‘งบฯ 69’ เขย่า 8,920 ล้าน อัป ‘กองทัพ’ คืน 7 หน่วยงาน 2แผนงาน

‘งบฯ 69’ เขย่า 8,920 ล้าน อัป ‘กองทัพ’ คืน 7 หน่วยงาน 2แผนงาน

จับตา สภาฯ ถกงบฯ69 วาระสอง-สาม วันแรกวันนี้ ทั้งการอภิปรายสาระที่กมธ. รีดไขมัน 8,920ล้านบาท -โยกงบลงท้องถิ่น และเกมล่มประชุม เพื่อทดสอบความพร้อม "รัฐบาลเสียงปริ่มน้ำ"

KEY

POINTS

  • สภาฯ ถกร่างกม.งบฯ69 วาระสอง และวาระสาม ในวันนี้ ต่อเนื่องไปถึงวันที่ 15 ส.ค.
  • จับตา การอภิปรายเนื้อหา หลัง "ฝ่ายค้าน" ยังไม่พอใจต่อการปรับเปลี่ยนงบ ตามที่ กมธ.ข้างมาก ลดงบจากหน่วยงานต่างๆ รวม 8,920 ล้านบาท
  • ในประเด็นนี้ พบว่า "กระทรวงมหาดไทย" ถูกปรับลดมากที่สุด 
  • ขณะที่งบประมาณกระทรวงกลาโหมถูกปรับลดลง 189 ล้านบาท โดยส่วนใหญ่เป็นงบด้านการก่อสร้างอาคารและพัฒนาขีดความสามารถ ไม่ใช่ส่วนที่เกี่ยวข้องกับการปกป้องอธิปไตย
  • สำหรับงบที่ปรับลดได้ถูกนำไปจัดสรรเพิ่มให้กับ 7 หน่วยงาน และ 2 แผนงาน ซึ่ง "ฝ่ายค้าน" มองว่ายังไม่เหมาะสม กับภาวะฟื้นเศรษฐกิจ
  • นอกจากสาระแล้วต้องติดตามการเล่นเกม ล่มประชุม ที่ "ฝ่ายค้าน" ประกาศแล้วว่า รัฐบาลต้องเตรียมพร้อมองค์ประชุมของตัวเอง อย่าหวังพึ่งน้ำบ่อหน้า

สภาผู้แทนราษฎร นัดประชุมเป็นพิเศษ ระหว่างวันที่ 13 - 15 ส.ค.2568 นี้ เพื่อพิจารณา ร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2569 วงเงิน 3.78 ล้านล้านบาท วาระสองและวาระสาม หลังจากที่คณะกรรมาธิการวิสามัญฯ ที่มี พิชัย ชุณหวชิร รองนายกฯ และรมว.คลัง เป็นประธาน กมธ. พิจารณาแล้วเสร็จ

ตามที่กรรมการประสานงานสภาฯ ตกลงกรอบเวลา เบื้องต้นจะใช้เวลาพิจารณา วันละ 14 ชั่วโมงครึ่ง รวมเวลา 3 วัน คือ 43 ชั่วโมงครึ่ง จากนั้นจะมีการลงมติในวาระสามต่อไป

กับประเด็นที่ต้องจับตา คือเนื้อหาที่ กรรมาธิการเสียงข้างมาก มีมติ “ปรับลด”งบประมาณจากหน่วยงานต่างๆ ที่สูงถึง 8,920 ล้านบาท 

โดยฝ่ายค้านที่ทำหน้าที่เป็น กมธ.อย่าง "ศิริกัญญา ตันสกุล” และ “พริษฐ์ วัชรสินธุ” สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ระบุว่า คือการ “รีดไขมัน” เพียงเสี้ยว จากก้อนใหญ่ที่ยังรีดไม่หมด

ตามรายงานของ กมธ.ที่เสนอต่อสภาฯ นั้น จะพบว่าในสัดส่วนงบประมาณที่ถูกปรับลดรวม 8,920 ล้านบาท มาจาก ไขมันที่ถูกรีดจากทุกหน่วยงานในอัตราและสัดส่วนมากน้อยต่างกัน ตั้งแต่ระดับพันล้าน ไปจนถึงหลักล้านบาท ทั้งนี้มี กระทรวงและส่วนราชการที่ปรับลดสูงสุด 5 อันดับ ได้แก่

‘งบฯ 69’ เขย่า 8,920 ล้าน อัป ‘กองทัพ’ คืน 7 หน่วยงาน 2แผนงาน

1.กระทรวงมหาดไทย ปรับลด 2,148 ล้านบาท สำหรับรายการที่ปรับลดส่วนใหญ่ ถูกจัดอยู่ใน หมวดครุภัณฑ์ ค่าที่ดิน สิ่งก่อสร้าง อาคารต่างๆ เช่น ค่าติดตั้งระบบโซลาร์เซลล์ ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ มหาสารคาม บุรีรัมย์ วงเงิน 9.6 - 6 ล้านบาท ที่พบการตัดออกทั้งก้อน หรือโครงการพัฒนาพื้นที่ ปรับปรุงภูมิทัศน์ ที่ตัดออกทั้งก้อน ทั้งที่เป็นโครงการที่เสนองบประมาณผูกพันตั้งแต่ปี 2566 หรือโครงการผลิตน้ำบริโภคใน 12 อำเภอ มูลค่า 5.4-1.1 ล้านบาท ที่ตัดออกทั้งก้อน เป็นต้น

2.หน่วยงานรัฐสภา 880 ล้านบาท โดยรายการที่ปรับลดส่วนหนึ่งถูกจัดอยู่ในโครงการภายใต้แผนงานส่งเสริมประชาธิปไตย วงเงิน 178 ล้านบาท ที่เป็นประเด็นทำให้ “พิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน” อดีตรองประธานสภาฯ คนที่หนึ่ง ต้องตกเก้าอี้

3.กระทรวงคมนาคม 795 ล้านบาท โดยรายการปรับลดส่วนใหญ่จัดอยู่ในหมวดครุภัณฑ์และสิ่งปลูกสร้าง และงบฯ ที่เกี่ยวข้อง เช่น ค่าควบคุมงาน ค่าจ้างที่ปรึกษา

4.กระทรวงสาธารณสุข 693 ล้านบาท โดยรายการปรับลด ส่วนใหญ่คือค่าครุภัณฑ์ ก่อสร้างอาคารที่พักพยาบาล อาคารผู้ป่วยของโรงพยาบาล

5.กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม 459 ล้านบาท ส่วนใหญ่รายการที่ปรับลด นอกจากค่าครุภัณฑ์ การก่อสร้างอาคารต่างๆ แล้ว ยังพบว่ามีการปรับลดในหมวดยานพาหนะ และขนส่ง เป็นต้น

ขณะที่ “กระทรวงกลาโหม” ตามมติของกมธ.เสียงข้างมาก ปรับลดลง 189 ล้านบาท โดยไม่พบว่ามีการปรับลดงบประมาณที่ใช้ในการปกป้องอธิปไตยของชาติ สำหรับรายการที่ปรับลด พบว่า

มีในส่วนของสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม ปรับลด 40 ล้านบาท อยู่ในหมวดค่าที่ดินและสิ่งก่อสร้าง ส่วนงบฯในหมวดเสริมสร้างกำลังกองทัพที่ตั้งไว้ 545 ล้านบาท ถูกหั่นเพียง 6.9แสนบาท

กองทัพเรือ จากงบที่ตั้งไว้ 2.1 หมื่นล้านบาท ถูกปรับลด 47 ล้านบาท กองทัพอากาศ ตั้งงบไว้ 2.3 หมื่นล้านบาท ถูกปรับลด 23 ล้านบาท กองบัญชาการกองทัพไทย ตั้งงบไว้ 7.6 พันล้านบาท ปรับลด 42 ล้านบาท

‘งบฯ 69’ เขย่า 8,920 ล้าน อัป ‘กองทัพ’ คืน 7 หน่วยงาน 2แผนงาน

โดยรายการที่ถูกปรับลดนั้นพบว่า อยู่ในส่วนของงบฯก่อสร้างอาคารที่พักข้าราชการ อาคารที่ทำการ โครงการพัฒนาขีดความสามารถกองทัพ

สำหรับการปรับลดงบประมาณตามมติข้างมากของ กมธ.นั้น ตามขั้นตอนต้องเกลี่ยไปให้ “หน่วยงาน” ที่เสนอคำขอเพื่อใช้ในโครงการที่มีความจำเป็น โดยตามข้อสังเกตของ “พริษฐ์” ฐานะ กมธ.เสียงข้างน้อย มองว่า ยังไม่ตรงจุด เมื่อมองในมติของการบรรเทาผลกระทบจากข้อตกลงภาษีตอบโต้ของสหรัฐฯ

‘งบฯ 69’ เขย่า 8,920 ล้าน อัป ‘กองทัพ’ คืน 7 หน่วยงาน 2แผนงาน

สำหรับการจัดสรรงบที่ถูกรีดออกมาในรอบแรก “มติของกมธ.เสียงข้างมาก” ได้จัดสรรกลับไปยัง 7 หน่วยงาน และ 2 แผนงาน ประกอบด้วย

1.รัฐวิสาหกิจ ได้เพิ่มจำนวน 4,914 ล้านบาท โดยกำหนดให้เป็นค่าที่ดินและสิ่งก่อสร้าง งานโยธาตามสัญญาสัมปทานฯโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์ - ศูนย์วัฒนธรรม กทม. ซึ่งก่อนหน้านี้ “กมธ.” มีมติปรับลดงบฯลง 25 ล้านบาท

‘งบฯ 69’ เขย่า 8,920 ล้าน อัป ‘กองทัพ’ คืน 7 หน่วยงาน 2แผนงาน

2.กระทรวงการคลัง ได้เพิ่มจำนวน 1,568 ล้านบาท เพื่อใช้จัดการประชุมประจำปีสภาผู้ว่าการธนาคารโลก และกองทุนการเงินระหว่างประเทศปี 2569 ซึ่ง “ประเทศไทย” เป็นเจ้าภาพ ทั้งนี้ก่อนหน้านี้ “กมธ.” มีมติปรับลดงบฯ ลงจำนวน 155 ล้านบาท

3.งบฯกลาง ได้เพิ่มจำนวน 1,000 ล้านบาท เพื่อใช้กรณีฉุกเฉิน หรือจำเป็น

4.กระทรวงแรงงาน ได้เพิ่ม 1,000 ล้านบาท เพื่ออุดหนุนกองทุนประกันสังคม ทั้งนี้ก่อนหน้านี้ กมธ.มีมติปรับลดลงจำนวน 34 ล้านบาท

5.กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ได้เพิ่มจำนวน 153 ล้านบาท เพื่อสนับสนุนการปรับสภาพแวดล้อมที่อยู่อาศัยสำหรับคนพิการ ทั้งนี้ก่อนหน้านี้ กมธ.ปรับลดลงจำนวน 17 ล้านบาท

6. หน่วยงานของศาล ได้เพิ่มจำนวน 83 ล้านบาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายดำเนินงานการพิจารณาพิพากษาคดีที่รวดเร็ว มีคุณภาพ ทั้งนี้ก่อนหน้านี้ กมธ.มีมติปรับลดลงจำนวน 2 ล้านบาท

7.กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้เพิ่มจำนวน 20 ล้านบาท เพื่อใช้ในปฏิบัติการดัดแปรสภาพอากาศแก้ปัญหาฝุ่นพีเอ็ม 2.5 ส่วนของวัสดุเชื้อเพลิง และหล่อลื่น ทั้งนี้ก่อนหน้านี้ กมธ.มีมติปรับลดงบลงจำนวน 280 ล้านบาท

‘งบฯ 69’ เขย่า 8,920 ล้าน อัป ‘กองทัพ’ คืน 7 หน่วยงาน 2แผนงาน

นอกจากนั้น ยังตั้งเพิ่มในส่วนของ 2 แผนงาน ได้แก่ แผนงานบูรณาการ ตั้งเพิ่มจำนวน 20 ล้านบาท เป็นค่าใช้จ่ายในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของผู้ติดสารเสพติดที่เข้าสู่กระบวนการบำบัดและพัฒนาพฤตินิสัย

แผนงานบุคลากรภาครัฐ จำนวน 160 ล้านบาท เพื่ออุดหนุนค่าใช้จ่ายบุคลากร 6 หน่วยงาน อาทิ สำนักงานอัยการสูงสุด 78 ล้านบาท สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) 32 ล้านบาท สำนักงานศาลปกครอง 27 ล้านบาท สำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) 13 ล้านบาท สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) 6.9ล้านบาท

และตามการพิจารณาของกมธ.เสียงข้างมาก ยังพบว่ามีการเปลี่ยนแปลงรายการใน 2 กระทรวง คือ กระทรวงมหาดไทย ที่ถูกลดงบ ของกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ลง 114 ล้านบาท และได้เติมให้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ได้แก่ เทศบาลเมืองโคกกลอย อ.ตะกั่วทุ่ง จ.พังงา 35 ล้านบาท เทศบาลเมืองประโคนชัย อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ 21 ล้านบาท เทศบาลเมืองลำปลายมาศ อ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ 23 ล้านบาท และ เทศบาลตำบลเขาหินซ้อน อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทา 33 ล้านบาท

และ กระทรวงสาธารณสุข ซึ่งหั่นงบฯจาก สำนักปลัดกระทรวงสาธารณสุข จำนวน 70 ล้านบาท และโยกไปให้ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 13 แห่ง อาทิ อบจ.ประจวบคีรีขันธ์ 8.6 ล้านบาท อบจ.ยะลา 5 ล้านบาท อบจ.ร้อยเอ็ด 6 ล้านบาท อบจ.พะเยา 9.7ล้านบาท อบจ.ตาก 7.8 ล้านบาท เป็นต้น

โดยการโยกงบประมาณส่วนนี้ ถูก “สว.” ตั้งข้อสังเกตว่า ทำไปเพื่อตอบแทนสายการเมือง ซึ่ง “อลงกต วรกี” สว.สีน้ำเงิน ฐานะรองประธานกมธ.วิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบฯ69 ของ วุฒิสภา ปฏิเสธให้ความเห็น เพราะมองว่า สว.ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง หรือได้ประโยชน์ ซึ่งไม่เหมือนกับฝ่าย สส. พร้อมให้ข้อสังเกตว่า “ใครจะมีใบสั่งอะไร ต้องคิดให้ละเอียด รอบคอบ เพราะมีกรณีการถูกตัดสิทธิทางการเมืองของ พิเชษฐ์เป็นตัวอย่าง”

‘งบฯ 69’ เขย่า 8,920 ล้าน อัป ‘กองทัพ’ คืน 7 หน่วยงาน 2แผนงาน สำหรับรายละเอียดของการพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบฯ69 นั้นจะเข้มข้นมากน้อยเพียงใด ต้องติดตามการแปรญัตติของ สส. และสงวนความเห็นของ กมธ. ในวันนี้ ต่อเนื่องไปจนถึงวันที่ 15 ส.ค.นี้

นอกจากการติดตามเนื้อหาสาระของร่างพ.ร.บ.งบฯ แล้ว ยังต้องโฟกัสถึงการ “เล่นเกมการเมือง” ในภาวะที่ รัฐบาลเสียงปริ่มน้ำ มีคะแนนข้างมากไม่ทิ้งขาดจากฝ่ายค้าน และในหลายสัปดาห์ที่ผ่านมาวิปรัฐบาลถูกลองของ ผ่าน “เกมนับองค์ประชุม” จากฝ่ายค้านอยู่หลายรอบ จนเสียอาการ

ซึ่ง “ศิริกัญญา” ปรามาสไว้ว่า “อย่าหวังน้ำบ่อหน้าจากเสียงฝ่ายค้าน เพราะฝ่ายค้านไม่สามารถโหวตรับได้ เพราะไม่มีการเปลี่ยนแปลงตามที่ต้องการ อีกทั้งเป็นกฎหมายของคณะรัฐมนตรี ดังนั้นรัฐบาลต้องเตรียมความพร้อมให้พร้อม อย่าหวังน้ำบ่อหน้า”

ขณะที่ “ประธานวิปรัฐบาล-วิสุทธิ์ ไชยณรุณ” รู้ดีถึงความสำคัญของกฎหมาย พร้อมการันตีว่า “ไม่มีล่มประชุม” พร้อมกำชับ สส.ให้เข้าร่วมประชุมทุกพรรค และมั่นใจว่า งบฯ69 ผ่านสภาฯ ตามปฏิทินงบประมาณที่กำหนดไว้ ว่าจะผ่านสภาฯ 15 ส.ค. นี้

‘งบฯ 69’ เขย่า 8,920 ล้าน อัป ‘กองทัพ’ คืน 7 หน่วยงาน 2แผนงาน หรือหากจะถูกเล่นงาน เรื่ององค์ประชุม จนทำให้สภาฯ ไม่ผ่านตามกรอบเวลาที่รัฐธรรมนูญ มาตรา 143 กำหนดให้ สภาฯ ต้องพิจารณาให้เสร็จภายใน 105 วัน เท่ากับว่า สภาฯ เห็นชอบกับ ร่างพ.ร.บ.งบฯ69 ที่ “ครม.” เสนอ และผ่านไป “วุฒิสภา” พิจารณาต่อทันที ซึ่งไม่มีผลกระทบใดในทางการเมือง ยกเว้นแต่ว่า การโหวตวาระสาม ว่าด้วยการเห็นชอบหรือไม่เห็นชอบทั้งฉบับ “ฝ่ายค้าน” เอาชนะ “เสียงข้างมาก” ไปได้

“รัฐบาล” ต้องแสดงความรับผิดชอบทางการเมือง แต่ในชั้นนี้ เชื่อว่ารัฐบาลคงไม่ยอมตกม้าตาย เพราะภาวะ “เสียงปริ่มน้ำ” แน่นอน