'ปธ.กมธ.งบฯ69' ชี้ความไม่แน่นอนการเมืองกระทบความเชื่อมั่นศก.

กมธ.งบฯ สว. จัดงบ69 ไม่ตอบโจทย์แก้ปัญหาหลายด้าน ชี้ความไม่แน่นอนการเมืองกระทบความเชื่อมั่น ชี้ปัญหาความมั่นคง ทหารต้องเป็นเสาหลัก พร้อมแนะให้อุดหนุนงบท้องถิ่น เพื่อแก้ปัญหาภัยพิบัติ

ที่รัฐสภา ในการประชุมวุฒิสภา วาระพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2569 ที่มีนายบุญส่ง น้อยโสภณ รองประธานวุฒิสภา คนที่สอง เป็นประธานการประชุม

โดยนายประพนธ์ ตั้งศรีเกียรติกุล สว. ฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบฯ69 นำเสนอรายงานการศึกษาของกมธ.ตอนหนึ่งว่า สว.พิจารณาวาระเดียว คือเห็นชอบหรือไม่เห็นชอบที่ สส. เสนอไม่มีการพิจารณารับหลักการ ทั้งนี้ การเสนอวงเงินของรัฐบาล 3.78 ล้านล้านบาท ถือว่าสูงกว่าปีที่ผ่านมาและเป็นงบประมาณขาดดุล ทั้งนี้ กมธ. มีข้อสังเกตต่อรัฐบาล คือคำนึงถึงการจัดหารายได้ เพื่อลดการกู้ชดเชยการขาดดุล ตั้งงบประมาณให้สอดคล้องกับความต้องการ เพื่อลดค่าใช้จ่ายเงินคงคลัง แม้ว่าสภาฯ จะปรับลดงบประมาณของหน่วยงาน 8,920 ล้านบาท  และเปลี่ยนแปลงงบประมาณ ทำให้ส่งผลกระทบต่อโครงการงบประมาณเปลี่ยนแปลง เช่น รายจ่ายประจำเพิ่มขึ้น  ขณะที่รายจ่ายลงทุนปรับลดลง จากเดิม 8.64แสนล้านบาท เหลือ 8.61 ล้านบาท เหลือ 22.8% แต่ยังเป็นไปตามกรอบที่กฎหมายกำหนด

นายประพนธ์ ชี้แจงต่อว่า กมธ.ได้พิจารณาและมีข้อสังเกตต่อรัฐบาล อาทิ ด้านเศรษฐกิจ ที่ยังเผชิญกับปัญหาความไม่แน่นอนทางการเมือง ภาคธุรกิจขาดความเชื่อมั่น ดังนั้นหน่วยงานต้องปรับโครงสร้างหนี้ทั้งระบบ รวมถึงเร่งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนาดใหญ่ รวมถึงขับเคลื่อนโครงการแลนด์บริดจ์ให้ชัดเจน

ขณะที่ด้านสังคม พบว่า ได้รับจัดสรรงบประมาณสูงสุด แต่ปัญหาสังคมยังมีสูงซึ่งเชื่อมโยงกับปัญหาเศรษฐกิจ แรงงาน การศึกษา อาชญากรรม ดังนั้นหน่วยงานควรนำงบประมาณที่จัดสรรโดยเน้นการจัดสวัสดิการสังคม ส่งเสริมการเกิด การพัฒนาทุกช่วงวัย

นายประพนธ์ ชี้แจงต่อว่า ด้านความมั่นคง ที่มีปัญหาหลากหลาย ซับซ้อน เช่น ชายแดน การลักลอบนำเข้าสินค้าผิดกฎหมาย อาชญากรรมข้ามชาติ ฟอกเงิน  ดังนั้นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งปราบปรามอย่างเด็ดขาด ใช้กฎหมาย อำนวยความยุติธรรมให้ประชาชน รวมถึงเพิ่มประสิทธิภาพของหน่วยงานภาครัฐด้านปราบการทุจริต ขณะที่กองทัพต้องเป็นเสาหลักให้ประชาชน มีศักยภาพ และความพร้อม กำลังพลและยุทโธปกรณ์ ด้านภัยธรรมชาติ มีผลกระทบต่อความมั่นคง ยั่งยืนสิ่งแวดล้อม ระบบนิเวศน์ และกระทบต่อประชาชน  ดังนั้นต้องมีการบูรณาการทำงานร่วมกัน และสนับสนุนงบให้กับ ท้องถิ่นในการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าในพื้นที่ให้สูงขึ้นและชดเชยการขาดโอกาสที่ต้องนำงบไปพัฒนาพื้นที่

“เมื่อสว.เห็นชอบกับข้อสังเกตแล้วขอให้กำชับหน่วยงานนำข้อสังเกตไปพิจารณาด้วย” นายประพนธ์ ชี้แจง