คลิปเสียงนายกฯ ‘สงครามโซเชียล’ ‘พท.VSกองทัพ’ แผนลับในเกมรุก

คลิปเสียงนายกฯ ‘สงครามโซเชียล’  ‘พท.VSกองทัพ’ แผนลับในเกมรุก

นับถอยหลังสู่วันชี้ชะตา“กระดานการเมือง” สถานการณ์ข่าวสาร ยังคงเต็มไปด้วย“สงครามโซเชียล” ที่ต่างฝ่ายต่างเปิดฉากรบกันรายวัน

KEY

POINTS

  • เกิด “สงครามโซเชียล” ระหว่างฝ่ายสนับสนุนพรรคเพื่อไทยและฝ่ายกองทัพ ก่อนที่ศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยคดีคลิปเสียงของนายกรัฐมนตรี แพทองธาร ชินวัตร ในวันที่ 29 ส.ค.
  •  “แผนลับในเกมรุก” เพื่อชิงความได้เปรียบทางการเมือง หากนายกฯ แพทองธารถูกตัดสินให้พ้นจากตำแหน่ง และต้องมีการเลือกนายกฯ คนใหม่ ซึ่งมีการคาดการณ์ถึงแคนดิเดตนายกฯที่เหลือ
  • การรุกกลับกองทัพ เช่น การปล่อยโพลที่ชี้ว่าคนส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยกับนายกฯ ที่เป็นทหาร 
  • กองทัพออกมาตอบโต้ทันที โดยชี้แจงว่าคลิปดังกล่าวเป็นเรื่องเก่าและผู้กระทำผิดถูกลงโทษแล้ว พร้อมกล่าวหาว่ามีความพยายามจงใจ “ดิสเครดิต” กองทัพ
  • ผู้สนับสนุนเพื่อไทยพยายามสร้างกระแสว่าปัญหาชายแดนและคอลเซ็นเตอร์เป็นผลพวงจากรัฐบาลในอดีตที่เชื่อมโยงกับกองทัพ และอ้างว่าการปล่อยคลิปเสียงเป็นผลมาจากการที่รัฐบาลปัจจุบันพยายามแก้ไขปัญหาเหล่านี้

นับถอยหลังสู่โหมด ชี้ชะตา “แพทองธาร  ชินวัตร”นายกรัฐมนตรี และรมว.วัฒนธรรม ในคดีคลิปเสียงสนทนากับ “ฮุน เซน” ประธานวุฒิสภากัมพูชา ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญนัดอ่านคำวินิจฉัยในวันที่ 29 ส.ค.นี้  

สัญญาณนับถอยหลังสู่วันชี้ชะตา “กระดานการเมือง” สถานการณ์ข่าวสาร ยังคงเต็มไปด้วย“สงครามโซเชียล” ที่ต่างฝ่ายต่างเปิดฉากรบกันรายวัน

ท่ามกลาง การประเมิน“ฉากทัศน์”ต่างๆ ถึงผลคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญวันที่ 29 ส.ค. ที่อาจออกได้ทั้ง 

ทางแรก : “นายกฯอิ๊งค์” รอด โหมดการเมืองภายใต้รัฐบาลพรรคเพื่อไทย มี“แพทองธาร”เป็นนายกฯ ก็จะกลับสู่ภาวะปกติ เดินหน้าบริหารต่ออย่างเต็มรูปแบบ แม้จะมีสารพัดปมร้อนให้รอสะสาง โดยเฉพาะการพลิกฟื้นเรตติ้งพรรคเพื่อไทยที่ดิ่งหนักในช่วงที่ผ่านมา

หากเป็น ทางที่สอง : “นายกฯอิ๊งค์”ไม่รอด ฉากทัศน์ถัดไป ก็จะต้องเข้าสู่กระบวนการสภาฯ ในการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี คนที่ 32 ของประเทศไทย และเป็นคนที่ 3 ในรอบ 2 ปี หลังการเลือกตั้ง

คลิปเสียงนายกฯ ‘สงครามโซเชียล’  ‘พท.VSกองทัพ’ แผนลับในเกมรุก

ฉากทัศน์นี้เอง ที่เห็นชัดถึงเกมการเมือง ที่ต่างฝ่าย ต่างเปิดเกมชิงไหวชิงพริบ ภายใต้ “แผนลับเกมรุก”บนกระดานการเมือง และลามไปถึงเกมมวลชนที่กำลังเปิดฉาก“สงครามโซเชียล” กันอยู่ในเวลานี้ 

โดยเฉพาะชื่อนายกฯ คนต่อไป หาก“แพทองธาร” ไม่ได้ไปต่อ ซึ่งก่อนหน้านี้ มีชื่อ “พล.อ.ประยุทธ์ จันทรโอชา” ในฐานะแคนดิเดตนายกฯพรรครวมไทยสร้างชาติ ถูกโยนหินถามทาง ภายใต้สัญญาณ “รัฐพันลึก” ที่อาจคัมแบ็กอีกครั้ง 

หรือแม้แต่ การขุดวาทกรรม “ทหารมีไว้ทำไม” ที่เคยเป็นไวรัลในโลกโซเชียลในช่วงหาเสียง อาศัยจังหวะสถานการณ์ชายแดน ส่งเสียงเชียร์ “บิ๊กกุ้ง”พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 กระโดดเข้าสู่สนามการเมือง หลังเกษีณอายุราชการในเดือน ก.ย.นี้

ล้อไปกับกระแส ผลสำรวจ“นิด้าโพล” หัวข้อคำถามที่ว่า “มีความหวัง หรือหมดหวังกับพรรคการเมือง” ปรากฎว่า ประชาชนไม่ค่อยพอใจ 32.29% ไม่พอใจ 28.24% ไม่พอใจเลย 27.18% และค่อนข้างพอใจ 11.60% 

จนมีการอนุมานว่า ประชาชนอาจกำลังผิดหวังกับ“นักเลือกตั้ง”หรือไม่ อย่างไร?

คลิปเสียงนายกฯ ‘สงครามโซเชียล’  ‘พท.VSกองทัพ’ แผนลับในเกมรุก

สวนทางกับท่าทีพรรคเพื่อไทย ที่ยืนกรานว่า ต่อให้“แพทองธาร” ไม่ได้ไปต่อ นายกฯคนที่ 32 ก็ต้องเป็น“ชัยเกษม นิติสิริ” แคนดิเดตลำดับถัดไป ไม่มีทางเป็นอื่น 

 ย้ำชัดด้วยท่าที “วิสุทธิ์ ไชยณรุณ”ประธานสส.เพื่อไทย ที่เปิดเกมเบรกไปยังบางคน ที่อาจกำลังหวังล้มๆ แล้งๆ จะได้เป็นนายกฯ ให้รอต่อคิว “ชัยเกษม”

ไม่ต่างจากเกมมวลชนฝั่งแดง ไม่ว่าจะเป็นเอฟซีเสื้อแดง หรือแม้แต่ “กลุ่มแดงแปลงเป็นส้ม” ที่พยายามชิงกระแสโซเชียล ปลุกพลังต่อต้าน“อำนาจนอกระบบ” ที่จะเข้ามาแทรกแซง ในช่วงที่กระแสรัฐบาลตกต่ำ

ไล่ขุดไปถึงต้นตอของปัญหาชายแดน โดยเฉพาะประเด็นการรื้อรั้วบริเวณแนวชายแดนไทย-กัมพูชา สวนกลับมวลชนอีกฝั่ง ว่าไม่ได้เกิดขึ้นในยุครัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร แต่เป็นยุครัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ซึ่งมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นผู้บัญชาการทหารบก  

หรือแม้แต่ปัญหาคอลเซนเตอร์ ซึ่งเอฟซีเพื่อไทยพยายามโหมกระแสว่า เป็นผลพวงมาจากรัฐบาลในอดีต ที่วางเฉย ไม่ใส่ใจแก้ปัญหา โยงไปถึง“บิ๊กเนม”บางคน บางพรรค ที่อาจมีผลประโยชน์ต่างตอบแทน ขณะที่รัฐบาลเพื่อไทยเข้ามาเพื่อสะสางขยะที่ซุกใต้พรม จนเป็นเหตุให้ “ฮุน เซ็น” ไม่พอใจ จึงเป็นที่มาของการปล่อยคลิปเสียงดังกล่าว 

ไหนจะกรณีการปล่อยผลสำรวจ “แปซิฟิคโพล” ล็อกเป้า ยิงคำถามไปที่ประเด็น “เห็นด้วยหรือไม่ กับการที่ทหารจะมาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี” ซึ่งเสียงส่วนใหญ่ 68.1% ไม่เห็นด้วยอย่างยิ่ง

ขณะที่อีกคำถามหนึ่ง คือ “ท่านเชื่อว่า สถาบันทหาร กับประชาธิปไตย สามารถอยู่ร่วมกันได้หรือไม่?” ผลสำรวจส่วนใหญ่ 36% ระบุว่า "ได้" แต่ทหารต้องลดอำนาจ

หรือแม้แต่การ “ปล่อยคลิป” ที่อ้างว่า เป็นเหตุการณ์ที่นายทหารระดับ เสธ. ทำร้ายร่างกายทหารนายสิบ ในฐานปฏิบัติการชายแดนด้านปราสาทตาควาย อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ 

ก่อนที่ต่อมา “กองทัพบก”จะออกมาสวนกลับทันควันว่า เป็นคลิปเก่าตั้งแต่ปี 2558 ขณะที่นายทหารที่อยู่ในคลิปได้ถูกลงโทษแล้ว 

คลิปเสียงนายกฯ ‘สงครามโซเชียล’  ‘พท.VSกองทัพ’ แผนลับในเกมรุก

เป็นที่มาของท่าที “บิ๊กกุ้ง” ที่ออกมาให้สัมภาษณ์สวนกลับทันทีเช่นกัน แถมฟังธงว่าทั้ง 2 กรณีที่เกิดขึ้น ทั้งการปล่อยโพล และการปล่อยคลิป มีเจตนา“ดิสเครติด”กองทัพ อย่างหลีกเลี่ยงไม่พ้น 

เหนือไปกว่านั้น แม่ทัพภาคที่ 2 ยังพูดถึงทิศทางการเมืองหลังเกษียณอายุราชการ  ย้ำชัด “ผมไม่เล่นการเมือง อยู่ตรงไหนก็ได้ที่ไม่มีผลประโยชน์ ”

ทั้งหมดทั้งมวลเป็นการตอกย้ำถึง“สงครามโซเชียล”ที่ต่างฝ่ายต่างเปิดฉากใส่กัน ท่ามกลางสัญญาณนับถอยหลัง ในคดีคลิปเสียงที่จะชี้ชะตาใน วันที่ 29 ส.ค.นี้!