'พล.อ.ณัฐพล' ย้ำ 8 เงื่อนไขฝ่ายไทย ถก GBC แปลกใจ กัมพูชา มีข้อเสนอไม่มาก

"พล.อ.ณัฐพล" ย้ำ 8 เงื่อนไขฝ่ายไทย ประชุม GBC พร้อมให้มั่นใจ ไม่ทำเสียประโยชน์ แปลกใจ กัมพูชา มีข้อเสนอไม่มาก รับเรื่องดีผู้แทนสหรัฐ-จีน เข้าร่วมสังเกตการณ์
KEY
POINTS
ส่วนที่มีการปล่อยข่าวยั่วยุต่างๆ จากทางฝั่งกัมพูชาในช่วงนี้พลเอกณัฐพล ระบุว่า ไทยก็ต้องหนักแน่น และตรวจสอบข่าวว่าเป็นข่าวจริงหรือข่าวปลอม ซึ่งไทยก็ต้องระมัดระวังอยู่แล้ว ไม่ว่าจะยั่วยุเพื่อต้องการให้เกิดการใช้อาวุธกันหรือไม่ เพราะไทยต้องเตรียมการไว้ ขณะเดียวกันการเจรจาก็ต้องนำไปสู่ข้อยุติให้ได้ด้วย
ซึ่งบทบาทแตกต่างกันระหว่างทีมเจรจาที่พยายามทำให้ได้ข้อยุติ ส่วนหน่วยที่อยู่ในพื้นที่ป้องกันชายแดนก็ต้องเตรียมให้พร้อมเพราะฉะนั้นประชาชนไม่ต้องเป็นห่วง
พลเอกณัฐพล ย้ำว่า ช่วงที่ผ่านมาถูกนักวิชาการ และนักวิจารณ์ บางคนมอง ในเรื่องความสามารถ ซึ่งโดยส่วนตัวมั่นใจตนเองเพราะราชการ และมีประสบการณ์หลายด้านรวมทั้งเป็นเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติด้วย แต่จะไม่พูดในลักษณะเป็นการยกตน จึงได้ย้ำว่ามั่นใจทีมงาน พร้อมทั้งตั้งใจจะทำให้ดีที่สุด
วันที่ 5 ก.ค.68 ที่โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า จังหวัดนครนายก พลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ รักษาราชการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ระบุถึงความคืบหน้าการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย-กัมพูชา หรือ GBC หลังจากฝ่ายเลขานุการ 2 ฝ่ายได้ประชุมเป็นวันที่สองว่า จากที่ได้ติดตามเป็นเรื่องน่าประหลาดใจที่ฝ่ายกัมพูชาไม่ค่อยมีเรื่องมาเสนอมากนัก แต่ฝ่ายไทยได้เตรียมการไว้ 8 ข้อ โดยฝ่ายเลขาฯ กัมพูชา ได้รับข้อเสนอไปพิจารณา และปรึกษา กับผู้บังคับบัญชา เนื่องจากทางฝ่ายกัมพูชาก็มาเฉพาะ ระดับเลขานุการเช่นกัน ซึ่งตามกรอบ GBC ช่วง 4-6 สิงหาคม 2568 นี้ เป็นการประชุมของกองเลขาฯ สองฝ่าย
ส่วนประเด็นข้อเสนอ 8 ข้อแตกต่างจากข้อตกลงในระดับพื้นที่ 7 ข้ออย่างไรนั้น พลเอกณัฐพล ย้ำว่า เป็นการลงในรายละเอียดจากข้อตกลงเดิม สำหรับกรณีที่ทางกัมพูชามีความเคลื่อนไหวในลักษณะการเคลื่อนกำลังเข้าประชิดชายแดนในระหว่างการประชุม GBC นั้น ก็จะนำเรื่องนี้เข้าหารือในที่ประชุมด้วย แต่ขอไม่พูดในรายละเอียด ซึ่งจะนำประเด็นที่เป็นข้อห่วงใยทั้งหมดเข้าไปหารือร่วมกัน
โดยเฉพาะข้อห่วงใยที่กองทัพ และรัฐบาลฝากให้ไปหารือกับทางกัมพูชา ซึ่งในกองเลขาฯ GBC มีผู้แทนของรัฐบาล เหล่าทัพ รวมทั้งกองทัพบกอยู่ด้วย เพื่อร่วมกันพิจารณาว่า หากกัมพูชาเสนอเรื่องใดมาทางฝ่ายไทยจะยอมรับได้หรือไม่
โดยหลักการประชุมของกองเลขาฯ หากกัมพูชาเห็นด้วยกับข้อเสนอ 8 ข้อของไทย ก็ถือว่าผ่าน และเข้าสู่ที่ประชุมหลักในวันที่ 7 สิงหาคม 2568 ได้ โดยก่อนการประชุมหลัก ทางกองเลขาฯ ก็จะกลับมาไทย เพื่อให้สภาความมั่นคงแห่งชาติเห็นชอบ ก่อนลงนามในวันประชุมหลักต่อไป
แต่หากข้อเสนอทั้ง 8 ข้อที่ฝ่ายไทยเสนอไปทางกัมพูชายอมรับได้ เพียงบางส่วน ก็จะบันทึกเฉพาะส่วนที่กัมพูชาเห็นด้วยตรงกัน และจะนำประเด็นที่ทางกัมพูชาไม่เห็นด้วยไปประชุมในครั้งต่อไป ทั้งนี้ก็ต้องดูด้วยว่าประเด็นที่กัมพูชาไม่เห็นด้วยขัดแย้งกับเจตนารมณ์โดยรวมหรือไม่
ขอยืนยันจะไม่ทำให้ไทยเสียประโยชน์อย่างแน่นอน เพราะคนที่ไปประชุมไม่ได้มีเฉพาะกระทรวงกลาโหมเท่านั้น แต่ยังมีผู้แทนของกระทรวงมหาดไทย กระทรวงการต่างประเทศ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปด้วยเพื่อร่วมกันพิจารณา โดยได้ประสานกับส่วนราชการต่างๆ ว่าให้พิจารณาคนที่มีความรู้ความสามารถไปช่วยกันเพราะถือเป็นวาระสำคัญของชาติ
ได้สอบถามจากฝ่ายเลขาฯ ถึงเหตุผลที่กัมพูชาไม่ได้เสนอประเด็นเข้าสู่การประชุมระดับเลขาฯ มากนัก และได้คำตอบว่า เป็นลักษณะของทางกัมพูชาที่จะไม่มีอะไรเสนอ แต่จะรอฟังข้อเสนอจากฝ่ายไทย ไม่ว่าใครจะเป็นเจ้าภาพก็ตาม ซึ่งทางกองเลขาฯ ไม่ได้แปลกใจ เพราะเป็นเรื่องปกติของทางกัมพูชา
ผมประหลาดใจเนื่องจากเห็นว่าทางกัมพูชาแสดงท่าทีต้องการจะประชุมแบบทวิภาคี จึงคาดว่าทางกัมพูชาจะเตรียมข้อเสนอมา แต่ก็ไม่เป็นอะไรถือว่าเป็นเรื่องปกติของกัมพูชา" พลเอกณัฐพล กล่าว
ส่วนข้อสังเกตว่าหากการประชุม GBC ไม่คืบหน้าอาจจะส่งผลให้เกิดการปะทะตามแนวชายแดนขึ้นอีกรอบ พลเอกณัฐพล ระบุว่า ขอยืนยันว่า ทางฝ่ายไทยไม่มี แต่ขึ้นอยู่กับทางฝั่งกัมพูชาว่าจะรักษาคำพูดหรือไม่
ทั้งนี้อีกประเด็นหนึ่งที่ทำให้ไม่กังวลมากนักเนื่องจากว่ามีประเทศผู้สังเกตการณ์ซึ่งเป็นประเทศมหาอำนาจ เข้ามาร่วมด้วย เพราะฉะนั้นการกระทำใดก็ตาม หากกัมพูชาฝ่าฝืนคำมั่นสัญญาที่ตกลงกันไว้ ในเรื่องของการหยุดยิง ก็จะถูกประณามในเวทีโลก และสังคมนานาชาติ แต่ไทยก็ไม่ได้ประมาทโดยหน่วยต่างๆในพื้นที่เฝ้าระวังอยู่ ทั้งนี้ไม่ได้มองในแง่ร้ายเพียงอย่างเดียว แต่มองไว้ 2 ทาง
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์






