ภาคประชาชน จัดเวทีบทเรียน 'โกงฮั้ว สว.' เชื่อมีขบวนการยื้อตัดสิน

"ครป." จัดเวทีบทเรียน โกงฮั้ว สว. "สว.สำรอง" แฉมีขบวนการทำลายพยาน-ลดน้ำหนักกล่าวหา ด้าน "วันชัย" คาดยื้อคดี2ปี ส่วน"ปริญญา" เชื่อเรื่องถึงศาล 138สว.หยุดปฏิบัติหน้าที่
ที่ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ กรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย (ครป.) และ เครือข่ายองค์กรภาคประชาชน ร่วมจัดเวทีอภิปรายสาธารณะ เรื่อง บทเรียนและทางออกคดีโกงฮั้ว สว.67
"ดีเอสไอ" ลุยสอบอั้งยี่-ฟอกเงิน "สว." มั่นใจ ทำเสร็จก่อน "กกต."
โดย นายระวี อักษรศิริ ผู้อำนวยการกองคดีการฟอกเงินทางอาญา กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กล่าวถึงการตรวจสอบคดีฮั้ว สว. ว่า ในกระบวนการตรวจสอบนั้นไม่มีแรงกดดันใดๆ ซึ่งคณะทำงานได้ส่งผลการตรวจสอบให้ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) แล้ว ต้องรอให้ กกต.พิจารณารายละเอียด อย่างไรก็ดีในการรวบรวมพยานหลักฐานมั่นใจและเชื่อว่า คณะกรรมการสืบสวนและไต่สวน ชุดที่26 ทำครบถ้วน สมบูรณ์ ส่วนการตรวจสอบเส้นทางการเงินได้ทำอย่างกว้างขวาง หลายส่วนและครบถ้วน ไม่เฉพาะผู้ที่ถูกกล่าวหา ซึ่งเป็นพยานหลักฐานเกี่ยวกับการกระทำความผิด อธิบายที่มาของโพยฮั้วได้ แต่เมื่อเข้าสู่การพิจารณาของ กกต.แล้ว อาจจะเห็นแย้งก็ได้ เพราะเป็นไปตามอำนาจของ กกต.ที่จะพิจารณา
นายวีระ กล่าวต่อว่าส่วนการตรวจสอบกรณีฟอกเงิน อั้งยี่ ที่อยู่ในการดำเนินการของ ดีเอสไอนั้น อยู่ระหว่างการดำเนินการ โดยใช้ทั้งกรมดำเนินการ มีคำสั่งแจกงานและให้เร่งรัดการฟ้องคดี ซึ่งมั่นใจว่าจะดำเนินคดีได้เร็วกว่าที่ควรจะเป็นและก่อนที่ กกต.จะดำเนินการ
“ดีเอสไอสามารถออกหมายเรียกผู้ต้องหาได้ แต่ต้องฟังความเห็นของข้อเท็จจริงจากพนักงานสอบสวนและอัยการ ว่ามีเพียงพอหรือไม่ ส่วนการออกหมายจับต้องดูหลักฐานหลายประการ ยืนยันว่าดีเอสไอเร่งรัดดำเนินการข้อหาอั้งยี่และฟอกเงินอย่างเต็มที่” นายวีระ กล่าว
อดีต สว. เชื่อมีกระบวนการยื้อฟัน "สว.น้ำเงิน" อีก2ปี
ขณะที่นายวันชัย สอนศิริ อดีตสว. กล่าวว่า การออกแบบกลไกให้สว.มีที่มาจากการเลือกกันเอง ควรมีความเป็นอิสระ แต่พบการทำตัวของ สว.ที่ไม่อิสระ ตนรู้สึกเสียดายและผิดหวัง เพราะสว. ควรเป็นสภาพี่เลี้ยง และอยู่สูงกว่าสภาที่ออกกฎหมาย แต่กลับยอมเอาตัวเองอยู่ใต้อุ้งของพรรคการเมือง นักการเมือง จึงเป็นเรื่องน่ารังเกียจ สำหรับ คดีตรวจสอบโกงฮั้วสว. ตนและหลายคนรู้สึกร้อนใจว่าทำไมช้า ส่วนหนึ่งเป็นเพราะว่า กรรมการไม่ตรงไปตรงมา เขาไม่อยากให้เรื่องดังกล่าวเกิดขึ้น
นายวันชัย กล่าวต่อว่า ต้องยอมรับว่ากระบวนการการเลือก สว. เปิดโอกาสให้ทำผิดกฎหมายหรือฮั้วมาก ตอนที่ตนยังเป็น สว. มีหน้าที่ร่วมบรรยายกฎหมายเกี่ยวกับการเลือก สว. กับ กกต. ตนบอกไว้แล้วว่า หากอยากเป็นสว. อย่ามาตัวคนเดียว เพราะอาจตกม้าตายได้ ต้องวางแผนอย่างเป็นระบบ และคำนวณด้วย เอไอ ว่าต้องใช้จำนวนคนเท่าไรในระดับการเลือกแต่ละระดับ หากไม่ทิ้งร่องรอยไว้ ไม่สามารถทำอะไรได้ แต่เรื่องที่เกิดขึ้นนั้น เรียกได้ว่าปล้นกางแดด แบบจะแจ้ง โดยเรื่องทั้งหมด คือการปล่อยปละละเลยเพิกเฉยของคนที่เป็นกรรมการ
“เมื่อกติกาเป็นแบบนี้และเปิดโอกาสให้ คนที่เป็นกรรมการต้องเตรียมการเข้มงวด กวดขัน วางกติกา ระเบียบคุมเข้ม แม้จะหลุดก็น้อย แต่นี่แทบไม่ทำอะไรเลย ผมมีเพื่อนที่จะลงสมัคร เป็น สว. ได้หารือกัน และพบว่ากรรมการระดับอำเภอ ยังงง และเพิกเฉย เห็นคนขนคนกันมาแต่ไม่ทำอะไร ระดับจังหวัด ไม่ได้ทำอะไร แต่ที่น่าอัปยศคือ ระดับประเทศ ใกล้ กกต. แค่หายใจรดต้นคอ ปล่อยได้อย่างไร ผมมองว่าส่วนหนึ่งมาจากกกต. และพอเรื่องเกิดขึ้นไม่อยากให้เป็นคดี หรือทำอย่างไรให้หมดวาระ ดึงไม่ดึงไม่รู้ แต่กรรมชี้เจตนา ทั้งนี้ตนมองว่าเรื่องนี้อาจดันไปถึง 2 ปี” นายวันชัย กล่าว
"สว.สำรอง" แฉมีขบวนการ ตัดพยาน-ลดน้ำหนักกล่าวหา หวังลากคดี
ทางด้าน พล.ต.ท.คำรบ ปัญญาแก้ว อดีตผู้ช่วย ผบ.ตร. ฐานะสว. กลุ่มสำรอง กล่าวว่า เมื่อ 2-3 วันที่ผ่านมา นายอิทธิพร บุญประคอง ประธาน กกต. ระบุว่าหากมีเหตุจำเป็นสามารถเร่งรัดในคดีฮั้วสว.ได้ แต่ไม่รู้ว่าอะไรคือเหตุจำเป็น ซึ่งตนได้สืบสวนดูในกระบวนการของตน พบว่า นาย ส. ที่ควบคุมความเห็นใหญ่ของ กกต. ให้ลูกน้อง ต. ประสานงานกับลูกน้องของ นาย อ. หัวหน้ากลุ่มใหญ่ ส.สีน้ำเงิน ชื่อย่อ จ. ให้ประสานไปยังเจ้าหน้าที่ กกต. ที่ดูแลสำนวนชั้นที่สอง เพื่อแอบถามคดี ซึ่งตนกลัวพยานเป็นอะไรไป หากพยานเป็นอะไร ต้องโทษกกต.
“นอกจากนั้นมีความพยายามให้เจ้าหน้าที่ตั้งประเด็นสอบเพิ่มเติม เพื่อตัดพยาน ลดทอนน้ำหนักกล่าวหา ซึ่งเป็นไปลักษณะยื้อเรื่อง หากยื้อได้ถึงสิ้นปี จะทำให้ สว. สามารถเลือก กกต. ได้อีก 5 คน ผมมองว่าเขาเห็นความหวังที่จะทำให้ได้ หากเป็นแบบนี้ กรรมชี้เจตนา กกต.ต้องรบผิดชอบในกรณีที่เกิดขึ้น ซึ่งขณะนี้ความผิดชัดเจน ในความผิดละเมิด และเจตนาหลีกเลี่ยงไม่ปฏิบัติตามระเบียบ หรือ คำสั่งที่ออกไว้ในการเลือกสว. โดยตามพ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือก สว. กำหนดอัตราโทษคือ จำคุก 1-10 ปี ซึ่งเหตุที่เขียนไว้เพื่อบีบให้ กกต. ทำให้สุจริตเที่ยงธรรม ดังนั้นขอให้ กกต.เตรียมตัวไว้ว่าจะมีคนเล่นงานได้ ดังนั้นขอให้ทำคดีดังกล่าวตรงไปตรงมา” พล.ต.ท.คำรบ กล่าว
"ปริญญา" แนะ "กกต." รีบส่งศาลฎีกา แก้ข้อครหา ยื้อสอบฮั้ว
ส่วน นายปริญญา เทวานฤมิตรกุล นักวิชาการคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวว่า ในคดีฮั้ว สว. ที่อยู่ในการพิจารณาของ กกต. มีข้อครหาจำนวนมาก ตนมองว่ามีทางเดียวที่กกต.จะลบได้ คือ รีบสรุปและส่งเรื่องให้ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งนักการเมือง โดยในกรอบเวลาแรกที่ฝ่ายเจ้าหน้าที่จะส่งเรื่องให้ กกต.พิจารณา 17 ก.ย. นั้น ตนมองว่าไม่จำเป็นต้องตั้งอนุกรรมการไต่สวนอีก แต่ควรมีมติส่งเรื่องไปที่ศาล เพื่อให้เรื่องดังกล่าวจบที่ศาลโดยเร็ว
ยกคดีตัวอย่าง ประเมินศาลรับคดีฮั้ว-138สว. หยุดปฏิบัติหน้าที่
นายปริญญา กล่าวต่อว่า เมื่อเรื่องไปที่ศาลฎีกา ตนเชื่อว่าศาลจะรับไว้พิจารณา ซึ่งตามกฎหมายเมื่อศาลรับเรื่องไว้แล้ว สว. 138 คนนั้นต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ เหตุที่ตนมองเช่นนั้น เพราะเมื่อวันที่ 5 ส.ค.มีคำพิพากษาศาลฎีกา คดีหมายเลขแดง ที่ ลต.สว. 47/2568 ตัดสินว่าการจับคู่แลกคะแนนของผู้สมัคร สว. นั้นผิดกฎหมายและเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง ดังนั้นในจำนวน 138 คนที่พบชื่อในโพยที่ทำเป็นกระบวนการนั้น เชื่อว่าศาลฎีกาจะรับคำร้องไว้ทุกราย
“ระบบเลือก สว. ที่นายมีชัย ฤชุพันธุ์ อดีตประธาน กรธ. ออกแบบไว้ ส่งเสริมให้เกิดการฮั้ว หรือ จับคู่กัน ตราบใดที่ไม่มีเรื่องเงินเกี่ยวข้อง คือเป็นระบบเปิดให้คนคุยกัน แต่คดีที่ร้องนั้นศาลเห็นว่าการส่งข้อความหาเพื่อจับคู่ คือการทุจริต ดังนั้นกรณีของสว. 138 คน หากว่าตามพื้นฐานของคดีที่ถูกตัดสินไปแล้ว เชื่อว่าศาลจะใช้บรรทัดฐานเดียวกัน และจะถูกรับคำร้องไว้ แต่การตรวจสอบอยู่ที่พยานหลักฐานว่าจะถูกตัดสินอย่างไร หากมีเส้นเงินเกี่ยว นอกจากพ้นตำแหน่งต้องถูกคดีอาญาด้วย ทั้งนี้หาก 138 คนหยุดปฏิบัติหน้าที่จะมี สว. ทำหน้าที่ได้ประมาณ 60 คน นี่อาจเป็นเหตุผลที่ สว. ต้องทำหน้าที่เลือก กกต. ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ และป.ป.ช. ที่ว่างให้เสร็จสิ้น” นายปริญญา กล่าว
"ไอลอว์" กางไทม์ไลน์ สอบฮั้ว สว. โยงเลือก กกต.เสียงข้างมากทำคดี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในเวทีดังกล่าวตัวแทนของไอลอว์ ได้ให้ข้อมูลไว้ด้วยว่า คณะกรรมการฯ ที่ 26 ส่งผลการตรวจสอบคดีฮั้วสว.ให้ กกต. เมื่อ 17 ก.ค. ซึ่งประธานกกต. ระบุว่าจะใช้เวลา 240 วันหรือ 8 เดือน ซึ่งจะครบกำหนดในวันที่ 14 มี.ค. 69 กว่าจะรู้ว่า กกต. จะสั่งฟ้องหรือไม่ เมื่อถึงเวลานั้นจะมี กกต. จำนวน 5 ใน 7 คน ที่มาจากการเลือกของสว.ชุดปัจจุบัน และเป็น กกต.เสียงข้างมาก และที่น่ากังวลคือ กรรมาธิการตรวจสอบประวัติ ความประพฤติ และพฤติกรรมทางจริยธรรม ของสว. ที่พบว่ามี สว. 88 คนจาก 200 คนทำหน้าที่ และใน 88 คนนั้น พบว่ามีมากถึง 75 คนที่ถูกสอบในคดีฮั้ว สว. ซึ่งอาจมีประเด็นผลประโยชน์ทับซ้อน เหมือนกับเลือกผู้พิพากษามาตัดสินคดีของตนเอง







