดีต่อประเทศ

ไม่ไว้ใจ พท.- ภท.! ปชน.ถก สส.วันแรกไร้ข้อสรุป นัดต่อ 2 ก.ย.68

เมื่อถามว่า ในวันที่ 2 ก.ย.จะมีคำตอบเลยหรือไม่ นายพริษฐ์ กล่าวว่า ยังไม่สามารถตอบได้ 

ถามย้ำว่ายังไม่ตกผลึกว่าจะเลือกฝั่งแดง หรือน้ำเงิน หรือยังไม่ตกผลึกว่าจะเลือก หรือไม่เลือก นายพริษฐ์ กล่าวว่า ในวันนี้มีการอภิปรายหลากหลายประเด็นมาก ความเห็นหลากหลายในหลายคำถาม คงไม่ได้สรุปเป็นประเด็นใดประเด็นหนึ่ง แต่พรุ่งนี้ประชุม สส.นัดเป็นปกติอยู่แล้ว คาดว่า สส.มาประชุมเพิ่มมากขึ้นมากกว่าวันนี้ ที่ประชุมกันทุกบ่ายวันอังคาร

เมื่อถามว่า ปชน.จะรอจนถึงกรอบวันโหวตนายกฯ วันสุดท้ายเลยหรือไม่ ถึงตัดสินใจ นายพริษฐ์ กล่าวว่า ยังไม่ชัดเจนว่า สภาฯ นัดเมื่อไหร่ สิ่งหนึ่งที่เป็นปัจจัยพิจารณา แม้ไม่มองปัจจัยนั้น ต้องมองว่าความเห็นที่ประชุมแตกต่างหลากหลายมาก

ถามย้ำว่าในวันที่ 2 ก.ย.68 จะมีมติพรรคเลยหรือไม่ นายพริษ์ฐ กล่าวว่า ยังตอบไม่ได้ แต่ตอบได้ว่าประชุมแน่นอน เชื่อว่า สส.มากันเกือบครบ หรือครบ เพราะประชุมประจำสัปดาห์ สส.อาจมีภารกิจในพื้นที่ขยับไม่ได้ อาจไม่ได้มาร่วมอภิปรายในวันนี้

ส่วนมีน้ำหนักหรือปัจจัยให้ขบคิดเข้มข้นคืออะไร โฆษกพรรค ปชน.กล่าวว่า ปัจจัยที่ทำให้เกิดการอภิปรายหลากหลาย สังคมน่าจะพอคาดการณ์ได้ เพราะหลายความเห็นสอดคล้องกับที่สังคมแสดงความเห็นเช่นกัน สส.ต้องเป็นตัวแทนประชาชนในพื้นที่ เชิญชวนประชาชน และผู้สนับสนุนพรรค สามารถแสดงความเห็นกับ สส.ของเราได้ เขาก็จะเป็นคนนำความเห็นเหล่านั้นมาในที่ประชุม

เมื่อถามว่า จำเป็นต้องหารือกับอีก 2 พรรคเพื่อดูเงื่อนไขอะไรเพิ่มเติมหรือไม่ อย่างไร นายพริษฐ์ กล่าวว่า ไม่มี เราถือว่า 2 พรรคตอบรับเงื่อนไขของเรา

ซักอีกว่า ทำไมพรรคภูมิใจไทย บอกว่า ปชน.จะทำข้อตกลงกับพรรคภูมิใจไทยแล้ว โฆษกพรรค ปชน.กล่าวว่า ต้องถามพรรคภูมิใจไทย ตนไม่ทราบ ต้องย้ำว่า จะไม่มีรัฐบาลไหนที่ตั้งขึ้นได้จากเงื่อนไขของ ปชน.มี สส. 280 เสียงอยู่แล้ว เราไม่ร่วมรัฐบาลพรรคไหน ตัวเลข สส.เราไม่รวมในรัฐบาลใด ไม่ว่าใครก็ตามอ้างเกินกึ่งหนึ่ง ไม่ใช่เป็นผลลัพธ์จาก ปชน.แน่นอน ผลลัพธ์เราคือ ชัดเจน รัฐบาลเสียงข้างน้อย สส.น้อยกว่า 246  เสียง

เมื่อถามว่า พรรคเพื่อไทยบอกยุบสภาน้อยกว่า 4 เดือน นายพริษฐ์ กล่าวว่า เงื่อนไขเราชัด คือ การยุบสภาฯใน 4 เดือนกับการทำประชามติ เหตุผลที่ต้องวางไว้ 4 เดือนต้องรอดูว่าคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ สั่งว่าทำประชามติกี่ครั้ง ถ้า 3 ครั้ง ก็จัดประชามติครั้งแรกทันที ไม่ต้องใช้เวลาถึง 4 เดือน แต่ถ้าบอกว่าทำ 2 ครั้ง ต้องแก้รัฐธรรมนูญผ่าน 3 วาระของสภาฯ คิดว่า 4 เดือนเหมาะสม เป็นตัวแปรที่จะเกิดขึ้น 10 ก.ย.68 ถ้าพูดถึงเพื่อไทยโดยตรง ไม่ต้อง 4 เดือนอยู่แล้ว ถ้ารักษาการนายกฯ จะยุบสภา ก็ดำเนินการได้เลย

ส่วนออปชัน MOU43-44 ทำให้ ปชน.พิจารณาหรือไม่ นายพริษฐ์ กล่าวว่า เราไม่ได้พิจารณาอะไรนอกจาก 3 เงื่อนไข เงื่อนไข MOU43-44 เป็นของแต่ละพรรค แต่ไม่ได้อยู่ในบทสนทนาที่คุยกับ ปชน. เรายึด 3 เงื่อนไขของ ปชน.

เมื่อถามว่า ปชน.จะมีมติให้โหวตหรือไม่ หรือต้องรอความเห็นกรรมการบริหารพรรค หรือภาพรวม นายพริษฐ์ กล่าวว่า ความเห็นเราไม่ได้จำกัดแค่ สส.เราไม่ได้เป็นลักษณะ สส.เรารับฟังความเห็นทุกภาคส่วน เราเอาความเห็นทุกภาคส่วนมาตกผลึก

ไม่ไว้ใจ พท.- ภท.! ปชน.ถก สส.วันแรกไร้ข้อสรุป นัดต่อ 2 ก.ย.68

ถามย้ำว่า ใครจะเป็นคนตัดสินใจ นายพริษฐ์ กล่าวว่า เป็นกระบวนการภายในของพรรค และกรรมการบริหารต้องรับผิดชอบต่อการตัดสินใจที่เกิดขึ้น ต้องมาจากความคิดเห็นของทุกภาคส่วน ส่วนจะโหวตไปทิศทางเดียวกันหรือไม่นั้น ยืนยันว่าที่เราคุยเป็นเช่นนั้น 

เมื่อถามว่า อยากให้ยุบสภาฯ เท่านั้นหรือไม่ นายพริษฐ์ กล่าวว่า ข้อเสนอยุบสภาฯ ไม่ใช่ข้อเสนอที่ใหม่ ไม่ใช่เพิ่งพูด 2 วันที่ผ่านมา แต่พูดมา 2 เดือนแล้ว มีคนตั้งคำถามว่าเรียกร้องยุบสภาฯ เพราะคะแนนนิยมดี เป็นประโยชน์กับเราหรือไม่ แต่เรามองสถานการณ์ข้างหน้า ท้ายสุดท้ายถ้ามีรัฐบาลแก้ปัญหาให้ประชาชนได้ ต้องมีเสถียรภาพ และความชอบธรรมทางการเมือง องค์ประกอบรัฐบาลชุดนี้ ตอบรับคุณสมบัตินี้ได้หรือไม่ วันนี้เรามองว่าถ้าไม่ตอบสนอง ก็ต้องโหวตเลือกนายกฯ คนใหม่ เพื่อนำไขไปสู่การเลือกตั้งใหม่ โดยยืนยันว่าเราไม่เคยเอาเงื่อนเวลามาเป็นเงื่อนไข ถ้ารักษาการนายกฯ จะยุบ ก็ยุบเลย

เมื่อถามถึงการประเมินความจริงใจของพรรคเพื่อไทย และพรรคภูมิใจไทย โฆษกพรรค ปชน.กล่าวว่า ความจริงใจเป็นสิ่งที่ทั้ง สส.และประชาชนหลายคนใช้ในการประเมินดูแล้ว เรียนว่า หลายคนแน่นอนมองว่าเราจะรักษาทำให้รัฐบาลเสียงข้างน้อย รักษาสัญญาอย่างไร เราก็มองว่ามี 2 ปัจจัยสำคัญ ออกแบบกลไกให้เรามีกลไกควบคุมรัฐบาลเสียงข้างน้อยรักษาสัญญา ในฐานะแกนนำพรรคฝ่ายค้าน ใช้อภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลที่เบี้ยวได้ทันที

“ส่วนการไว้เนื้อเชื่อใจไกลกว่านั้น คือ ไม่ไว้ใจทั้งคู่ เพราะต้องมาประเมินความเสี่ยงกันจากสาระท่าทีที่วัดด้วยหลักฐาน อันไหนเสี่ยงน้อยกว่า เราตัดสินใจด้วยเหตุผล ไม่ใช้อารมณ์ความแค้นมาตัดสิน บางคนคิดว่าเพื่อไทย ฉีก MOU หรือภูมิใจไทยโหวต นายพิธา ตอนนายกฯ เราใช้เหตุผลให้มากที่สุด เพื่อให้ประเทศมีรัฐบาลใหม่จากการเลือกตั้งของประชาชนโดยเร็ว” นายพริษฐ์ กล่าว

เมื่อถามว่า หมายความว่าในอดีตรีเซตหมดเลยหรือไม่ นายพริษฐ์ กล่าวว่า เราไม่ลืม แต่ไม่เอาอารมณ์มาตัดสิน 

ถามย้ำว่าแนวโน้มงดออกเสียงไม่เกิดขึ้น ต้องออกทางใดทางหนึ่ง โฆษกพรรค ปชน.กล่าวว่า ต้องคุยกัน และหาข้อสรุปวันพรุ่งนี้

นายพริษฐ์ กล่าวด้วยว่า ตนและเพื่อน สส.จาก ปชน.ตระหนักดีว่าเรามาอยู่จุดนี้ได้เพราะประชาชน 14 ล้านคนเลือกเราเข้ามา เราสัญญาว่าจะไม่เอาความไว้วางใจไปทำอะไรที่ผิดหลักการ 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีพรรคภูมิใจไทย บอกตัวเลขมาเคลมว่าได้ 280 เสียง ซึ่งรวม ปชน. เพื่อต้องการดูด สส.พรรคอื่น มาร่วมจัดตั้งรัฐบาล และ ปชน.รู้ทันเกมนี้ จึงยังไม่ได้มีท่าทีว่าจะไปร่วมโหวตนายกฯ ฝั่งไหน

 

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์