‘ภูมิธรรม’ ขอโอกาสโชว์ผลงาน พรรคร่วม-เพื่อไทย 'ไม่แตกแถว'

พรรคร่วม-เพื่อไทย'ไม่แตกแถว' ‘ภูมิธรรม’ ขอโอกาส 1-2 ปีที่เหลือ โชว์ผลงานให้ประจักษ์ กางทางเลือก-ทางรอด ‘แพทองธาร’ เชื่อมั่นพรรคร่วมฯผนึกไปต่อ
KEY
POINTS
- นายภูมิธรรม เวชยชัย แสดงความเชื่อมั่นว่าพรรคร่วมรัฐบาลจะยังคงสนับสนุนพรรคเพื่อไทยและไม่แตกแถว แม้ผลการตัดสินคดีของนายกฯ แพทองธารจะเป็นอย่างไร
- หากนายกฯ แพทองธารผ่านพ้นวิกฤตไปได้ จะเป็นโอกาสให้รัฐบาลสร้างความเชื่อมั่นและผลงานให้เป็นที่ประจักษ์ในอีก 1-2 ปีที่เหลือ
- ในกรณีที่นายกฯ แพทองธารต้องพ้นจากตำแหน่ง ภูมิธรรมเชื่อว่าพรรคร่วมจะยังคงสนับสนุนแคนดิเดตนายกฯ จากพรรคเพื่อไทยต่อไป เพราะมองว่านายกฯ ไม่ได้ทำผิด
- ภูมิธรรมยอมรับว่าประชาชนอาจยังมีความคลางแคลงใจ แต่ขอโอกาสให้รัฐบาลได้พิสูจน์ตัวเองด้วยผลงานและการกระทำ
29 สิงหา นัดหมายของ “ศาลรัฐธรรมนูญ” ชี้ชะตา “นายกฯแพทองธาร ชินวัตร” คดีคลิปสนทนา “ฮุน เซน” ประธานวุฒิสภากัมพูชา ถูกกล่าวหาเข้าข่ายผิดจริยธรรมร้ายแรง
ชะตาของ “แพทองธาร” เป็นเดิมพันใหญ่ของ “ตระกูลชินวัตร” หากเสียเก้าอี้ “นายกฯ” ศูนย์รวมอำนาจทางการเมือง อาจเคลื่อนออกจาก “บ้านจันทร์ส่องหล้า”
แม้ “หัวขบวนอนุรักษ์” ยังจำเป็นต้องใช้บริการเสียงของ “สส.เพื่อไทย” ในสภาฯ เพื่อประคับประคองอำนาจของตัวเองเช่นกัน แต่ “ชินวัตร - เพื่อไทย” อาจถูกบีบให้เดินในเกมที่กำหนดเอาไว้
รายการเนชั่นสุดสัปดาห์กับ 3 บก. ออกอากาศทางช่อง เนชั่นทีวี 22 ดำเนินรายการโดย สมชาย มีเสน บากบั่น บุญเลิศ วีระศักดิ์ พงษ์อักษร พูดคุยกับ ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ประเมินสถานการณ์การเมือง ทางรอด และทางเลือก “รัฐบาลเพื่อไทย”
ทางเลือกแรก “แพทองธาร” โอกาสที่จะลาออกจากตำแหน่งนายกฯ ก่อนที่ “ศาลรัฐธรรมนูญ” จะอ่านคำวินิจฉัย ภูมิธรรมยืนยันว่า ยังไม่เคยได้ยินคำพูดนี้ ในการพูดคุยกันระหว่างแกนนำ และจากปากของนายกฯ เขาไม่เชื่อว่าสิ่งนี้จะเกิดขึ้น
ทางเลือกสอง หาก“แพทองธาร” สู้ชนะ นั่งนายกฯต่อ ภูมิธรรมมองว่า หากนายกฯสามารถผ่านพ้นวิกฤติตรงนี้ไปได้ เป็นความโชคดีของประเทศ ของรัฐบาล รัฐบาลจะสร้างความเชื่อมั่น ความเข้มแข็งต่อไปได้อีก 1-2 ปี ส่วนแรงกดดันไม่อาจทราบได้ เป็นเรื่องจากภายนอก แต่เรามาทำงาน ทุกคนรวมถึงนายกฯ พร้อมเผชิญวิกฤตินี้ เพราะเราอาสามาแก้ปัญหา
ทางเลือกสาม หาก “แพทองธาร” ไม่รอด พรรคร่วมรัฐบาลยังสนับสนุนนายกฯคนต่อไปจากพรรคเพื่อไทยหรือไม่ ภูมิธรรม ระบุว่า "ถ้าพูดวันนี้ ยังหนักแน่น เพราะเราเห็น และรู้กันว่านายกฯ ไม่ได้กระทำผิดอะไร ถ้าวันนี้นายกฯ ทำผิด ผมคิดว่าจะเกิดความคลางแคลงได้ ตรงนี้ผมเชื่อมั่น และถ้ามีโอกาสจับมือเดินหน้าได้ ไม่แตกแถวแน่นอน"
ส่วนสูตรสนับสนุน “ชัยเกษม นิติสิริ” แคนดิเดตนายกฯ พรรคเพื่อไทย หาก “แพทองธาร” หลุดเก้าอี้ ภูมิธรรม ระบุว่า ต้องดูสภาพขณะนั้นเป็นอย่างไร ตามกระบวนการต้องเสนอตามนั้น ส่วนความเป็นไปได้ที่จะเสนอชื่อนายกฯ จากพรรคการเมืองอื่นอยู่ที่สถานการณ์การตัดสินใจร่วมของหัวหน้าพรรคการเมืองทุกพรรค
สำหรับคำถามหาก “แพทองธาร” รอดรัฐบาลจะอยู่ครบเทอมหรือไม่ ภูมิธรรมมั่นใจว่า รัฐบาลจะอยู่ครบเทอม คิดว่าเราเองทุกคนรู้ว่า เราอยู่ในช่วงวิกฤติของประเทศ จริงๆ ไม่ใช่เราทำให้วิกฤติ แล้ววิกฤติเหล่านี้ก็เห็นความพยายามตั้งใจ ส่วนการตอบสนองประโยชน์ที่ได้รับ แม้จะขาดช่วงขาดตอน ยังทำงานได้ไม่เต็มที่ แต่ถ้าให้โอกาสเราทำงานก็จะเห็นผลงาน
“ผลคำวินิจฉัย เราไม่อาจไปคาดการณ์ หรือไปทำนายสิ่งที่อยู่ในดุลพินิจของศาลได้ แต่ก็เชื่อมั่นในสิ่งที่นายกฯ ได้พูด ได้ทำไป ไม่ใช่เรื่องเป็นปัญหาไปทำลายความมั่นคงของชาติ”
มั่นใจ“พรรคร่วมฯ”ผนึกแน่น
เมื่อถามว่า มั่นใจแค่ไหน ว่าพรรคร่วมรัฐบาลที่จับมือกันอยู่จะสนับสนุนพรรคเพื่อไทยต่อ หากสมการทางการเมืองเปลี่ยน ภูมิธรรม ระบุว่า “พรรคร่วมรัฐบาล ผมเชื่อว่ายังสนับสนุนเพื่อไทย ผมไม่เชื่อว่าใครจะแทงข้างหลัง เพราะหลังผมยังสบายดี”
เมื่อถามว่า ประเมินการเมืองไว้หรือไม่ว่า ประชาชนมีความเชื่อมั่นรัฐบาลน้อยลง เขาอธิบายว่า ผมดูจากโพลทั้งหลาย ความรู้สึกของประชาชนก็มีคำถาม แต่ทั้งหลายทั้งปวงคงต้องพิสูจน์ด้วยผลงาน และการกระทำ ถ้าวันนี้ตัดสินออกมาแล้ว ไม่ให้โอกาสท่านนายกฯ ก็เป็นความเสียใจของเรา เพราะยังทำอะไรได้อีกมาก
“แต่ถ้าท่านให้โอกาส ผมเชื่อว่าพรรคร่วมรัฐบาลทั้งหมดจะร่วมมือในการผลักดันใน 1-2 ปีที่เหลือให้เป็นที่ประจักษ์ ที่เหลือจากนั้น อยู่ที่ดุลพินิจของประชาชนจะตัดสินใจอย่างไร”
ต้องระวังคุยกับ “ลููกฮุนเซน”
ภูมิธรรม ตอบคำถามถึงเรื่องคลิปแพทองธาร สนทนา ฮุน เซน ด้วยว่า หลังจากที่ผมฟังคลิปแล้ว ผมก็ไม่มีความไว้วางใจนายฮวด และ ฮุน เซน เลย แล้วที่เอารูปไปไหว้ แล้วท่านลูบหัว ก็ไม่เคยมี ผมและนายกฯพูดคุยกัน ไว้ใจไม่ได้
ตอนผมเป็น รมว.กลาโหม ท่านแม่ทัพภาคที่ 2 บอกว่า กัมพูชาไว้ใจไม่ได้หรอก เจอมันมานานหลายครั้งแล้ว ผมก็บอกว่า มนุษย์มีดีมีไม่ดีนะ เราหวังว่า คิดดี จะแก้ปัญหา ผมฟังรู้สึกแบบนั้น มันไม่สมกับการกระทำที่ผู้นำจะกระทำ เพราะฉนั้นผมว่า เขาไม่ใช่บุคคลที่น่าเชื่อถือ ตอนหลังนักข่าวถามผมว่า คุณยังเชื่อฮุน เซน อยู่เหรอ ผมไม่เชื่อแล้ว จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
เมื่อถามถึงตระกูลฮุน ผู้พ่อขาดสะบั้นแล้ว แล้ว ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ภูมิธรรม บอกว่า ต้องใช้ความระมัดระวังรอบคอบในการคุย เพราะสมเด็จฮุน เซนเป็นผู้นำจิตวิญญาณ ไม่ได้มีหน้าที่โดยตรง แต่ฮุน มาเนต ยังเป็นผู้นำประเทศ แล้วตราบใดที่ยังไม่ถึงขนาดรบราฆ่าฟัน ยกเลิกพันธะสัญญาสุดท้าย ต้องคุยด้วยกัน เพราะโลกนี้อยู่ได้ด้วยการเอาคนแตกต่างมาคุยกัน
ภูมิธรรม ยอมรับว่าได้พูดคุยกับ ฮุน มาเนตที่ประเทศมาเลเซีย ซึ่งฮุน มาเนตบอกว่าเขาเสียใจ แต่ทั้งหมดคือพ่อของฮุน มาเนต ท่านคุยกับพ่อแล้วก็ยิ้มๆ โดยบอกว่า เห็นใจนะ เรื่องนี้ไม่น่าจะเกิด แต่ผมบอกว่า ปัญหาเกิดเพราะพ่อท่านนั่นแหละ ซึ่งผมก็ไม่ได้ถามถึงเหตุผล ที่ทำไม ฮุน เซน ถึงต้องบันทึกเสียง เพราะเรื่องมันไปไกลกว่านั้นแล้ว
“รัฐบาล-กองทัพ” คีย์เดียวกัน
เมื่อถามถึงรัฐบาลกับกองทัพ เล่นเพลงคนละคีย์ ทหารอยากรบ รัฐบาลอยากเจรจา ภูมิธรรมกล่าวว่า ทหารของแต่ละคนไม่เหมือนกัน ผมถ้าเป็นทหารคงอยากจะไปรักษาอธิปไตยของประเทศ รักชาติ ไม่มีปัญหาอะไร แต่ผมเชื่อว่า ทุกฝ่ายอยากจะไปสู่จุดมุ่งหมายเดียวกัน ไม่อยากให้เสียอธิปไตย ไม่ยินยอมให้เสียเลือดเนื้อประชาชน
“รัฐบาลอยากรักษาประเทศไว้ ไม่อยากให้เกิดความรุนแรง แต่กระบวนการเข้าถึงมันแตกต่างกัน ผมยืนยันว่า ที่ผ่านมา ตั้งแต่เป็น รมว.กลาโหม ผมกับผู้นำเหล่าทัพรวมทั้ง ผบ.ทบ.เราคุยกันตลอด”
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ถูกมองว่าการแก้ปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา ภาพทหารนำการเมือง เขาอธิบายว่า ถ้าเข้าใจวิธีการข้อเท็จจริงแล้วจะไม่บิดเบี้ยว ตอนประชุมสภาความมั่นคง มีข้อเสนอทั้งกองทัพ ทั้ง กอ.รมน. กองบัญชาการทหารสุงสุด กองทัพภาคด้วย ได้คุยกัน ถ้ามีเหตุเกิดขึ้น ก็มี 6 ขั้น ตามขั้นตอน
โดยทั้งหมดขอมอบอำนาจให้กองทัพเป็นหน่วยเผชิญเหตุเฉพาะหน้า ไม่ใช่มาวิ่งขอให้รัฐบาลประชุมสภากลาโหม กับสภาความมั่นคงแล้วไปสั่ง เรามอบให้กองทัพ ไม่ใช่เรื่องแปลกที่กองทัพเป็นคนมานำ แล้วพูด แต่เวลาคุยข้างหลัง คุยด้วยกันหมด
“ดูได้จากการที่ท่านนายกฯ เรียกประชุมที่บ้านพิษณุโลก ออกมาทั้งหมด 6 คน เห็นเหมือนกัน บางอย่างไม่เห็นด้วย เราฟัง พูดคุยแล้วปรับ ถ้าวันนี้กองทัพเป็นกำปั้นเหล็ก รัฐบาลผมเป็นถุงมือกำมะหยี่ที่คอยบาลานซ์กันให้ได้ หลายเรื่องใช้กำปั้นเหล็ก เราหันไปมอง เขาโอเคเข้าใจก็ว่าไป เรามอบอำนาจให้เขา อยู่ประจำพื้นที่แล้ว”
“ผมอยู่กระทรวงกลาโหมมา ผมเข้าใจทหารดีพอสมควร แม้อยู่ไม่นาน และผมก็เชื่อว่า ท่านเข้าใจผม เท่าที่ผมฟัง ก็เป็นกำลังใจให้ผม ไม่มีแรงกดทับ ต้องช่วยกันฝ่าฟันให้ประเทศผ่านพ้นวิกฤติ"
ทั้งหมดคือมุมของ “ภูมิธรรม เวชยชัย” มือปฏิบัติการที่ “ตระกูลชินวัตร” ไว้วางใจมากเป็นพิเศษ ท่ามกลางพายุทางการเมือง และความมั่นของชายแดนไทย-กัมพูชา ที่ถูกผูกปมเงื่อนกับชะตาของ “แพทองธาร- ตระกูลชินวัตร”







