ปิดฉากมหากาพย์ ‘เขากระโดง’ ใครต้อง 'คืน-ชดใช้' สมบัติแผ่นดิน ?

ปิดฉากมหากาพย์ ‘เขากระโดง’  ใครต้อง 'คืน-ชดใช้' สมบัติแผ่นดิน ?

ย้อนมหากาพย์ “เขากระโดง” 102 ปี จากพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตสร้างทางรถไฟหลวง สู่ “กรมที่ดิน” มหาดไทย 2025 เดินหน้าเพิกถอนที่ดิน 5,083 ไร่

KEY

POINTS

  • ที่ดินเขากระโดง 5,083 ไร่ ในพื้นที่ อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ เป็นมหากาพย์ ที่ยืดเยื้อมานานกว่า 102 ปี ข้ามผ่านมาหลายสิบรัฐบาล แต่เรื่องกลับถูกซุกไว้ใต้พรมการเมือง
  • “ความไม่ปกติ” ในกระบวนการแก้ปัญหาของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ภายใต้กำกับดูแลของนักการเมือง นักธุรกิจการเมือง มีมาอย่างต่อเนื่อง กระทั่งอำนาจเปลี่ยนมือ สถานการณ์จึงเปลี่ยนไป 
  • หากไม่มีปมต้องสะดุดลงอีก อาจปิดฉากมหากาพย์ที่ดินเขากระโดงลงได้ไม่ยาก และใครที่ได้มาโดยมิชอบ ต้องคืนสมบัติแผ่นดิน พร้อมชดใช้การเสียประโยชน์ของรัฐย้อนหลัง ในที่สุด 

ที่ดินเขากระโดง 5,083 ไร่ ในพื้นที่ อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ เป็นมหากาพย์“ธุรกิจการเมือง” ที่ยืดเยื้อมานานกว่า 102 ปี ข้ามผ่านมาหลายสิบรัฐบาล แต่เรื่องกลับถูกซุกไว้ใต้พรมการเมือง

ปัญหาพื้นที่ทับซ้อนระหว่างที่ดินหลวงกับที่ดินเอกชน แม้จะเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ แต่เมื่อ “ผู้ถือครองที่ดิน” มีอำนาจทางการเมือง คำชี้ขาดของ “หน่วยงานกระบวนการยุติธรรม” กลับไม่นำไปสู่การปฏิบัติให้ถูกต้อง ขณะที่ “หน่วยงานรัฐ” ภายใต้สังกัด ได้ใช้ช่องว่างทางกฎหมาย หาทางออกให้ผู้มีอำนาจการเมือง

กรุงเทพธุรกิจ ได้ตีแผ่ให้สังคมเห็นถึง “ความไม่ปกติ” ในกระบวนการแก้ปัญหาของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ภายใต้กำกับดูแลของนักการเมือง นักธุรกิจการเมือง รวมถึงชี้ให้เห็น “ทางออก” ในการแก้ปัญหาที่ดินแห่งนี้ 

กระทั่งอำนาจเปลี่ยนมือ จากภูมิใจไทย มาสู่เพื่อไทย ที่เข้ามากำกับดูแลมหาดไทย และคมนาคม สถานการณ์จึงเปลี่ยนไป 

เมื่อกระทรวงมหาดไทย โดยภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย และเดชอิศม์ ขาวทอง รมช.มหาดไทย มีบทสรุป ถึงการดำเนินการกรณีที่ดินเขากระโดง โดยยืนยันว่าเป็นที่ดินของรัฐ และกรมที่ดินมีอำนาจเพิกถอนได้ทันที และจะดำเนินการตั้งแต่พรุ่งนี้ (2 ส.ค.2568) เป็นต้นไป

ปิดฉากมหากาพย์ ‘เขากระโดง’  ใครต้อง 'คืน-ชดใช้' สมบัติแผ่นดิน ?

ที่ดินแห่งนี้ มีการจำแนกลักษณะเอกสารการใช้ที่ดิน 995 ฉบับ แบ่งเป็น 6 กลุ่ม ประกอบด้วย

1. โฉนดที่ดิน 700 ราย

2. ที่ดินมีการครอบครอง 19 ราย

3. หนังสือรับรองการทำประโยชน์ในที่ดิน น.ส.3 ก. 7 ราย

4. หนังสือสำคัญสำหรับที่หลวง 1 ราย

5. ทางสาธารณประโยชน์ 53 แปลง

6. ไม่ปรากฏในระวางแผนที่ 129 แปลง

ในส่วนที่เป็นคดียืดเยื้อ เนื่องจากข้อเท็จจริงจากคำพิพากษาของศาล ระบุว่า ในพื้นที่ดังกล่าวมีการถือครองในชื่อบุคคล และนิติบุคคล รวมถึงปล่อยเช่าให้นิติบุคคลด้วยวิธีซับซ้อน โดยมีที่ดินอย่างน้อย 12 แปลง 288 ไร่ ที่อยู่ในชื่อคนในตระกูลการเมือง และนอมินี

โดยการรถไฟแห่งประเทศไทย หรือ รฟท.มีหลักฐานชัดเจนว่า เป็นหน่วยงานที่มีเอกสิทธิ์ในการถือครอง ตั้งแต่การเวนคืนที่ดินปี 2462 สมัยสมบูรณาญาสิทธิราชย์ กรมรถไฟหลวงเริ่มลงมือตรวจแนวทางรถไฟ เป็นไปตามพระราชโองการ เพื่อเชื่อมต่อกับทางรถไฟที่มีอยู่แล้วใน จ.นครราชสีมา

กระทั่งต่อมา ได้มีคำพิพากษา “ศาลฎีกา” และ “ศาลปกครอง” คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 842-876/2560 คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 8027/2561 และคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 3 คดีหมายเลขดำที่ 111/2563 คดีหมายเลขแดงที่ 1112/2563 วินิจฉัยไว้อย่างชัดแจ้งว่า

ที่ดินตามแผนที่แสดงเขตที่ดินของกรมรถไฟ ตอนแยกไปยังที่ย่อยศิลา ต.เขากระโดง จ.บุรีรัมย์ กิโลเมตร 375+650 เป็นส่วนหนึ่งของพระราชกฤษฎีกา กำหนดเขตสร้างทางรถไฟต่อจากนครราชสีมา ถึงอุบลราชธานี ลงวันที่ 8 พ.ย.2462

ปิดฉากมหากาพย์ ‘เขากระโดง’  ใครต้อง 'คืน-ชดใช้' สมบัติแผ่นดิน ?

ทว่า กรมที่ดิน กระทรวงมหาดไทย ยังคงออกเอกสารชี้แจงรวม 3 ฉบับ อ้างว่า คณะกรรมการสอบสวนตามมาตรา 61 แห่งประมวลกฎหมายที่ดินฯ มีมติเอกฉันท์ “ไม่เพิกถอน” หนังสือแสดงสิทธิที่ดินบริเวณเขากระโดง ทุกอย่างดำเนินการถูกต้องตามข้อกฎหมาย โดยให้ รฟท.ไปพิสูจน์สิทธิในกระบวนการยุติธรรมทางศาลอีกครั้ง

จะเห็นได้ว่า ต้องการให้กระบวนการเพิกถอนที่ดินเขากระโดง ย้อนกลับไป “นับหนึ่ง” ใหม่ ทั้งที่ผ่านคำพิพากษาศาลอันถึงที่สุดมาแล้วหลายครั้ง

ความพยายามของผู้มีอำนาจทางการเมือง ได้ทำทุกทาง ในการหักล้างหลักฐาน เพื่อยื้อให้ที่ดินเขากระโดงอยู่ในความครอบครองของกลุ่มตัวเอง 

กระทั่งเอกสารหลักฐาน พยานต่างๆ ที่ถูกเปิดเผย และติดตามตรวจสอบในหลายมิติ ในที่สุดหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ก็ต้องหาทางออกอย่างเลี่ยงไม่ได้ แม้ขณะนั้นจะถูกนักการเมืองใช้วิธียืดเยื้อ  

ปิดฉากมหากาพย์ ‘เขากระโดง’  ใครต้อง 'คืน-ชดใช้' สมบัติแผ่นดิน ?

โดยกระทรวงคมนาคม ซึ่งกำกับดูแล รฟท.ได้หาแนวทางดำเนินการที่เป็นธรรม ตามระเบียบปฏิบัติของราชการ และข้อกฎหมาย เพื่อหาข้อยุติเกี่ยวกับประเด็นการออกโฉนดทับซ้อนบริเวณเขากระโดง เตรียมฟ้องร้องดำเนินคดีตาม ม.157 กับอธิบดีกรมที่ดิน ฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ของพนักงานรัฐ กรณีไม่ยอมเพิกถอนโฉนดที่ดินที่ออกให้กับประชาชนในพื้นที่ทับซ้อน และเตรียมฟ้องศาลปกครอง กรณีที่กรมที่ดินไม่เพิกถอนโฉนดตามพิพากษาของศาล

อีกทั้งหาทางออก และแนวทางแก้ไข ด้วยการทำสัญญาเช่าที่ดิน หรือการครอบครองกรรมสิทธิ์ที่ดินในพื้นที่ทับซ้อนของผู้ครอบครองรายบุคคล เพื่อตรวจสอบสัญญาเช่าที่ดินทั้งหมด และวางแผนจัดสรรพื้นที่ โดยเฉพาะแนวทางการให้เช่าพื้นที่จาก รฟท.

เมื่ออำนาจการเมืองถูกเปลี่ยนมือ จากสีน้ำเงิน มาเป็นสีแดงอย่างเบ็ดเสร็จ คดีมหากาพย์ที่ดินเขากระโดง ที่ถูกเปิดโปงหลักฐานต่างๆ ทุกมิติ และถูกตั้งคำถามต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และฝ่ายการเมืองที่กำกับดูแล การแก้ปัญหาจึงเดินหน้าต่อ 

หากเรื่องนี้ ไม่มีปมต้องสะดุดลงอีก อาจปิดฉากมหากาพย์ที่ดินเขากระโดงลงได้ไม่ยาก และใครที่ได้มาโดยมิชอบ ต้องคืนสมบัติแผ่นดิน พร้อมชดใช้การเสียประโยชน์ของรัฐย้อนหลังในที่สุด 

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์