'อนุทิน' นำทีมแถลง ลั่นพร้อมนั่งนายกฯตั้งแต่ปี62 'ศักดา วิเชียรศิลป์' โผล่ภท.

'อนุทิน' นำทีมแถลงปิดดีล ชิงเกมจัดตั้งรัฐบาล ลั่นพร้อมนั่งนายกฯตั้งแต่ปี62 ด้าน'ศักดา วิเชียรศิลป์' โผล่ภท. โว10ย้ายขั้ว
ที่พรรคภูมิใจไทย นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย พร้อมด้วยนายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ นายสุชาติ ชมกลิ่น รมช.พาณิชย์ นายนิพนธ์ บุญญามณี อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รวมถึงนายนายศักดา วิเชียรศิลป์ สส.กาญจนบุรี พรรคภูมิใจไทย แถลงภายหลังร่วมพูดคุยกับแกนนำพรรคการเมืองเพื่อขอเสียงสนับสนุนตั้งรัฐบาล
โดนนายอนุทิน กล่าวว่า วันนี้พวกเราทุกคนซึ่งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรได้มารวมตัวกันเพื่อที่จะแสดงความพร้อมในการที่จะร่วมกันจัดตั้งรัฐบาลชุดต่อไปเพื่อที่จะทำให้ปัญหาของประเทศได้รับการแก้ไขและคลี่คลายโดยเร็ว ทำให้การขับเคลื่อนของประเทศไทยที่รักของเราได้ดำเนินหน้าต่อไป โดยไม่มีการหยุดชะงัก
วันนี้หลังจากที่ตนได้รับทราบเงื่อนไขที่ทางพรรคประชาชน ได้แจ้งให้กับพี่น้องประชาชนได้รับทราบแล้วว่า ในการที่จะขอรับการสนับสนุนจากพรรคประชาชนเพื่อไม่ให้เกิดช่องว่างในการบริหารราชการแผ่นดิน
ทั้งหมดในที่นี้ก็ได้รับทราบเงื่อนไขของพรรคประชาชนโดยหลังจากมีการหารือและพูดคุยกัน เราได้ยืนยันไปว่าจะดำเนินตามสิ่งที่ได้มีการหารือกันไว้ ซึ่งในสาระสำคัญและในเรื่องของรายละเอียดที่เป็นประเด็นสารัตถะก็ได้เห็นพ้องกันทุกประการ วันนี้ทั้งวันหลังจากที่เราได้รับทราบผลคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญแล้วพวกเราก็มารวมตัวกันและเห็นว่าเราจะปล่อยให้ประเทศไทยของเราหยุดชะงักไม่ได้
"ปัญหาทั้งหลายที่เกิดขึ้น ซึ่งอาจเกิดขึ้นเกิดด้วยเหตุผลเส้นผมบังภูเขา แต่ถ้าเป็นกลุ่มเดิมอาจแก้ไขไม่ได้ แต่ถ้าเป็นกลุ่มเราเราอาจแก้ไขได้เรามีความห่วงใยบ้านเมืองและมีความต้องการที่จะคืนความสงบสุขทั้งหลายให้กับบ้านเมืองของเรา"
นายอนุทิน ยังกล่าวว่า เรามั่นใจว่าเราจะสามารถจัดตั้งรัฐบาลขึ้นมาบริหารประเทศ ภายใต้เงื่อนไขต่างๆที่มีคือเรื่องของการทำประชามติ และการแก้ไขธรรมนูญ รวมถึงปัญหาความสัมพันธ์กับประเทศเพื่อนบ้าน
"โดยเราจะคืนอำนาจให้กับพี่น้องประชาชนภายในเวลา4เดือนหลังจากวันแถลงนโยบายด้วยการยุบสภา เพื่อให้พี่น้องประชาชนได้รีเซ็ตประเทศอีกครั้งหนึ่งและได้ใช้อำนาจของพี่น้องประชาชนตัดสินใจอนาคตของบ้านเมืองและผู้ที่จะมาบริหารประเทศต่อไป"
เมื่อถามว่าหลังจากพูดคุยกับพรรคประชาชนมั่นใจแล้วหรือไม่ว่าจะมีเสียงเพียงพอในการสนับสนุนรัฐบาล นายอนุทิน เชื่อว่า การที่ได้พูดคุยกับพรรคประชาชนในหลักการในสิ่งที่พรรคประชาชนได้นำเสนอมาซึ่งทั้งหมดเห็นสอดคล้องตอบรับทีโออาร์นั้นได้แล้วหน้าที่ของการรวบรวมเสียง เป็นหน้าที่ของพวกเราทุกคนโดยในส่วนของพรรคประชาชนไม่มีข้อขัดแย้งหรือไม่เห็นด้วยแต่อย่างไร
ส่วนเงื่อนไขยุบสภาฯ4 เดือนที่ถูกมองว่าอาจจะเร็วเกินไปนั้น นายอนุทิน กล่าวว่า ไม่มีคำว่าเร็วเกินไปหรือช้าเกินไป คิดว่าท่านทั้งหลายที่อยู่ในที่นี้รวมถึงพรรคกล้าธรรมเรามีประสบการณ์มีความสามารถและมีความตั้งใจจริงใจที่จะเข้ามาเร่งแก้ปัญหาให้ลดความกังวลทั้งหลายให้กับพี่น้องประชาชน
เมื่อถามย้ำว่า ขณะนี้สามารถรวบรวมเสียงได้ประมาณกี่เสียงแล้ว นายอนุทิน กล่าวว่า ขอให้ลองนับดูตรงนี้ เราถือว่าเรามาทำงานให้บ้านเมืองและมีเสียงสนับสนุนเพียงพอในการจัดตั้งรัฐบาลเพื่อบริหารราชการแผ่นดินได้โดยเร็วที่สุด
ในส่วนของพรรคกล้าธรรม จากที่ฟังการแถลงข่าวร่วมของนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์หัวหน้าพรรคพรรคกล้า ที่ได้แถลงร่วมกับตนในรายละเอียดซึ่งก็ได้มีการแถลงยืนยันกับผู้สื่อข่าวไปแล้ว ส่วนพรรคอื่นๆที่เหลือเราไม่ปิดกั้น รัฐบาลมีวัตถุประสงค์แน่นอนเป็นรัฐบาลเฉพาะกิจเพื่อแก้ไขปัญหาที่มีอยู่ให้ผ่านไปได้โดยเร็ว เพราะฉะนั้นถ้ามีพรรคใดกลุ่มใดที่เห็นว่าจะมีความสามารถช่วยกันสร้างชาติทำให้ประเทศเดินหน้าต่อไปได้พวกเราทุกคนในที่นี้จะไม่มีการตั้งแง่ใดใดทั้งสิ้น ยืนยันว่า ณ ปัจจุบันนี้เรามีเสียงเพียงพอที่จะนำเสนอให้กับพรรคประชาชนได้มีความวางใจว่าการร่วมมือกันระหว่างตัวพรรคประชาชนและกลุ่มของพวกเราจะทำประโยชน์ให้กับบ้านเมืองและประเทศ
เมื่อถามว่า พร้อมเป็นนายกรัฐมนตรีใช่หรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า ความพร้อมที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทยและแคนดิเดตคนเดียวก็ต้องบอกว่าพร้อมมาตั้งแต่ปี62 แล้ว โดยมีเป้าหมายเพื่อทำงานเพื่อบ้านเมืองและประชาชนเพื่อความพัฒนาและสถาพรของประเทศ
เมื่อถามว่าหากพรรคเพื่อไทยยังยืนยันว่า รักษาการนายกรัฐมนตรีมีอำนาจที่จะยุบสภา นายอนุทินกล่าวว่า ตนขอไม่ก้าวล่วงแต่ความเป็นนายกรัฐมนตรีของน.ส.แพทองธารก็สิ้นสุดลงตามคำวินิจฉัยของศาลมนูญตนก็มั่นใจว่าณตอนนี้เรามาสร้างบ้านสร้างเมืองต่อดีกว่า
ด้านนายสุชาติ กล่าวว่า พวกตนซึ่งมีจำนวน16 คนได้ใช้เอกสิทธิ์.ส. โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อประเทศชาติบ้านเมืองต่อไป ส่วนที่กลุ่มของนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พลังงานในฐานะหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ แถลงจุดยืนสนับสนุนพรรคเพื่อไทยต่อ ย้ำว่า คนเรามีสิทธิ์ในเอกสิทธิ์หนึ่งคนหนึ่งสิทธิ์เรามีทั้งหมด 16 คนเราเห็นร่วมกันก็เดินมาถึงจุดนี้ด้วยกัน
ขณะที่นายสันติ กล่าวว่า การร่วมมือกันครั้งนี้ เป็นเรื่องของบ้านเมืองซึ่งขณะนี้เศรษฐกิจโลกเศรษฐกิจของประเทศประชาชนมีความลำบาก ถ้าเราไม่ผนึกกำลังให้เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันเพื่อดูแลประเทศชาติการพัฒนาอะไรต่างๆ เพราะฉะนั้นจะเห็นว่านายอนุทินมีความเหมาะสมเราก็เลยจับมือไปด้วยกัน
ส่วนนายศักดา กล่าวว่า ตนอยากเห็นประเทศไทยเดินหน้าต่อไป ตนและสมาชิกอีกประมาณ 10 คนจึงเห็นสมควรสนับสนุนนายอนุทินเป็นนายกรัฐมนตรี มันเป็นเอกสิทธิ์ของตน
"ผมเป็นผู้แทนบ้านนอกเห็นความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนผมมั่นใจว่าท่านอนุทินเหมาะสมที่สุด"







