นิติสงคราม รุมเร้า‘เพื่อไทย’ เดิมพันอำนาจ ชี้ชะตา‘ชินวัตร’

นิติสงคราม รุมเร้า‘เพื่อไทย’ เดิมพันอำนาจ ชี้ชะตา‘ชินวัตร’

ปัจจัยของ “2 พ่อลูกชินวัตร” จึงถูกโฟกัสอย่างมากว่าเดิมพันในอำนาจที่ได้มาในวันนั้น จนวันนี้เวลาที่ไม่อยากให้มาถึงใกล้เข้ามาแล้วใช่หรือไม่

ไทม์ไลน์สำคัญของรัฐบาลในการพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2569 ในวาระ 2-3 ระหว่างวันที่ 13-15 ส.ค.นี้

เป็นสิ่งที่พรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรค ตั้งตารอให้ผ่านไปด้วยความราบรื่น และงบประมาณที่เตรียมใช้จ่ายนั้น มีผลกับความพร้อมของนักเลือกตั้งทุกหัวระแหง

ท่ามกลางมรสุมที่ถาโถมเข้าใส่รัฐบาล เผชิญวิกฤติศรัทธา และความเชื่อมั่นอย่างหนักหน่วง นับตั้งแต่ความสัมพันธ์ไทย-กัมพูชา ตกต่ำขีดสุด จากคลิปเสียงคุยโทรศัพท์ ระหว่าง แพทองธาร ชินวัตร และ ฮุน เซน หลุด

สถานการณ์ชายแดนที่พัฒนามาจนถึงจุดพีค เปิดฉากยิงถล่มตอบโต้กัน5วัน สร้างความสูญเสียมากมาย สุดท้าย2ฝ่ายต้องขึ้นโต๊ะเจรจา ไม่รู้ว่าจะจบเมื่อไหร่

บรรยากาศหลังหยุดยิง ยังเต็มไปด้วยความไม่ไว้ใจ ตั้งแง่ เล่นสงครามประสาท ข่าวจริง ข่าวปลอม

2เงื่อนไขฝ่ายไทย คือ เก็บกู้ทุ่นระเบิด และปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ ไม่ได้รับการตอบสนองจากกัมพูชา

การที่ ทหารไทยเหยียบกับระเบิดระหว่างลาดตระเวนครั้งที่3 อีก3นายบาดเจ็บ หนึ่งในนั้นข้อเท้าซ้ายขาด จะยิ่งสร้างความตึงเครียดจนบางฝ่ายกังวล อาจลงเอยด้วยการใช้อาวุธตอบโต้กันอีกรอบ

ศึกชายแดนที่ไร้วี่แววสะเด็ดน้ำ ยิ่งเป็นแรงกดดันต่อรัฐบาลเป็นทวีคูณ ถึงแม้ผลงานเรื่องเจรจาภาษีสหรัฐฯ ของทีมเศรษฐกิจจาก36% เหลือ19% ถือว่าไม่ขี้เหล่เมื่อเทียบกับชาติในอาเซียน ก็ไม่เพียงพอฟื้นเรตติ้งรัฐบาล

วังวนนิติสงคราม กับเดิมพันของแพทองธาร ชินวัตร ในมือศาลรัฐธรรมนูญ กรณีจริยธรรมคลิปคุย ฮุน เซน จะเป็นเหตุให้หลุดเก้าอี้นายกฯ หรือไม่

เรื่องนี้เองที่ทำให้แกนนำเพื่อไทย หายใจไม่ทั่วท้อง แผนสำรองเพื่อเซฟลูกนายใหญ่ ไม่ให้มีอันเป็นไปทางการเมืองเร็วก่อนกำหนด

ถูกโยนออกมาถามทาง หวังชิงปิดเกมก่อนศาลฯ นัดวินิจฉัย ด้วยการให้แพทองธาร ลาออก เป้าหมายคือจำหน่ายคดี นับว่าต้องวัดใจ และต้องประเมินอารมณ์สังคมไม่น้อย จะยอมรับวิธีนี้หรือไม่

แรงกดดันให้ลาออกเพื่อรับผิดชอบทางการเมืองเกิดขึ้นตั้งแต่คลิปคุยฮุน เซน ว่อน ไม่ใช่ให้ลาออกตอนมีเรื่องถูกร้องต่อศาลฯ เลยจะแก้ปัญหาทางการเมืองให้ตัวเองได้ไปต่อด้วยวิธีนี้

อีกปัญหาที่อาจสั่นคลอนรัฐบาล คือบ่วงพันคอ ครม. กับคำร้องกรณีโยกงบไปแจกเงินหมื่น ตั้งแต่สมัยครม.ยุคเศรษฐา ทวีสิน ที่อยู่ในมือ ป.ป.ช. ส่อเข้าข่ายขัด ม.144 ของรัฐธรรมนูญ เพื่อหวังสร้างความนิยมทางการเมืองหรือไม่

เรื่องนี้ถูกจับตามากขึ้นทันทีหลังพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน ต้องสังเวยต่อศาลรัฐธรรมนูญ จากข้อกล่าวหาแปรญัตติงบประมาณลงพื้นที่ตัวเอง ผิด ม.144 นอกจากหลุด สส.เชียงราย และรองประธานสภาฯ คนที่1ทันที ยังถูกตัดสิทธิทางการเมืองอีก10ปี

นับตั้งแต่ดีลเปลี่ยนขั้วตั้งรัฐบาลเพื่อไทย และการกลับประเทศไทยของ ทักษิณ ชินวัตร เส้นทางสวยหรูหลอกตาเกิดขึ้นแค่ช่วงเวลาสั้นๆ

หลังจากนั้น วิบากกรรมทางการเมือง และนิติสงคราม ไล่ล่าบิ๊กรัฐบาลมาตั้งแต่เศรษฐา แพทองธาร ตัวทักษิณ เองก็ไม่เว้น

เพราะตามที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นัดอ่านคำพิพากษาทักษิณ คดีชั้น14 โรงพยาบาลตำรวจ กรณีที่อาจมีการบังคับโทษตามคำพิพากษาไม่เป็นไปตามหมายจำคุกเมื่อคดีถึงที่สุด 9ก.ย.นี้

ผลคำตัดสินคดีจะเป็นจุดชี้วัดทิศทางการเมืองครั้งสำคัญ และอาจมีผลต่อการตัดสินใจของแพทองธาร จะเลือกกำหนดอนาคตตัวเองอย่างไรก่อนหรือไม่

หรือมั่นใจในคำชี้แจงศาลฯ ว่าสิ่งที่ได้คุยกับฮุน เซน นั้นเจตนาบริสุทธิ์เพื่อแก้ปัญหาความขัดแย้งด้วยสันติวิธี ประเทศไม่เสียอะไรเหล่านั้นจะฟังขึ้นหรือไม่ ในเมื่อมีหัวโขนเป็นผู้นำ เรื่องเกียรติภูมิและศักดิ์ศรีของประเทศ คนเป็นนายกฯ ไม่ลืมต้องคำนึงตรงนี้ใช่หรือไม่

ปัจจัยของ “2 พ่อลูกชินวัตร” จึงถูกโฟกัสอย่างมากว่าเดิมพันในอำนาจที่ได้มาในวันนั้น จนวันนี้เวลาที่ไม่อยากให้มาถึงใกล้เข้ามาแล้วใช่หรือไม่