'พล.อ.ณัฐพล' เล็งใช้กฎหมาย มท. ผลักดัน คนกัมพูชา ออกจากบ้านหนองจาน

'พล.อ.ณัฐพล' เล็งใช้กฎหมาย มท. ผลักดัน คนกัมพูชา ออกจากบ้านหนองจาน

"พล.อ.ณัฐพล" เล็งใช้กฎหมาย มท. ผลักดัน ชาวกัมพูชา รุกล้ำบ้านหนองจาน แทนใช้กำลังทหาร หวั่น ต่างชาติ ตำหนิ ยัน "แพทองธาร" หลุด เก้าอี้นายกฯ ไม่กระทบถกจีบีซี

วันที่ 29 ส.ค 68 ที่กระทรวงกลาโหม  พลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ระบุหลังการประชุมสภากลาโหม กล่าวถึง แนวคิดการสร้างชายแดนไทย-กัมพูชาว่า ในขั้นการหารือมีการเสนอหลายรูปแบบ เช่น การสร้างเป็นคูคลองเพื่อประหยัดงบประมาณหรือจัดทำเป็นรั้วลวดหนาม ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณารูปแบบการจัดทำ 

ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาพื้นที่ชายแดนภาคใต้ ก็มีการขอจัดทำรั้วก็ต้องพิจารณาว่าจุดไหนมีความจำเป็นมากกว่า โดยปัจจุบันคณะทำงานที่เตรียมการประชุมคณะกรรมการ ชายแดนทั่วไปไทยกัมพูชา หรือ GBC กำลังพิจารณาอยู่

สำหรับ บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้วนั้น เส้นเขตแดนมีความชัดเจนว่าอยู่ในพื้นที่อธิปไตยไทย ซึ่งจะนำเรื่องนี้หารือในที่ประชุม GBC เพื่อให้ชาวกัมพูชาที่รุกล้ำเข้ามากลับออกไป แต่จุดยืนในการเจรจาฝ่ายไทยต้องแสดงถึงความเป็นผู้มีวุฒิภาวะ ในฐานะประเทศที่เจริญ ต้องพูดคุยด้วยเหตุและผล แต่หากพูดคุยแล้วไม่สามารถตกลงกันได้ก็จะต้องพิจารณาในขั้นต่อไป 

โดยอาจจะใช้กฎหมายเรื่องการบุกรุกเข้ามาในราชอาณาจักร ของกระทรวงมหาดไทย เป็นหลัก และ ค่อยๆยกระดับไปตามขั้นตอน ไม่ใช่การใช้กำลังทหารเข้ากดดัน จึงขอให้ทุกฝ่ายใช้ความอดทนเพราะชาวกัมพูชารุกล้ำเข้ามาอยู่ในเขตไทยกว่า 40 ปี การจะผลักดันออกภายในสัปดาห์เดียวอาจจะทำให้ต่างชาติตำหนิได้ว่าเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสม ดังนั้นจึงอาจจะไม่ถูกใจใครบ้าง แต่จะเน้นแก้ปัญหาด้วยความยั่งยืน 

พล.อ.ณัฐพล ยังการประชุม GBC ที่จะเกิดขึ้นในช่วงต้นเดือนกันยายนนี้ว่า ยังมีความหวังว่าทางกัมพูชาจะให้ความร่วมมือ โดยเฉพาะเรื่องของการเก็บกู้ทุ่นระเบิด เพราะจากการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนท้องถิ่นหรือ RBC ที่ผ่านมาทางกัมพูชาก็ไม่ได้ปฏิเสธเรื่องของการเก็บกู้ทุ่นระเบิดเพียงแต่ให้นำขึ้นมาหารือในที่ประชุม GBC 

พร้อมย้ำว่าสถานการณ์การเมืองภายในประเทศ จากกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้นางสาวแพทองธาร ชินวัตร พ้นจากนายกรัฐมนตรี ไม่ส่งผลกระทบต่อวงประชุม GBC เพราะทีมทำงานก็ยังคงเป็นทีมเดิม และยังคงทำต่อไป ไม่ได้มีผลกระทบ

ทั้งนี้พลเอกณัฐพลไม่ขอตอบคำถามถึงการเตรียมวางอนาคตทางการเมือง โดยระบุว่า ยังไม่ได้มองอะไรไว้ ตราบใดที่ยังอยู่ในหน้าที่ก็ต้องทำให้ดีที่สุด แต่หากไม่อยู่ก็ไม่มีปัญหา เพราะเชื่อมั่นว่าประเทศไทยยังมีคนเก่งอีกมาก ดังนั้นหากไม่ได้ทำหน้าที่ตรงนี้แล้ว ก็แสดงว่ารัฐบาลหาคนที่ดีกว่า-เก่งและมีความสามารถมากกว่าได้แล้ว