'โฆษก กห.' แจง 'พล.อ.ณัฐพล' ยึดมั่นแนวทางสากล คลี่ปมขัดแย้งชายแดน

"โฆษก กห." แจง ปมร้อน "พล.อ.ณัฐพล" ใช้เวทีจีบีซี ป้องผู้นำกัมพูชา จี้ "กัมพูชา" ปฏิบัติตามข้อตกลงวงประชุมเจบีซี พร้อมทวง 2ปมให้ดำเนินการ
พล.ร.ต.สุรสันต์ คงสิริ โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกรณีที่พบการบิดเบือนเนื้อหา ประเด็นที่ พล.อ. ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหมรักษาราชการแทน รมว.กลาโหม ฐานะผู้อำนวยการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ผอ.ศบ.ทก.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (General Border Committee : GBC) ไทย-กัมพูชา สมัยพิเศษ เมื่อวันที่ 7 ส.ค. 2568 ที่ กรุงกัวลาลัมเปอร์ มาเลเซีย ซึ่งพบว่ามีการบิดเบือนและใส่ความเห็นในลักษณะของการปกป้องผู้นำกัมพูชา ว่า พล.อ.ณัฐพลยึดมั่นในแนวทางการคลี่คลายปัญหาความตึงเครียดระหว่างไทย-กัมพูชา โดยสันติวิธี ด้วยกลไกทวิภาคี พร้อมทั้งยึดมั่นในหลักการสากลและกฎหมายระหว่างประเทศ ทั้งนี้พล.อ.ณัฐพล ยังได้เรียกร้องความจริงใจจากผู้นำระดับสูงของกัมพูชาให้ปฏิบัติตามที่ผู้นำทั้งสองฝ่ายเห็นชอบร่วมกัน เรื่องการหยุดยิงอย่างเคร่งครัด
"ยืนยันว่าฝ่ายไทยจะยึดมั่นในการให้ความร่วมมือและการพูดคุยอย่างสุจริตใจ จริงใจต่อไป บนพื้นฐานของการเป็นเพื่อนบ้านที่ดี และหวังว่าฝ่ายกัมพูชาจะปฏิบัติตามเช่นเดียวกัน" พล.ร.ต.สุรสันต์ กล่าว
พล.ร.ต.สุรสันต์ กล่าวต่อว่า ฝ่ายไทยขอความร่วมมือไปยังฝ่ายกัมพูชาใน 2 ประเด็นสำญ ที่ยังไม่ได้ตอบรับ คือ การเก็บกู้ทุ่นระเบิดในพื้นที่ที่มีการปะทะและพื้นที่อื่น ๆ ตลอดแนวชายแดน เพื่อความปลอดภัยของประชาชนทั้งสองฝ่าย และ ความร่วมมือในการปราบปรามอาชญกรรมข้ามชาติ โดยเฉพาะการหลอกลวงออนไลน์หรือออนไลน์สแกม ซึ่งส่งผลกระทบต่อพี่น้องประชาชนไทยและประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคอย่างกว้างขวาง
โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวต่อว่า ในกรณีที่กัมพูชาละเมิดอนุสัญญาออตตาวา เรื่องการใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล และอนุสัญญาเจนีวา เรื่องการกระทำต่อเป้าหมายพลเรือนและละเมิดหลักมนุษยธรรม ฝ่ายไทยก็ได้มีการเก็บรวบรวมหลักฐานในทุกกิจกรรม ที่เป็นการละเมิดหลักการสากลอย่างต่อเนื่อง และได้ดำเนินการประท้วง-ส่งคำร้อง-ชี้แจงข้อเท็จจริง ไปยังผู้ที่เกี่ยวข้องแล้ว ได้แก่ คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ประธานอนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิดสังหารบุคคล หรืออนุสัญญาออตตาวา
รวมทั้งประเทศผู้บริจาค เพื่อสนับสนุนกัมพูชาในการเก็บกู้ทุ่นระเบิด และ องค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ ตลอดจนการบรรยายสรุปต่อเอกอัครราชทูต หรือผู้แทนจาก 75 ประเทศ 1 องค์กร สหภาพยุโรป และผู้แทนองค์การระหว่างประเทศ จาก 16 องค์การ รวมจำนวน 122 คน เมื่อ 4 ส.ค. 2568 เป็นต้น







