‘ภูมิธรรม’ แจ้ง ‘มทภ.2’ ขาดอะไรให้บอก ไม่ต้องโพสต์ขอบริจาค ปชช.

‘ภูมิธรรม’ แจ้ง ‘มทภ.2’ ขาดอะไรให้บอก ไม่ต้องโพสต์ขอบริจาค ปชช.

“ภูมิธรรม” ชี้ กต. ควรฟ้อง “ยูเอ็น” กัมพูชา ละเมิดอนุสัญญาออตตาวา ใช้ทุ่นระเบิด เจตนาไม่ให้เกิดสันติภาพ เผย “มาริษ” มั่นใจ ต่างชาติเข้าใจเรามากกว่า เหลือแต่คนในประเทศ แจ้ง มทภ.2 ขาดอะไรขอให้บอก ไม่จำเป็นต้องโพสต์ขอบริจาค ปชช. ลั่น จ่อฟ้องนักวิจารณ์การเมือง

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ฐานะรักษาราชการแทนนายกฯ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีทหารไทย เหยียบทุ่นระเบิดจนขาขาดระหว่างลาดตระเวนเป็นครั้งที่4 เมื่อวานนี้ ว่า ได้รับทราบแล้ว ขอแสดงความเสียใจต่อนายทหารท่านนี้ เป็นเรื่องที่ต้องเห็นใจเพราะกำลังทำหน้าที่อยู่ อย่างไรก็ตาม กรณีที่มีทหารระบุเมื่อเกิดกรณีเช่นนี้ต้องมีการปกป้องตนเอง ตนคิดว่าตามสนธิสัญญาและกฎหมายระหว่างประเทศสามารถทำได้ ถ้าเราคิดว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องที่กระทบและเป็นปัญหาที่ผิดอนุสัญญาต่างๆ โดยเฉพาะการใช้กับระเบิด ผิดอนุสัญญาออตตาวาอยู่แล้ว มีขั้นตอนของมันว่าจะต้องไปดำเนินการยื่นเรื่องฟ้องร้องสหประชาชาติ หรือยูเอ็นให้เห็นว่าเรื่องนี้เป็นปัญหา

ทางยูเอ็นจะมีขั้นตอนในการแจ้งทั้งสองฝ่ายทราบ และจะมีกระบวนการดำเนินการต่อไป ตรงนี้สามารถทำได้ตามกฎหมาย เมื่อเช้าวันเดียวกันนี้ (13 ส.ค.) ได้คุยกับกระทรวงการต่างประเทศ เขาเตรียมพร้อมที่จะยื่นอยู่แล้ว เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เราต้องใช้ความระมัดระวัง แต่เป็นเรื่องที่กระทำได้และควรกระทำ เพราะสิ่งต่างๆ เหล่านี้เห็นได้ชัดว่า ความประสงค์ของกัมพูชาไม่ได้มีเจตนาที่จะให้เกิดสันติภาพ เดี๋ยวคงจะได้มีกระบวนการและคงได้คุยกันกับทุกฝ่าย 

เมื่อถามว่า รัฐบาลจะต้องส่งสัญญาณไปในพื้นที่หรือไม่ เพื่อให้สามารถดำเนินการได้ นายภูมิธรรม กล่าวว่า มันมีกระบวนการของมันอยู่แล้ว โดยเฉพาะทางกองทัพบก ที่จะช่วยดำเนินการ เขาอยู่ในหน้างานอยู่แล้ว เขาสะท้อนให้ทราบ โดยกองทัพกับกระทรวงต่างประเทศ และรัฐบาล จะมีการคุยกัน ทั้งหมดเป็นส่วนเดียวกันอยู่แล้ว 

เมื่อถามว่า ขณะนี้จะให้ความมั่นใจกับประชาชนอย่างไร เพราะพอเกิดเหตุการณ์ขึ้น ประชาชนเริ่มไม่มั่นใจและเริ่มอพยพออกจากบ้านเรือนอีกครั้งแล้ว โดยเฉพาะที่ จ.ศรีสะเกษ และอ.พนมดงรักษ์ จ.สุรินทร์ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ต้องเห็นใจประชาชนที่ยังคงมีความหวาดระแวง แต่เป็นหน้าที่ของทุกส่วน ทั้งกองทัพและหน่วยราชการที่เกี่ยวข้องที่จะต้องไปทำความเข้าใจกับประชาชนให้มากขึ้นให้อยู่ในภาวะที่ไม่ตื่นตระหนกเกินไป และเดี๋ยวนี้สื่อมีมากมาย ทั้งสื่ออิสระและสื่อหลัก มีความพยายามปั่นข่าวให้เกิดความไม่สบายใจขึ้น จึงอยากขอร้องทุกคนให้ช่วยกัน อย่างสื่อสาธารณะ สื่อหลัก ขอให้ช่วยกันทำความเข้าใจ จะช่วยได้มาก 

เมื่อถามถึงกรณีนายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกฯ เสนอให้กระทรวงต่างประเทศยื่นเรื่องไปยังศาลอาญาระหว่างประเทศ นายภูมิธรรม กล่าวว่า กระทรวงต่างประเทศทำมาหลายเรื่อง ที่ผ่านมาได้มีการคุยกับเลขาธิการยูเอ็น และหลายๆ ส่วน รวมถึงทางคณะกรรมการของอนุสัญญาออตตาวา โดยยืนยันว่าทำไปทุกอย่างแล้ว เราพยายามทำอย่างเต็มที่ สิ่งสำคัญคือ การชี้แจงหรือการทำความเข้าใจกับประชาชนและการที่จะสามารถทำให้นานาชาติได้รับรู้ อาจจะยังทำช้าไปหรือเสียงดังไม่พอ แต่นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รมว.ต่างประเทศ ยืนยันว่าในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการต่างประเทศ ท่านเชื่อมั่นว่าต่างประเทศเข้าใจเรามากกว่ากัมพูชา เพราะทุกคนมองเห็นและได้เห็นรายละเอียดต่างๆ แล้ว ตนยังบอกไปว่าสิ่งสำคัญคือประชาชนในประเทศนี่แหละ ถ้าทำให้ประชาชนในประเทศเข้าใจจะเป็นสิ่งที่ดียิ่งขึ้น

เมื่อถามถึงกรณี กองทัพภาคที่ 2 โพสต์ขอรับการสนับสนุนลวดหนามหีบเพลง นายภูมิธรรม กล่าวว่า อยากเรียนทำความเข้าใจกับหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด จริงๆ ในกระบวนการหากคิดว่าไม่พอ สามารถแจ้งมาที่กองทัพหรือผู้บัญชาการทหารบกได้ และสิ่งเหล่านี้สามารถที่จะจัดได้ เพราะเป็นเรื่องที่ตนพูดอยู่ตลอดเวลากับแม่ทัพทั้ง 3 เหล่าทัพ ว่าอะไรที่ขาดหรือจำเป็นให้รีบทำเรื่องเสนอขึ้นมา รัฐบาลจะให้งบกลางช่วยเต็มที่ ซึ่งที่ผ่านมาไม่เคยมีเรื่องนี้เสนอมา ส่วนใหญ่เสนอมายัง ครม. ซึ่งเรื่องเหล่านี้หากเสนอขึ้นมาอนุมัติหมด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของงบประมาณกำลังพลทั้งหมด จริงๆยังไม่จำเป็นไปถึงขนาดขึ้นเพจเฟซบุ๊กขอให้ประชาชนมาช่วย ตนคิดว่าจะทำให้เกิดความไม่เข้าใจ รัฐบาลไม่มีอะไรขัดขวาง อยากจะเรียนให้แม่ทัพภาคที่ 2 ได้ทราบเพราะว่าถ้าขาดจริงๆบอกมา เรามีงบประมาณให้อยู่แล้ว และได้บอกไปแล้วว่า ตอนนี้อะไรที่สามารถเอามาจากตรงไหนได้ให้เอามาก่อน ตรงไหนขาดบอกมาจะใช้วิธีพิเศษที่สามารถพิจารณาให้ได้เลย เพื่อให้ได้ของ เรื่องนี้ตนคิดว่าจะทำให้เกิดความไม่เข้าใจกันได้ รัฐบาลยืนยันว่า อะไรที่ขณะนี้เป็นเรื่องที่ต้องสร้างความเข้มแข็งให้กับกำลังพลในการรักษาอธิปไตยของประเทศ รัฐบาลนี้ไม่ขัดข้อง มีงบกลางให้ใช้อยู่แล้ว ทั้งนี้ ตนอยากขอความกรุณาและกราบเรียนพี่น้องประชาชน ช่วยกันในการแก้ปัญหา ตนก็ไม่ได้รับความเป็นธรรมเหมือนกัน แต่ว่าอยู่ในฐานะหน้าที่เราพยายามจะนิ่งให้ได้มากที่สุด 

“การที่บอกว่าผมไปเข้าข้างเขมร บอกว่าระเบิดที่ลงที่โรงพยาบาล ไม่ใช่อย่างโน้นอย่างนี้ ไม่จริงนะครับ และถ้าไปดูเทปทั้งหมดเขาถามว่าจะชี้แจงอย่างไรหรือไม่ ทำไมระเบิดถึงลงเฉพาะที่นี่ ผมก็บอกว่าเขาไม่ได้ยิงเฉพาะเจาะจงเป้าหมาย หากยิงเฉพาะเจาะจงเป้าหมายจะไม่มีการเสียชีวิตของพลเรือนเลย เป็นการยิงด้วยระเบิด BM- 21 ที่ออกมาจำนวนมาก กระจัดกระจายไม่ได้ไปที่เป้าหมายทางทหาร ผมคิดว่าอย่าเอาไปบิดเบือน ทำลายรัฐบาล สร้างความไม่ไว้วางใจรัฐบาล ทำให้ประชาชนในประเทศเกิดความแตกแยก” นายภูมิธรรม กล่าว  

นายภูมิธรรม กล่าวว่า มีนักวิจารณ์การเมืองบางคนไปพูดว่าให้ตัดขาจะได้รู้ว่าหัวอกเป็นอย่างไร ทั้งหมดนี้ตนจะฟ้อง ทั้งที่เป็นคนที่ไม่คิดจะฟ้องใคร แต่คิดว่าเรื่องนี้ต้องทำให้ประจักษ์อย่างที่เคยถูกโจมตี จนกระทั่งนายสนธิแพ้ตนในชั้นศาลฎีกา ก็เคยมาขอโทษแล้ว เรื่องนี้เหมือนกันอย่าพูดอะไรพล่อยๆ อย่าพูดอะไรทำให้เกิดความแตกแยก อย่าพูดอะไรที่ทำร้ายคนอื่น