'พร้อมพงศ์' สวนขาประจำ หยุดชี้นำศาลคดี 'แพทองธาร-ทักษิณ'

'พร้อมพงศ์' รับไม่ได้ 'ขาประจำ' ขู่ศาล จี้เลิกชี้นำคดี 'แพทองธาร-ทักษิณ' แตะเบรกอย่าใช้ความแค้น งงก่อนหน้าเรียกร้องทุกคนเคารพศาล พอไม่ได้ดั่งใจ ฟาดงวงฟาดงา
KEY
POINTS
- นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ เรียกร้องให้กลุ่มการเมืองฝ่ายตรงข้ามและนักวิจารณ์ หยุดชี้นำสังคมและคาดการณ์ผลคำตัดสินของศาลในคดีของ น.ส.แพทองธาร และนายทักษิณ ชินวัตร
- วิจารณ์พฤติกรรมของฝ่ายตรงข้าม โดยเฉพาะ นพ.วรงค์ ที่พยายามปลุกระดมมวลชนหากผลตัดสินไม่เป็นไปตามที่ต้องการ และทำตัวเหมือนเป็นศาลเตี้ยตัดสินคดีล่วงหน้า
- เตือนให้ทุกฝ่ายเคารพกระบวนการยุติธรรมและรอฟังคำวินิจฉัยของศาลอย่างเป็นทางการ เพื่อไม่ให้เข้าข่ายดูหมิ่นหรือข่มขู่ศาล
เมื่อวันที่ 23 ส.ค. 2568 นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ อดีตโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า หลังจากนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.วัฒนธรรม เข้ารับการไต่สวน ศาลรัฐธรรมนูญ คดีคลิปเสียงวันที่ 21ส.ค. ศาลอาญายกฟ้องคดีมาตรา112 นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี วันที่22ส.ค. พวกขาประจำ ฝ่ายตรงข้าม ไม่หวังดี ยังไม่เลิกพฤติกรรมเดิมๆ โดยเฉพาะพวกไม่หวังดี อินฟลูเอนเซอร์ขาป่วน นักการเมือง นักกฎหมายบางคน ออกมาฟันธง ทำให้ผู้คนในสังคมเห็นว่า คดีของนางสาวแพทองธาร ศาลรัฐธรรมนูญตัดสินวันที่ 29ส.ค. จะไม่เป็นผลดีต่อนายกรัฐมนตรีและรัฐบาล ใช้อคติชี้นำสังคม มากกว่าข้อเท็จจริง
นายพร้อมพงศ์ กล่าวอีกว่า นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ยิ่งแล้วใหญ่ไปปราศรัย คดีวันที่29ส.ค. หากศาลรัฐธรรมนูญตัดสินออกมาฝืนความรู้สึก จ้องจะปลุกระดมมวลชน ให้ลงถนนมาไล่ศาล ตนมองว่า ชักจะไปกันใหญ่แล้ว หาหลักอะไรยึดไม่ได้เลย พวกนักเคลื่อนไหว ขาประจำทั้งหลาย เรียกร้องนายทักษิณ กลับประเทศ ต่อสู้ตามกระบวนการยุติธรรม เมื่อท่านกลับมา ต่อสู้คดี ม.112 คดีพักรักษาตัวในโรงพยาบาลตำรวจ ยังไม่พอใจ พวกท่านก็บอกเอง ให้ทุกคนเคารพศาล น้อมรับคำวินิจฉัย แต่นี่ยังไม่ทันอะไร นายทักษิณ รอดคดี112 มาฟันธงล่วงหน้า ฟาดงวงฟาดงาใส่คดีชั้น14 โรงพยาบาลตำรวจ ไม่รอดแน่
คดีนางสาวแพทองธาร ท่านเข้ารับการไต่สวน ศาลไม่ถ่ายทอดสดเพราะเป็นเรื่องความมั่นคง บางคนมาติติงปลุกระดม ลุกลามว่าจะต้องตัดสินตามความต้องการของตัวเอง มันใช้ไม่ได้ ไปบอกมีดีลลับบ้าง ไปคาดการณ์ผลตัดสินล่วงหน้า ทำตัวเป็นศาลเตี้ย ไปชี้นำสังคมให้เห็นว่าผู้ถูกกล่าวหาผิดไปแล้ว อย่าปล่อยให้อคติมาครอบงำจิตใจมากนัก คดีของนายกฯ วันที่29ส.ค. ไม่มีใครรู้ล่วงหน้า ผลจะออกมาเป็นอย่างไร พวกนักปราศรัย ฝ่ายแค้นเอาแต่ความสะใจตัวเอง พูดเลยธงไปมาก ระวังมวลชนที่มาร่วมด้วยจะหนีหาย รับไม่ได้กับการไม่มีหลักอะไรเลย เอาแต่ความสะใจอย่างเดียว ต้องการให้ประเทศปั่นป่วนวุ่นวาย ถอยหลัง ไม่เป็นประชาธิปไตย เกิดการปฏิวัติยึดอำนาจอีกครั้ง ถึงจะพอใจใช่หรือไม่
นายพร้อมพงศ์ กล่าวด้วยว่า หลังมีคำตัดสินคดีของนายทักษิณ วันที่22ส.ค. หุ้นปิดบวกกว่า 8จุด ดัชนีทะยานไปที่ 1253 สะท้อน นักลงทุน คลายความกังวลการเมือง ตอบรับในทิศทางบวก ปัญหาชายแดนไทย กัมพูชา สงบลงไปมาก เข้าสู่กระบวนการเจรจา การเดินหน้าแก้ไขปัญหายาเสพติด ปัญหาปากท้อง พรรคร่วมรัฐบาลมีเสถียรภาพแข็งแกร่ง รัฐบาลเร่งเครื่องเดินหน้าแก้ปัญหาของประชาชนไม่หยุด แต่ยังมีพวกจ้องจะฉุดรั้ง คอยขัดขวาง เล่นการเมืองทั้งในสภา นอกสภา เพื่อสนองความต้องการทางการเมืองของตัวเอง
คดีที่รอศาลตัดสิน นางสาวแพทองธาร 29ส.ค. คดีนายทักษิณวันที่ 9ก.ย. ไม่มีใครรู้ล่วงหน้า ระหว่างนี้ควรรอคำวินิจฉัยของศาลออกมาให้เรียบร้อย สงบปากสงบคำ อย่าร้อนรนเกินไปนัก ไม่อยากให้นักปราศรัยบางคน ต้องคดีหมิ่นศาล ข่มขู่ศาล บ้านเมืองมีขื่อมีแป จะให้ทุกคนตอบสนองความสะใจ ความต้องการของตัวเองอย่างเดียวไม่ได้ ระหว่างนี้ทำใจร่มๆ ตั้งสติ อย่าให้ความแค้นส่วนตัวมาเป็นตัวชี้นำ แล้วมารอฟังคำตัดสินอีก2สำคัญไปพร้อมกัน







