‘ไทย’ ปัด ประชุมรัฐสภา ประกาศสงคราม กัมพูชา ซัด เฟกนิวส์เลวร้าย

‘ไทย’ ปัด ประชุมรัฐสภา ประกาศสงคราม กัมพูชา ซัด เฟกนิวส์เลวร้าย

“โฆษกรัฐบาล” ปัด ไทย เรียกประชุมรัฐสภา ประกาศสงครามกัมพูชา ชี้ เฟกนิวส์ ปั่น ประชาคมโลก ซัด เลวร้าย ป้ายสีไทยไม่เอาสันติภาพ ย้ำ มุ่งแก้ปัญหา จี้ร่วมมือกู้ทุ่นระเบิด

นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และคณะกรรมการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.)  กล่าวว่า ตามที่มีการเผยแพร่คลิปวิดีโอจากเพจ Bong Ah Run ซึ่งอ้างอิงข้อมูลจากสื่อท้องถิ่นในกัมพูชา ระบุว่า ประเทศไทยจะมีการประชุมรัฐสภาเพื่อประกาศภาวะสงครามกับกัมพูชานั้น  รัฐบาลขอยืนยันว่าไม่เป็นความจริง เป็นการจงใจสร้างเฟกนิสว์ ข่าวเท็จบิดเบือนข้อมูลอย่างร้ายแรง โดยหวังสร้างความเข้าใจผิดต่อประชาชนและประชาคมโลก ทั้งนี้รัฐบาลยืนยันว่า

1.ประเทศไทยไม่มีการเรียกประชุมรัฐสภาเพื่อประกาศสงครามกับประเทศใดๆหรือกับประเทศกัมพูชา และไม่มีการดำเนินการใดๆ ที่จะนำไปสู่ภาวะสงครามอีกทั้ง การประชุมรัฐภาของไทยเป็นไปตามปกติตามสมัยประชุมที่จะมีการประชุม สมาชิกวุฒิสภา ทุกวันจันทร์ และอังคาร ส่วนสภาผู้แทนราษฎรจะประชุมในวันพุธ และพฤหัสในทุกสัปดาห์อยู่แล้ว  

        

2.การกล่าวหาว่าไทยไม่ต้องการสันติภาพหรือจะโจมตีกัมพูชาเป็นการป้ายสีที่บิดเบือน อย่างเลวร้าย และอาจสร้างผลเสียหายต่อการแก้ไขความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ

3.ไทยยึดมั่นในหลักการแก้ไขปัญหาด้วยสันติวิธี ผ่านกลไกทวิภาคี ทุกมิติ ทั้งนี้ ประเทศไทยมุ่งมั่นแก้ไขปัญหาชายแดน อย่างสร้างสรรค์ และพร้อมเข้าร่วมการประชุมในทุกเวทีความร่วมมือ รวมถึงการผลักดันการเก็บกู้ทุ่นระเบิดตามแนวชายแดนอย่างต่อเนื่อง โดยคาดหวังให้ฝ่ายกัมพูชาจะเข้าร่วมการหารือด้วยความจริงใจเช่นเดียวกัน อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เกิดขึ้นในปัจจุบันเป็นการยั่วยุที่สร้างความตึงเครียดต่อการเดินหน้าไปสู่สันติภาพ ระหว่างทั้งสองประเทศและในภูมิภาค

"รัฐบาลขอความร่วมมือจากประชาชน อย่าหลงเชื่อ แชร์ หรือส่งต่อข้อมูลที่ไม่ได้รับการตรวจสอบ หากพบข้อมูลที่น่าสงสัย ขอให้ตรวจสอบกับหน่วยงานรัฐหรือช่องทางราชการที่เกี่ยวข้องก่อนเผยแพร่ เนื่องจากการบิดเบือนข่าวสาร จะเป็นอันตรายต่อประชาชน โดยประเทศไทยยังคงยึดมั่นสันติวิธีและความร่วมมือ เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยในภูมิภาค อีกทั้งหน่วยงานราชการได้ตรวจสอบอย่างต่อเนื่องและได้ดำเนินคดีกับผู้จงใจสร้างข่าวเท็จ และนำไปเผยแพร่ต่อ จำนวนมากแล้ว” นายจิรายุ กล่าว