มอบรองเลขา กกต.คุมคดีฮั้ว สว. ขีด 30 วันชงที่ประชุมใหญ่ กกต.ชี้ขาด

มอบรองเลขาฯ กกต.ฝ่ายสืบสวน คุม 'คดีฮั้ว สว.' ในขั้นทำความเห็นก่อนชงที่ประชุมใหญ่ กกต. ขีดเส้น 30 วัน ชี้ กกต.ยังมีอำนาจเต็ม ทำหน้าที่ต่อได้ แม้ครบวาระ
KEY
POINTS
- เลขาธิการ กกต. มอบหมายให้รองเลขาธิการ กกต.ฝ่ายสืบสวน ดูแลคดีฮั้ว สว. โดยมีกรอบเวลา 30 วันในการทำความเห็นเสนอให้ที่ประชุมใหญ่ชี้ขาด
- การพิจารณาต้องใช้เวลาเนื่องจากมีเอกสารจำนวนมาก แต่จะเร่งรัดให้เร็วที่สุด พร้อมปฏิเสธข่าวลือที่ว่าจะใช้เวลานานถึง 8 เดือน
- กระบวนการไต่สวนจะไม่ได้รับผลกระทบจากการเกษียณอายุของกรรมการ กกต. บางคน ซึ่งยังคงปฏิบัติหน้าที่ได้เต็มอำนาจตามปกติ
เมื่อวันที่ 15 ส.ค. 2568 นายแสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวถึงความคืบหน้าใน คดีฮั้วเลือก สว. ปี2567 คณะกรรมการสืบสวนและไต่สวน ส่วนกลาง ชุดที่ 26 ว่า อยู่ในขั้นตอนให้เลขาธิการ กกต.ทำความเห็น ซึ่งตนเองมอบหมายให้รองเลขาธิการฝ่ายสืบสวนเป็นผู้ดูแลแทน โดยมีกรอบระยะเวลา 30 วัน ซึ่งสามารถขยายเวลาได้อีกแต่จะทำให้สำเร็จโดยเร็วที่สุด แต่ต้องบอว่ามีเอกสารเป็นจำนวนมาก จึงต้องใช้เวลาในศึกษาให้ได้ข้อเท็จจริง
เมื่อถามถึงที่มีกระแสข่าวว่าจะใช้ระยะเวลากว่า 8 เดือนนั้น เลขาธิการ กกต. กล่าวว่า ก็คงเป็นข่าว แต่ในทุกระดับชั้นก็จะดำเนินการให้เร็วที่สุด ส่วนกรณีที่จะมี กกต.บางคน เกษียณอายุ และต้องมีการเลือก กกต.ใหม่ มาปฏิบัติหน้าที่แทนนั้น เรื่องดังกล่าวไม่ได้เป็นเงื่อนไข ส่วนสำนวนก็ดำเนินต่อตามระเบียบ และกกต. ก็ยังคงทำหน้าที่อยู่ต่อไปถึงแม้จะครบวาระก็ยังปฏิบัติหน้าที่โดยมีอำนาจเต็มทุกอย่าง
เมื่อถามว่าจะมีการตั้งคณะกรรมการวินิจฉัยขึ้นมาหรือไม่จาก 35 ชุดที่มีอยู่ตอนนี้ เลขาธิการ กกต. กล่าวว่า เป็นขั้นตอนหนึ่งที่มีอยู่ในสำนวน คือต้องให้ความเป็นธรรมและตรวจสอบซึ่งกันและกัน ว่าสำนวนมีความครบถ้วนถูกต้อง ส่วนรูปแบบของคณะอนุกรรมการสืบสวนฯ ก็อยู่ที่ว่า กกต.จะพิจารณาอย่างไร จะตั้งใหม่หรือไม่ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง อย่างไรก็ตามที่ถูกครหาว่าคิดช้าหรือไม่นั้นขอย้ำว่า เป็นการดำเนินการตามขั้นตอน







