'วิสุทธิ์' แก้เกี้ยว 'สภาฯล่ม' แจงชงปิด หลังสส.ทำงานหนัก-สมาชิกมุสลิมติดศาสนกิจ

'วิสุทธิ์' แก้เกี้ยว 'สภาฯล่ม' แจงชงปิด หลังสส.ทำงานหนัก-สมาชิกมุสลิมติดศาสนกิจ

ประธานวิปรัฐบาล แก้เกี้ยว 'สภาฯล่ม' ป้อง 'ไชยา' ชิงปิดหนี แจงเป็นผู้เสนอปิดประชุมเอง หลังสส.ทำงานหนักพิจารณากฎหมายหลายมาตรา ขณะเดียวกันสส.มุสลิมกว่า30คนติดศาสนกิจ

ที่รัฐสภานายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (ประธานวิปรัฐบาล) ให้สัมภาษณ์ถึงการประชุมสภาผู้แทนราษฎรเมื่อวันที่20ส.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งเกิดกระแสวิพาษ์วิจารณ์ว่า ประธานในที่ประชุมชิงปิดประชุมระหว่างที่มีการเสนอนับองค์ประชุมเป็นครั้งที่4 เพื่อหนีประชุมล่มว่า ตนต้องขอทำความเข้าใจกับสื่อมวลชนและประชาชน ซึ่งจากที่ติดตามข่าวมีการระบุว่า นายไชยา พรหมา รองประธานสภาฯ คนที่หนึ่ง ทำหน้าที่ประธานในการประชุมในขณะนั้นปิดหนีนั้น ยืนยันว่าในที่ประชุมไม่มีการนับองค์ประชุม 

โดยการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ขนส่งทางราง พ.ศ…ซึ่งมีจำนวน165มาตราจะเห็นว่า สมาชิกมีการลงมติโดยตลอดซึ่งเราก็ทำงานกันหนักมากไม่ว่าฝ่ายค้านหรือรัฐบาล รวมแล้วกฎหมาย2ฉบับมีการลงมติไปกว่า100มาตรา

ฉะนั้นหลังจบร่างพ.ร.บ.ขนส่งทางราง ซึ่งเรามองว่าเยอะแล้ว แต่จากนั้นมีการพิจารณาร่างพ.ร.บ.ตั๋วร่วมไปถึง39มาตราจากทั้งหมด54มาตรา
 

"ผมเองเดินไปบอกท่านประธานว่า ขออนุญาตปิดการประชุมเพราะว่าวันนี้หนักมาก เห็นได้จากการทำหน้าที่ของทั้งฝ่ายค้านและรัฐบาลเราทำหน้าที่กันอย่างเต็มที่ ที่ต้องปิดเลยเพราะมีน้องสส.ที่เป็นมุสลิมเขาจะไปประกอบศาสนกิจโดยการละหมาดชั้นบนซึ่งมีการแจ้งผมว่าต้องไปตั้งแต่17.00น.แต่ตนขอร้องไว้ จนกระทั่ง18.40น.ก็ยังพิจารณาไม่จบ เพราะฉะนั้นจึงมองว่าเราควรได้ไปปฏิบัติศาสนกิจซึ่งเป็นเรื่องที่เหมาะสมและทำเป็นกิจวัตรอยู่แล้วก็มีสส.ที่เป็นมุสลิมประมาณ30ท่านที่ต้องไปประกอบศาสนกิจก็เลยไปบอกท่านประธานว่าขอปิดการประชุม"


ประธานวิปรัฐบาล ยังย้ำว่าการปิดประชุมวันดังกล่าวไม่ใช่ประธานอยากปิดแต่ตนเป็นฝ่ายไปขอร้องให้ปิดการประชุมไม่ใช่เรื่องที่ประธานปิดโดนพลการ
 

เมื่อถามว่า ในการประชุมครั้งหน้าหากฝ่ายค้านรู้เกมแล้วไปชิงเสนอนับองค์ประชุมจะเป็นปัญหาหรือไม่ ประธานวิปรัฐบาล เชื่อว่า ฝ่ายค้านคงไม่ได้เล่นเกมก็ปฏิบัติหน้าที่แต่การประชุมในวันที่20ส.ค.จะเห็นว่าเราทำงานกันหนักจริงๆ เชื่อมั่นว่าฝ่ายค้านคงไม่ได้เล่นเกมอะไร สื่อบางคนเอาไปลงในทางที่ผิดก็ขอชี้แจงทำความเข้าใจ

ส่วนกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญเปิดให้มีการไต่สวนพยานคดีน.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.วัฒนธรรมในคดีคลิปเสียงนั้นไม่ได้กังวลอะไร การให้กำลังใจนายกฯคือการมาเป็นองค์ประชุมสภาฯ ซึ่งจากที่ตนได้ตรวจสอบแล้วไม่มีสส.คนใดเดินทางไปที่ศาล เพราะได้กำชับแล้วว่าทุกคนต้องเป็นองค์ประชุมสภาฯ

ไม่มีความกังวลในเรื่องนี้เพราะมั่นใจในความบริสุทธิ์ และความหวังดีต่อประเทศชาติบ้านเมือง ตนไม่สามารถไปคาดเดาการพิจารณาของศาลได้แต่เชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรมและเชื่อมั่นในตัวท่านนายกฯว่าจะต้องได้รับความเป็นธรรมแน่นอน