โฆษก ทบ.ซัดกัมพูชาใช้อาวุธซ่อนรูป หลังทหารไทยเหยียบกับระเบิด

โฆษก ทบ.ซัดกัมพูชาใช้อาวุธซ่อนรูป หลังทหารไทยเหยียบกับระเบิด

โฆษก ทบ. ซัด กัมพูชาใช้อาวุธซ่อนรูป หลังทหารไทยเหยียบกับระเบิดเจ็บ3 นาย อุปสรรคสำคัญการหยุดยิง-แก้ปัญหาสันติ แฉ พบทุ่นระเบิดPMN-2 จำนวน18 ทุ่น ภูมะเขือ

KEY

POINTS

  • ทหารไทย 3 นายได้รับบาดเจ็บจากการเหยียบกับระเบิดขณะลาดตระเวนในพื้นที่ชายแดนจังหวัดศรีสะเกษ
  • โฆษกกองทัพบกกล่าวหากัมพูชาว่ายังคงใช้อาวุธในลักษณะซ่อนรูป ซึ่งเป็นอุปสรรคต่อมาตรการหยุดยิงและสันติวิธี
  • กองทัพบกเปิดเผยหลักฐานการตรวจพบทุ่นระเบิดสังหารบุคคลและเครื่องกระสุนจำนวนมากในพื้นที่ซึ่งเคยเป็นที่มั่นของทหารกัมพูชา
  • กองทัพบกระบุว่าการกระทำของกัมพูชาถือเป็นการฝ่าฝืนอนุสัญญาออตตาวาอย่างชัดเจน

เมื่อวันที่ 9 ส.ค. 2568 เวลา 10.00 น. พลตรีวินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี กองทัพภาคที่ 2 กรณีกำลังพลของหน่วยกองร้อยทหารราบที่ 111 ที่ เหยียบกับระเบิด ขณะทำการลาดตระเวนเส้นทาง เพื่อเสริมความมั่นคงในพื้นที่รอยต่อบ้านโดนเอาว์-บ้านกฤษณา จังหวัดศรีสะเกษ ส่งผลให้กำลังพลได้รับบาดเจ็บ 3 นาย ได้แก่

  1. จ่าสิบเอก ธานี พาหา ตำแหน่ง ผู้บังคับหมู่ป้องกัน บาดเจ็บรุนแรง ข้อเท้าซ้ายท่อนล่างขาด
  2. พลทหาร ภาคภูมิ ไชยสุระ ตำแหน่ง พลปืนเล็ก บาดเจ็บบริเวณแขนและด้านหลัง
  3. พลทหาร ธนันชัย ไกรวงค์ ตำแหน่ง พลปืนเล็ก ได้รับแรงอัดและบาดเจ็บบริเวณแก้วหู

ผู้บาดเจ็บทั้งหมดได้รับการปฐมพยาบาลในพื้นที่ และนำส่งโรงพยาบาลทหารภาคสนามทันที โดยได้ส่งต่อ จ่าสิบเอก ธานี พาหา ไปยังโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี เพื่อเข้ารับการรักษาอย่างเร่งด่วน

พลตรีวินธัย ระบุต่อว่า จากเหตุการณ์ดังกล่าวอาจ ทำให้สังคม ภายในประเทศและในสังคมโลก ทั่วไปเข้าใจได้ว่า การใช้อาวุธต่อกันยังคงมีอยู่  เป็นลักษณะของการพยายามที่จะใช้อาวุธต่อกันในแบบซ่อนรูป สิ่งนี้อาจนับเป็นอุปสรรคที่สำคัญ ต่อการดำเนินการใน มาตรการหยุดยิง และการแก้ไขปัญหาในแบบสันติวิธี รวมถึงแสดงถึงว่าที่ผ่านมา กัมพูชา เป็นฝ่ายริเริ่มในการใช้อาวุธก่อนมาตลอด ด้วยหลักฐานเชิงประจักษ์ 

โฆษก ทบ.ซัดกัมพูชาใช้อาวุธซ่อนรูป หลังทหารไทยเหยียบกับระเบิด

ด้านพ.อ.ริชฌา สุขสุวานนท์ รองโฆษก กองทัพบก กล่าวเพิ่มเติมว่า เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 2568 หน่วยทหารช่างได้เข้าดำเนินการทำพื้นที่ให้ปลอดภัยและเสริมความมั่นคงในบริเวณภูมะเขือ อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ ซึ่งเคยเป็นที่มั่นของฝ่ายทหารกัมพูชา จากการตรวจสอบพบ ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ชนิด PMN-2 จำนวน 18 ทุ่น แบ่งเป็น

  1. จำนวน 16 ทุ่น บรรจุอยู่ในกระสอบ ยังไม่อยู่ในสภาพพร้อมระเบิด
  2. จำนวน 2 ทุ่น วางแบบเร่งด่วนโดยไม่ฝังกลบ บริเวณรอบบ่อน้ำ อยู่ในสภาพพร้อมระเบิด

โดยหน่วยทหารช่างได้ดำเนินการเก็บกู้ทุ่นระเบิดทั้ง 18 ทุ่นเรียบร้อยแล้ว นอกจากนี้ ยังพบ ลูกกระสุนเครื่องยิงลูกระเบิด และ ลูกจรวด RPG จำนวนมาก ซึ่งจากหลักฐานดังกล่าวถือเป็นการกระทำที่ฝ่าฝืนอนุสัญญาออตตาวาของฝ่ายทหารกัมพูชาอย่างชัดเจน