ชำแหละ 'ฮุนเซน' ฆาตรกรซ่อนศพ 'ทหารบ้าน'

หยุดยิงไม่หยุดเคลื่อนไหว “ฮุน เซน” เปิดศึกโต้ฝ่ายแค้น “สม รังสี” จี้ใจดำ กองทัพกัมพูชาอ่อนแอ เรียกร้องเปิดตัวเลขทหารเสียชีวิต
สถานการณ์ไทย-กัมพูชา กัมพูชาพลีชีพไม่ต่ำกว่า 3 พันนาย ละลายทั้งกองพัน อินฟลูฯเขมรรวมใจช่วยเหลือทหารรากหญ้า
อันสืบเนื่อง พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้เปิดเผยข้อมูลความสูญเสียของทหารฝ่ายกัมพูชาน่าจะประมาณ 3,000 คน เพราะใช้กำลังทหารในปฏิบัติการจำนวนมาก
ประเด็นนี้ สมเด็จฮุน เซน ประธารวุฒิสภา ไม่ได้ตอบโต้แม่ทัพภาคที่ 2 กลับเปิดศึกวิวาทะกับ สม รังสี อดีตผู้นำฝ่ายค้าน ที่มีกิจกรรมสังสรรค์กับชาวเขมรที่เมือง Chambéry ประเทศฝรั่งเศส เมื่อวันที่ 10 ส.ค.2568
โดยสม รังสี ได้วิจารณ์กองทัพกัมพูชาว่า ทหารยิงปืน (จรวด BM21) ไม่ถูกเป้าหมาย ใช้อาวุธจีนไร้ประสิทธิภาพ ยิงไปโดนที่อยู่อาศัยพลเรือนของไทย ขณะที่กองทัพไทยใช้เครื่องบิน F-16 ยิงถูกเป้าหมายอย่างแม่นยำ
ก่อนหน้านั้น สม รังสี ได้โพสต์เฟซบุ๊ค Sam Rainsy มีข้อความว่า
“รัฐบาลต้องเปิดเผยข้อมูลจริง เกี่ยวกับจำนวนทหารแนวหน้า และ ประชาชนกัมพูชาที่เสียชีวิตและบาดเจ็บ”
ด้วยเหตุนี้ สมเด็จฮุน เซน จึงโพสต์เฟซบุ๊คว่า
“เหตุใดจึงมีคนกัมพูชาคนหนึ่งออกมาพูดชมเชยกองทัพไทยที่รุกราน และเหยียดหยามกองทัพกัมพูชาแทน เขาเป็นมนุษย์หรือเป็นสัตว์กันแน่ เขารักชาติหรือทรยศต่อชาติ”
จำนวนตัวเลขทหารในแนวหน้าเสียชีวิตและบาดเจ็บ กำลังเป็นคำถามที่ถาโถมใส่รัฐบาลกัมพูชา
ก่อนอื่นต้องเข้าใจโครงสร้าง “กองทัพกัมพูชา” ที่แบ่งทหารออกเป็น 3 ส่วนคือ กองทัพส่วนกลาง ภายใต้การบัญชาการของกองทัพบก, หน่วยทหารโซนพิเศษ และ “ทหารบ้าน” ที่ขึ้นต่อกองพลทหารสนับสนุนในท้องถิ่น
ในการศึกชายแดนไทย-กัมพูชาครั้งนี้ สมเด็จฮุน เซน ใช้ทหารกองพลสนับสนุนที่ระดมมาจาก จ.กำปงชะนัม จ.กำปงธม จ.เปรยแวง และทหารท้องถิ่น-ทหารบ้าน จ.พระวิหาร และจ.อุดรมีชัย เป็นกำลังหลัก
ส่วนทหารกองพลน้อยที่ 70 ,รบพิเศษ 911 และหน่วยองครักษ์ BHQ เป็นกำลังสนับสนุน ที่เข้ารบในบางสมรภูมิเท่านั้น
ดังนั้น ศพทหารเขมรที่ตายเกลื่อนสมรภูมิภูมะเขือ ภูผี ตาเมือนธม และตาควาย ส่วนใหญ่เป็นทหารบ้าน และทหารท้องถิ่น
ชนชั้นในกองทัพเขมร
ย้อนหลังไปสมัยที่ “เขมร 4 ฝ่าย” ทำข้อตกลงสันติภาพปารีสในปี 2534 ประกอบด้วย
1.พรรคประชาชนปฏิวัติกัมพูชา โดยเฮง สำริน
2.เขมรแดง
3.พรรคฟุนซินเปก ของสมเด็จพระนโรดม สีหนุ
4.แนวร่วมปลดปล่อยแห่งชาติประชาชนเขมร (KPNLF) โดย ซอน ซาน
หลังการเลือกตั้งในปี 2536 ภายใต้การดูแลของ UNTAC จึงมีการจัดตั้งกองทัพแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา หรือกองยุทธพลเขมภูมินทร์ (Royal Cambodia Armed Forces) และรัฐธรรมนูญกัมพูชาฉบับปัจจุบัน (มาตรา 23) บัญญัติให้กษัตริย์เป็นจอมทัพ แต่ก็เป็นเพียงสัญลักษณ์เท่านั้น
กองทัพกัมพูชา มีรากเหง้ามาจากกองทัพปฏิวัติ ซึ่งเขมรแดงตั้งขึ้นเพื่อเป็นกองกำลังในการปฏิวัติปลดปล่อยให้กัมพูชา
สมัยที่แนวร่วมประชาชาติกัมพูชาโค่นระบอบเขมรแดงสำเร็จ กองทัพเวียดนามก็เป็นผู้วางรากฐานกองทัพกัมพูชา ภายใต้การนำของเฮง สำริน ,เจีย ซิม และฮุน เซน
แม้ ฮุน เซน จะเป็นนายกรัฐมนตรีในระยะแรกๆ แต่ก็ยังควบคุมกองทัพกัมพูชาได้แค่ 30% เนื่องจากทหารในส่วนภูมิภาค ยังขึ้นตรงต่อผู้บัญชาการคนเดิม
ดังนั้น ฮุน เซน จึงหาทางออกโดยการตั้ง “กองทัพส่วนตัว” คือ กองพลน้อยที่ 70 ,หน่วยรบพิเศษ 911 และหน่วยองครักษ์ BHQ
สองพ่อลูก “ฮุน เซน-ฮุน มาเนต” จึงดูแลเอาใจใส่เฉพาะกองกำลังส่วนตัวทั้ง 3 หน่วยนี้ ทั้งเรื่องกำลังคน การฝึกรบโดยผู้เชี่ยวชาญต่างประเทศ และติดอาวุธที่ทันสมัย
นี่คือความแตกต่างทางชนชั้นในกองทัพกัมพูชา ระหว่างทหารบ้านสวมรองเท้าแตะ สะพายอาร์ก้า กับทหารรบพิเศษ แต่งชุดฟูลออฟชั่น
45 วีรชนเขมรที่เปิดเผย
สมรภูมิชายแดนไทย-กัมพูชา ตลอดเวลา 5 วันที่มีการสู้รบดุเดือด ทำให้มีทหาร และพลเรือนเสียชีวิตจำนวนมาก
ทางการกัมพูชา ไม่มีการแถลงตัวเลขทหารเสียชีวิต และบาดเจ็บ ทำให้ สม รังสี อดีตผู้นำฝ่ายค้าน เรียกร้องให้สมเด็จฮุน เซนแถลงความจริง ไม่ใช่ปกปิดตัวเลขทหารที่เสียชีวิต
จากการติดตามเพจ Pu Dara ของอินฟลูเอนเซอร์ชาวเขมรคนหนึ่ง ที่เป็นสื่อกลางให้ครอบครัวทหารที่เสียชีวิตและบาดเจ็บพบว่า มีทหารเสียชีวิตมากกว่า 45 นาย ส่วนใหญ่เป็นทหารชั้นผู้น้อย มีฐานะยากจนพวกเขาต้องจัดงานศพกันเอง โดยไม่มีภาครัฐเข้ามาดูแล
ในโซเชียลชาวกัมพูชา จึงมีข่าวครอบครัวทหารที่ประกาศตามหาญาติที่ไปรบชายแดน ซึ่งไม่ทราบว่า เป็นตายร้ายดีอย่างไร
ชาวกัมพูชาอาศัยอยู่ในสหรัฐอเมริกา ได้จัดตั้ง “กองทุนกู้ชาติเขมรเพื่อประชาธิปไตย-KDRF” เพื่อเป็นสื่อกลางระหว่างครอบครัวในแนวหลัง และทหารในแนวหน้า
ทหารชนชั้นนำศพละ 20 ล้าน
สุดสัปดาห์ที่ผ่านมา มีการทำกิจกรรมรำลึกวีรชนผู้พลีชีพของชาวเขมรในสหรัฐฯ และญี่ปุ่น ได้มีการแห่รูปทหารเขมร ประมาณ 45 นาย จากทั้งหมดที่ยังไม่ได้เก็บร่างออกมาจากสมรภูมิอีกนับพันนาย
ส่วนภาพข่าวงานศพทหารกล้า ที่มีการเผยแพร่ผ่านสื่อหลักอย่าง BTV Cambodia และ TVK จะเป็นข่าวระดับนายทหาร ที่มีการจัดพิธีเคารพศพนักรบอย่างสมเกียรติ และมอบเงินช่วยให้ศพละ 20 ล้านเรียล
นัยว่า ทหารเหล่านี้ จะเป็นทหารสังกัดกองพลสนับสนุน และทหารหน่วยรบพิเศษ 911 ที่มีบ้านเกิดอยู่ใน จ.เปรยแวง จ.ตะโบงคะมุม จ.กันดาล จ.ตาแก้ว จ.กำปงชะนัม จ.กำปงธม จ.สวายเรียง และ จ.เสียมราฐ
ท่านผู้หญิง เพชร จันมุนี ภริยาฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรี ในฐานะรองประธานสภากาชาดกัมพูชา รองประธานสมาคมแพทย์อาสายุวชนสมเด็จเตโช (TYDA) และนายกสมาคมยุทธสตรีกัมพูชา พร้อมด้วยคณะทำงาน ได้เดินทางไปเคารพศพนายทหารเกือบทุกวัน
นอกจากนั้น ท่านผู้หญิงบุน รานี ฮุน มานี และรัฐมนตรีอีกหลายคน ก็เดินทางไปเคารพศพทหารเช่นกัน เหมือนศูนย์อำนาจกัมพูชา จะจับสัญญาณความไม่พอใจของผู้คนได้ จึงต้องเร่งไปดูแลครอบครัวทหารเหล่านั้น
ไม่แปลกที่ Phan Phana เอ็นจีโอเขมรในสหรัฐฯจะโพสต์เฟซบุ๊คว่า “ทหารเขมรที่เสียชีวิตในแนวหน้า ล้วนเป็นทหารจากครอบครัวคนยากจนตามชนบท”
สมเด็จฮุน เซน จึงปล่อยให้ ศพทหารบ้าน ทหารท้องถิ่น ตกเป็นเหยื่อแร้งกากลางป่าเขา เพราะการนำศพกลับมาบำเพ็ญกุศลก็เป็นภาระของรัฐบาล







