พปชร.ปั้นเด็กใหม่โค่น พท. ลุยเลือกตั้งซ่อม สส.เชียงราย

พปชร.ปั้นเด็กใหม่โค่น พท. ลุยเลือกตั้งซ่อม สส.เชียงราย

พลังประชารัฐ ยุคสู้ครั้งสุดท้าย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ได้เตรียมจัดทัพผู้สมัครรับเลือกตั้งไว้ทุกภาค โดยเฉพาะภาคเหนือ ที่มี สุรเดช ยะสวัสดิ์ อดีต สว.พะเยา เข้ามารับบทแม่ทัพใหญ่

สืบเนื่องจาก พิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน อดีตรองประธานสภาฯ และ สส.เชียงราย เขต 7 พรรคเพื่อไทย ถูกศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยพ้นการเป็น สส. จึงต้องมีการเลือกตั้งซ่อมแทนตำแหน่งที่ว่างลง

กกต.ประจำ จ.เชียงราย ได้กำหนดวันรับสมัครรับเลือกตั้งระหว่าง 13-17 ส.ค.2568 และกำหนดให้จัดการเลือกตั้ง สส.เชียงราย เขต 7 ในวันที่ 14 ก.ย.นี้

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ได้เปิดตัว “มิรันตี บุญแก้ว” ว่าที่ผู้สมัคร สส.เชียงราย เขต 7 หลังทราบข่าวพิเชษฐ์พ้นสภาพ สส.แค่วันเดียว

มิรันตี นักการเมืองหญิงจิตอาสาคนดังแห่ง อ.เชียงของ เพิ่งย้ายจากภูมิใจไทย มาอยู่พลังประชารัฐ โดยการดูแลของ สุรเดช ยะสวัสดิ์ แม่ทัพภาคเหนือ

ฝั่งเพื่อไทย ยงยุทธ ติยะไพรัช บ้านใหญ่แม่จัน เดินเกมรุกเจรจากับทักษิณ ชินวัตร “นายใหญ่”เพื่อไทย ขออาสาสู้ศึกอีกครั้ง หลังพ่ายเลือกตั้งนายก อบจ.เชียงราย เมื่อต้นปีที่ผ่านมา

ยงยุทธ ติยะไพรัช มอบให้ อิทธิพล ศรีสองสม เลขานุการส่วนตัวพา สง่า พรมเมือง ส.อบจ.เชียงราย เขต อ.เชียงแสน เข้าพบทักษิณ ชินวัตร ที่บ้านจันทร์ส่องหล้า เมื่อวันที่ 8 ส.ค.2568

วันถัดมา กรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย ได้มีมติส่ง สง่า พรมเมือง ลงสมัคร สส.เชียงราย เขต 7

สง่า พรมเมือง เป็นนักธุรกิจชื่อดังของ อ.เชียงแสน ก่อนจะผันตัวมาเล่นการเมืองท้องถิ่น โดยอยู่ภายใต้ร่มเงาบ้านใหญ่แม่จัน ตระกูลติยะไพรัช

เปิดหน้ามาแล้ว 2 พรรคคือ พลังประชารัฐและเพื่อไทย ก็ต้องจับตาดูว่า พรรคประชาชน จะส่งผู้สมัคร สส.หรือไม่

ที่มั่นบ้านใหญ่แม่จัน

สำหรับเขตเลือกตั้งที่ 7 จ.เชียงราย ประกอบด้วย อ.เชียงแสน อ.ดอยหลวง อ.เวียงแก่น อ.เชียงของ (ยกเว้น ต.บุญเรือง) และ อ.แม่จัน (เฉพาะ ต.จันจว้า และ ต.จันจว้าใต้)

ผลการเลือกตั้งปี 2566 อันดับ 1 พิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน เพื่อไทย ได้ 31,588 คะแนน อันดับ 2 ประหยัด เสียงดัง ก้าวไกล 25,889 คะแนน และอันดับ 3 มิรันตี บุญแก้ว ภูมิใจไทย 18,153 คะแนน

จะว่าไปแล้ว พื้นที่ อ.แม่จัน อ.เชียงแสน และ อ.เชียงของ เดิมทีเป็นเขตอิทธิพลของยงยุทธ ติยะไพรัช บ้านใหญ่แม่จัน แต่ตอนเลือกตั้งปี 2554 วิสาระดี เตชะธีราวัฒน์ จะลงสมัคร สส.เขต อ.พาน ซึ่งทับซ้อนกับพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน

ประมุขบ้านใหญ่แม่จัน จึงเปิดทางให้พิเชษฐ์ ย้ายจากเขต อ.พาน มาลง สส.ทางโซนชายแดนไทย-ลาว

หลังจาก พิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน ได้นั่งเก้าอี้รองประธานสภาฯ คนที่ 1 ก็มีระยะห่างกับบ้านใหญ่แม่จัน กระทั่งเลือกตั้งนายก อบจ.เชียงราย เพื่อไทยพ่ายพลิกล็อก ก็มีข่าวยงยุทธไม่พอใจพิเชษฐ์ กรณีผลคะแนนในโซนที่รับผิดชอบไม่เข้าเป้า

ดังนั้น ในการเลือกตั้งซ่อมเที่ยวนี้ ยงยุทธจึงคุยกับ “นายใหญ่” ขอส่งเด็กในสังกัดลงสนามแทน “สจ.ต้น เชียงของ” วราวุฒิ ไชยวงค์ ลูกหม้อเพื่อไทย ที่เสนอตัวสานต่องานของพิเชษฐ์

พลังลุงป้อมฝ่าด่านแดง-ส้ม

พรรคพลังประชารัฐ ยุคสู้ครั้งสุดท้าย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ได้เตรียมจัดทัพผู้สมัครรับเลือกตั้งไว้ทุกภาค โดยเฉพาะภาคเหนือ ที่มี สุรเดช ยะสวัสดิ์ อดีต สว.พะเยา เข้ามารับบทแม่ทัพใหญ่

สำหรับสนามเชียงราย สุรเดช ได้มาชวนให้ มิรันตี บุญแก้ว อดีตผู้สมัคร สส.เชียงราย เขต 7 พรรคภูมิใจไทย มาสวมเสื้อพรรคพลังประชารัฐ และเริ่มเปิดตัวทำกิจกรรมในพื้นที่มาหลายเดือนแล้ว

มิรันตี บุญแก้ว เป็นนักการเมืองท้องถิ่น และทำงานจิตอาสาในเขต อ.เชียงของ เมื่อ 2562 ลงสมัคร สส.ครั้งแรกในนามพรรค ปชป. ได้คะแนนหลักพัน

สมัยที่แล้ว มิรันตี สวมเสื้อสีน้ำเงินลงสนาม ได้เกือบ 2 หมื่นคะแนน แต่ช่วงเลือกตั้งนายก อบจ.เชียงราย เธอเลือกที่จะช่วยพรรคเพื่อไทย ไม่ช่วยบ้านใหญ่วันไชยธนวงศ์ สุดท้ายก็ย้ายมาสังกัดพรรคลุงป้อม

อีกพรรคการเมืองหนึ่งที่น่าจะส่งผู้สมัคร สส.เขตนี้คือ พรรคประชาชน เพราะเลือกตั้งปี 2566 ประหยัด เสียงดัง ในนามพรรคก้าวไกล ได้มา 2 หมื่นกว่าคะแนน

ล่าสุด แกนนำพรรคส้มเชียงราย อาจจะส่ง วสุพล จตุรคเชนทร์เดชา รองประธานสภา อบจ.เชียงราย ลงสมัคร สส.เชียงราย เขต 7 แทนประหยัด และคาดว่า ต้นสัปดาห์หน้า ทางพรรคคงมีความชัดเจน

อย่างไรก็ตาม สมรภูมิเลือกตั้งซ่อม สส.เชียงราย อาจได้เห็น “ทักษิณ” ไปขึ้นเวทีปราศรัยหาเสียงช่วย สง่า พรมเมือง เด็กปั้นของยงยุทธ เหมือนตอนเลือกตั้งนายก อบจ.ก็เป็นได้