'สมศักดิ์' แจงปมหยุดรักษากัมพูชา ไม่ใช่ปฏิเสธคนไข้ ย้ำยึดหลักสิทธิมนุษชน

รมว.สาธารสุข แจงปมรพ.สรรพสิทธิฯ ออกประกาศ งดรักษากัมพูชา-สั่งล่ามหยุดปฏิบัติหน้าที่ มาตรการชั่วคราวป้องกันความปลอดภัย ไม่ใช่ปฏิเสธ-ไล่คนไข้ ย้ำยึดหลักสิทธิมนุษชน
ที่รัฐสภา นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณะสุข ให้สัมภาษณ์กรณีที่ รพ.สรรพสิทธิประสงค์ จ.อุบลราชธานี ออกประกาศ ไม่รับผู้ป่วยกัมพูชา เข้ารักษาตัวตั้งแต่วันที่ 31 ก.ค.นี้ ถึง 10 ส.ค. 68 รวมถึงสั่งให้ล่ามแปลภาษาหยุดปฏิบัติหน้าที่เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนว ชายแดนไทย-กัมพูชา
โดยรมว.สาธารณะสุข ยืนยันว่า การปฏิเสธการรักษาไม่มี ขณะนี้ที่รพ.สรรพสิทธิฯมีแต่คนไข้ในที่เป็นกัมพูชายังรักษาอยู่ ไม่ได้ให้ออกจากโรงพยายบาลหรือไล่ไป ยืนยันว่าไม่มี ขณะนี้ยังมีการดูแลตามหลักสิทธิมนุษชน
รมว.สาธารณสุข กล่าวว่า ส่วนที่มีการสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่คือในส่วนของกัมพูชาที่มาทำหน้าที่เป็นล่ามแปลภาษา โดยเป็นการหยุดปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราวเนื่องจากมีการตรวจพบอากาศยานไร้คนขับ(โดรน) ขึ้นบินบริเวณโรงพยาบาลเมื่อวันที่28ก.ค.ซึ่งตนได้รับรายงานจากผู้อำนวยการโรงพยาบาลในเรื่องดังกล่าว จึงจำเป็นต้องระมัดระวัง
นายสมศักดิ์ ยังกล่าวว่า เพื่อความปลอดภัยของทุกฝ่ายทั้งฝ่ายกัมพูชาที่มาทำงานและฝ่ายไทยจึงได้สั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราว ซึ่งมีเจ้าหน้าที่กัมพูชาอยู่ประมาณ 8-9 คน ในส่วนของผู้ป่วยใหม่ที่จะเข้ามารักษาขณะนี้ยังไม่มีผู้ป่วยเพิ่ม ยืนยันว่าคนที่ป่วยอยู่แล้วยังรักษาต่อไปทุกคน
ถามย้ำว่า หากมีผู้ป่วยฉุกเฉินที่เป็นชาวกัมพูชาจะขอรับการรักษาได้หรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ถ้ามีป่วยฉุกเฉินเข้ามาก็รับได้ เป็นไปตามหลักสิทธิมนุษยชน เราไม่สามารถไปทำอะไรพิเรนทร์เหมือนบางประเทศที่เขาทำได้
"อะไรที่เป็นไปตามกฎบัตรสหประชาชาติ ประเทศไทยอยู่ในระบบประชาธิปไตยที่ค่อนข้างมีจิตใจสูงส่งกว่าประเทศเพื่อบ้านบางประเทศที่เห็นๆอยู่ อะไรที่เป็นเรื่องที่ไม่อยู่ในหลักสิทธิมนุษยชนเราไม่ทำอยู่แล้ว"
เมื่อถามถึงกรณีที่ทางทหารกัมพูชาจะขอเข้ามารักษาตัวในประเทศไทย นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ถ้าเป็นเรื่องฉุกเฉินก็คงไม่เป็นไร เราอย่าไปคิดว่าเขาเป็นทหารหรือไม่เป็นทหาร หรือไปจำกัดสิทธิอะไร แต่เชื่อว่าเขาคงไม่มาหรอก ข้ามชายแดนเป็นทหารก็ถูกจับ
ถามย้ำว่า สาเหตุที่สั่งให้เจ้าหน้าที่ล่ามหยุดปฏิบัติหน้าที่เป็นเพราะกังวลในเรื่องสายลับใช่หรือไม่ รมว.สาธารณะสุข ยอมรับว่า ก็เป็นทางหนึ่ง ที่เห็นว่าควรให้การเจรจาได้ข้อยุติเสียก่อน โดยเฉพาะการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทยกัมพูชา(จีบีซี) วันที่4ส.ค.นี้ ที่ต้องดูว่าการเจรจาเป็นอย่างไร เมื่อบรรยากาศเรียบร้อยดีก็ค่อยมาว่ากันใหม่ วันนี้ต้องฟังกระทรวงกลาโหมเป็นหลัก ต้องให้กลาโหมนำแล้วปฏิบัติตาม







