‘มท.’เครื่องร้อน เดินแรง สางแค้น‘นายใหญ่น้ำเงิน’

เครือข่ายสีแดงที่ตัดวงจรส่งต่อมรดกของตระกูลนายใหญ่สีน้ำเงิน เท่ากับลบเหลี่ยม ลบศักดิ์ศรี อย่างไม่ต้องสงสัย และไม่แปลก ถ้าเรื่องนี้จะสร้างความเดือดดาลให้คนชื่อเนวิน ชิดชอบ
KEY
POINTS
- กระทรวงมหาดไทย (มท.) ดำเนินการอย่างรวดเร็วเพื่อเพิกถอนโฉนดที่ดินเขากระโดงใน จ.บุรีรัมย์ โดยชี้ขาดว่าที่ดินเป็นของการรถไฟแห่งประเทศไทย
- การกระทำดังกล่าวถูกมองว่าเป็นการเช็กบิลทางการเมืองเพื่อ "สางแค้น" นายใหญ่พรรคสีน้ำเงิน ซึ่งมีอิทธิพลและเป็นเจ้าของสิ่งปลูกสร้างขนาดใหญ่ในพื้นที่ดังกล่าว
- แม้สิ่งปลูกสร้าง เช่น บ้านพัก สนามฟุตบอล และสนามแข่งรถ จะไม่ถูกรื้อถอน แต่อาจต้องเปลี่ยนสถานะเป็นการเช่าที่ดินจากรัฐแทน
- การเคลื่อนไหวนี้เกิดขึ้นในช่วงที่พรรคภูมิใจไทยกำลังเผชิญความเสี่ยงทางกฎหมายในคดีฮั้ว สว. ซึ่งอาจนำไปสู่การยุบพรรคได้
มหาดไทย ยุคหลังจากยึดกุมอำนาจเบ็ดเสร็จจาก ภูมิใจไทย ก็ลุยสางปัญหาสำคัญที่เป็นทั้งโจทย์ใหญ่ในมิติการบ้าน และการเมือง
1 เดือนหลังภูมิธรรม เวชยชัย ผงาดควบ รมว.มหาดไทย ที่ได้คู่หูต่างพรรคอย่าง เดชอิศม์ ขาวทอง รมช.มหาดไทย ดูจะทำงานเข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ย
ภารกิจสำคัญตามที่แกนนำเพื่อไทย และผู้มีอำนาจตัวจริงมักอ้างเหตุผลในการยึดเก้าอี้ มท. เพราะต้องการลุยนโยบายปราบยาเสพติด และปลดล็อกนโยบายของเพื่อไทยเพื่อให้ถึงประชาชน
ทว่า ผ่านไปไม่เท่าไหร่ จังหวะที่สถานการณ์ชายแดนกัมพูชา ยังเขม็งเกลียว กลิ่นควันปืนยังไม่ทันจาง ผู้คนยังไม่หายหวาดผวา
รัฐบาลนำโดยเพื่อไทย กลับรุดหน้ารวดเร็วปานสายฟ้าฟาด ลุยปิดเกมเพิกถอนที่ดินเขากระโดง จ.บุรีรัมย์ เหมือนต้องการให้คู่กรณีไม่ทันตั้งตัว ในช่วงกำลังช่วยชาวบ้านอพยพ จัดการเสิร์ฟด่วน ไม่ปล่อยไว้ให้คาราคาซัง
หลังเดชอิศม์ เซ็นตั้งคณะกรรมการตรวจสอบคำสั่งอธิบดีกรมที่ดิน กรณีไม่เพิกถอนโฉนดที่ดินเขากระโดง เมื่อ 21 ก.ค.ที่ผ่านมา
จากนั้นไม่กี่วัน 1 ส.ค. อ้วน-ชาย ก็ตั้งโต๊ะแถลงมีมติชี้ขาดว่าที่ดินดังกล่าวเป็นของการรถไฟแห่งประเทศไทย พร้อมสั่งให้ดำเนินการยึดที่ดินคืนตั้งแต่ 2 ส.ค.เป็นต้นไป
ปฏิบัติการขั้นเฉียบขาดของรัฐบาลในเรื่อง ที่ดินเขากระโดง หากเอามาตรฐานเดียวกันมาใช้แก้ปัญหาชายแดนกับประเทศข้างบ้านจอมแสบ ก็น่าจะสยบห้าวได้มากกว่าที่เป็น
ปฏิเสธไม่ได้ว่าเผือกร้อนเรื่องเขากระโดง ที่รัฐบาลมุ่งหวังปิดฉากความยืดเยื้อ ที่มีเกมอำนาจเข้ามาเกี่ยวข้อง เพราะในช่วงหลายรัฐบาลที่ผ่านมา พรรคสีน้ำเงินมีพาวเวอร์ทางการเมือง ถือดุลต่อรอง จนไม่มีใครกล้าแตะ
มาวันนี้ ลมเปลี่ยนทิศ อำนาจเปลี่ยนทาง ในมุมการเมืองมองได้แน่นอนว่า แดง เช็กบิล สางแค้น น้ำเงิน เพราะใครก็รู้ว่าพื้นที่ไข่แดงของที่ดินเขากระโดง เป็นอาณาจักรขนาดใหญ่ของผู้มากบารมีแห่งเมืองบุรีรัมย์
ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ มท.ยุคนี้ เดินหน้าเด็ดปีกนายใหญ่สีน้ำเงิน แบบไม่สนหน้าอินทร์หน้าพรหม ก็มีข้อสังเกตไม่น้อยว่ามีใบสั่งนายใหญ่แดง ล็อกเป้าครูใหญ่ภูมิใจไทยโดยเฉพาะหรือไม่
โดยมีหลักฐานต่างๆ ของการรถไฟฯ หรือคำพากษาของศาลฎีกา ที่สร้างความชอบธรรมให้งานนี้เดินหน้าฝ่าข้อครหาอย่างรวดเร็ว
จริงอยู่ว่า หลังจากเพิกถอนโฉนดแล้ว สิ่งปลูกสร้างต่างๆ ทั้งบ้านใหญ่รังเหย้า สนามฟุตบอล สนามแข่งรถ และอื่นๆ คงไม่ต้องรื้อถอนแต่อย่างใด เพราะยังมีช่องให้ใช้ประโยชน์บนที่ดินของรัฐได้ต่อไป โดยผ่านการเช่า
ท่ามกลางข้อสังเกตว่า จะต้องคิดค่าเช่าย้อนหลัง บวกดอกเบี้ยด้วยหรือไม่อย่างไร เพราะหลายกิจกรรมสร้างรายได้มหาศาล
เครือข่ายสีแดงที่ตัดวงจรส่งต่อมรดกของตระกูลนายใหญ่สีน้ำเงิน เท่ากับลบเหลี่ยม ลบศักดิ์ศรี อย่างไม่ต้องสงสัย และไม่แปลก ถ้าเรื่องนี้จะสร้างความเดือดดาลให้คนชื่อเนวิน ชิดชอบ
ความน่าสนใจอยู่ที่ว่า จะหาทางเอาคืนเพื่อไทย และทักษิณ ชินวัตร อย่างไร ในจังหวะที่เครือข่ายสีน้ำเงิน ยังต้องเผชิญเกมเสี่ยงนิติสงคราม โดยเฉพาะกรณีฮั้ว สว.ที่เดินหน้าอยู่ทุกขณะ และตัวละครสำคัญล้วนเกี่ยวพันกับคนในค่าย ทั้งรุ่นเล็ก รุ่นใหม่ และรุ่นใหญ่
พฤติกรรมบางอย่างของคนที่ถูก กกต. กล่าวหา ไม่น่าเชื่อว่าจะชะล่าใจ กล้าถึงเพียงนี้ ว่ากันว่า ทิ้งหลักฐานเรี่ยราดเต็มไปหมด โดยเฉพาะนักการเมืองหน้าใหม่ หรือบรรดารุ่นใหญ่ ก็ประมาทอยู่ไม่น้อย
เกมนี้จึงสุ่มเสี่ยงกับการยุบพรรคได้เลยทีเดียว สถานการณ์ของค่ายน้ำเงิน อาจกำลังมองหาจุดเปลี่ยนบางอย่าง
เกมเลือกตั้งเร็ว หลังงบประมาณปี 69 ผ่านสภา อาจไม่ใช่ทางเลือกของเพื่อไทย ที่กระแสตกฮวบฮาบจากเหตุปะทะกัมพูชา เผลอๆ อาจต้องลากไปจวนครบเทอม แล้วค่อยว่ากันใหม่






