'วิโรจน์' ขอหั่นงบ ปรับภูมิทัศน์พิพิธภัณฑ์ไม้ฯ เหตุราคาสูงลิ่ว

'วิโรจน์'  ขอหั่นงบ ปรับภูมิทัศน์พิพิธภัณฑ์ไม้ฯ เหตุราคาสูงลิ่ว

"วิโรจน์" ซัดไม่สมเหตุสมผล กระทรวงทรัพย์ฯ ของบปรับภูมิทัศน์ พิพิธภัณฑ์ไม้มีค่า หลังพบค่างานสูง กว่า 5,000 บาท ต่อ ตร.ม.

ที่รัฐสภา  นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ฐานะกรรมาธิการ อภิปรายต่อที่ประชุมสภาฯ วาระพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.)งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2569 วาระสอง ในส่วนของมาตรา 17 ของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม  โดยขอปรับลดงบประมาณในโครงการจัดสร้างพิพิธภัณฑ์เรื่ององค์ความรู้ไม้มีค่าเพื่อประโยชน์ของแผ่นดิน ซึ่ง คสช. อนุมัติให้ดำเนินงานกรอบวงเงิน 2,456 ล้านบาท ผูกพันงบประมาณ ปี 57 - 60 เดิมจะสร้างที่หอประชุมกองทัพบก แต่ย้ายไปก่อสร้างบนที่ดินเขตวังทองหลาง เนื้อที่ 79 ไร่ เมื่อวันที่ 14 ส.ค. 2561 เพิ่มวงเงินก่อหนี้ 6,284 ล้านบาท พร้อมขยายเวลาก่อหนี้ผูกพัน ถึงปี 2566 จนถึงปัจจุบันขยายเวลาก่อหนี้ และผูกพันข้ามปีงบประมาณ ที่ไม่รู้ว่าจะจบที่ปีงบประมาณใด

นายวิโรจน์ อภิปรายต่อว่า ปีงบประมาณ 2569 สำนักปลัดกระทรวงทรัพย์ฯ ได้แจ้งใช้งบประมาณโครงการปรับปรุงภูมิทัศน์​ในโครงการพิพิธภัณฑ์ไม้มีค่า รวม 401 ล้านบาท ครอบคลุมพื้นที่ 30 ไร่ งานระบบประกอบอาคารและภายนอก 105 ล้านบาท และงบงานระบบต่อเนื่อง 28 ล้านบาท เมื่อนำงบที่เกี่ยวข้องกับงานระบบออกไป งานปรับปรุงภูมิทัศน์อย่างเดียว จัดสรร 267 ล้านบาท สูงถึง 5,575 บาท ต่อตร.ม. ทั้งนี้เมื่อเปรียบเทียบการปรับปรุงภูมิทัศน์สวนเบญจกิติ มีค่าปรับปรุงภูมิทัศน์ เพียง 2,000 บาท ต่อ ตร.ม.เท่านั้น หรือหากจะใช้งบมากสุดไม่ควร 3,000 บาท ต่อ ตร.ม.

นายวิโรจน์​ อภิปรายต่อว่า งบประมาณในการปรับปรุงโครงการดังกล่าว จำเป็นต้องตั้งคำถามว่า ไหนคือความมีเหตุผล พอประมาณ และภูมิคุ้มกันที่ดีตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง รัฐบาลต้องตั้งงบประมาณแบบขาดดุล ที่มีภาระดอกเบี้ยจ่าย แต่กลับนำเงินมาใช้แบบสุรุ่ยสุร่าย แทนไปพัฒนาประเทศ แก้ปัญหาปากท้อง ดูแลสวัสดิการประชาชน งบปรับปรุงภูมิทัศน์ควรอยู่ที่ 144 ล้านบาท ดังนั้นเมื่อรวมงบทั้งโครงการแบบสมเหตุสมผล อยู่ที่ 278 ล้านบาท ไม่ใช่ 401 ล้านบาท ตามที่หน่วยงานเสนอมา ดังนั้นงบที่ขอตั้งปี 69 จำนวน 60 ล้านบาท ก่อหนี้ผูกพัน 15% ตามมติครม. และจะผลักภาระปีงบประมาณ 70 อีก 341 ล้านบาท ไม่สมเหตุสมผล

"ผมจึงขอปรับลดโครงการนี้ในปี69 ลงจำนวน 18 ล้านบาท ให้เหลือเพียง 41 ล้านบาท แต่ชั้นกมธ. ปรับลดเพียง 7 ล้านบาท ผมจึงจำเป็นปรับปรุงงบปรับปรุงภูมิทัศน์โครงการพิพิธภัณฑ์ไม้มีค่าอีก 11 ล้านบาท เพื่อให้เป็นประโยชน์กับแผ่นดิน ไม่ใช่ประโยชน์ของผู้รับเหมาไม่กี่ราย” นายวิโรจน์ อภิปราย