โปรดเกล้า 'ฉลาด' เป็นรองปธ.สภาฯ คนที่สอง ตั้งเป้าทำสภาให้ปรองดอง

โปรดเกล้าฯ "ฉลาด ขามช่วงไ เป็นรองปธ.สภาฯ แล้ว เจ้าตัวบอกตั้งเป้าให้เป็น สภาฯ ปรองดอง ขอสส.ทุกคนร่วมมือทำงาน หลังมีเวลาเหลืออีกปีกว่า
ที่รัฐสภา ได้มีพิธีรับพระบรมราชโองการ โปรดเกล้าฯ แต่งตั้งนายฉลาด ขามช่วง สส.ร้อยเอ็ด พรรคเพื่อไทย เป็น รองประธานสภาฯคนที่ 2 โดยมี สส. และข้าราชการสำนักงานเลขาธิการสภาฯ เข้าร่วมพิธี
ภายหลังพิธีฯ นายฉลาด ให้สัมภาษณ์โดยยืนยันว่าจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด ระหว่างปฏิบัติหน้าที่ตนจะทำหน้าที่เป็นกลางทางการเมือง ทั้งนี้การทำหน้าที่อาจจะถูกใจบ้างแต่ถูกขอบังคับ ต้องขออภัย และขณะนี้มีการประชุมสภาฯ อยู่ หากสภาฯ ล่มก็เพราะตนคนเดียว เนื่องจากเรามีเสียงจำกัดคือมากกว่าเกินหนึ่งไม่เยอะ สมาชิกทุกคนต้องเป็นองค์ประชุม แต่ความจริงคือรัฐบาล และหากรัฐบาลเสียงไม่พอ ฝ่ายค้านไม่ต้องรับผิดชอบ แต่ความจริงคือทุกคนต้องรับผิดชอบร่วมกันเพื่อเป็นประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชน สิ่งไหนที่จะเป็นประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชน ก็ต้องขอความร่วมมือจากเพื่อนสมาชิก เพราะเป้าหมายของเราคือการแก้ปัญหาให้พี่น้องประชาชน ตนอยู่สภาฯ มา 30 ปีไม่มีใครพูดเรื่องส่วนตัว มีแต่พูดเรื่องผลประโยชน์ของประชาชน
นายฉลาด กล่าวต่อว่า ในความคิดอาจจะแตกต่างบ้าง แต่จุดยืนของพวกเราคือความผาสุกของประชาชนที่อยู่ภายใต้กรอบของกฎหมาย ไม่มีใครสามารถบิดเบือนข้อกฎหมายและข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นได้ เมื่อเกิดข้อสงสัยก็พร้อมที่จะพิสูจน์ ไม่ใช่คิดเอาเอง
"หากยืนบนหลักข้อเท็จจริง เชื่อว่าการทำหน้าที่ของสภาฯ ก็จะเป็นไปด้วยความราบรื่น ขอบคุณเพื่อนสมาชิกทุกคนที่จะให้ความร่วมมือ ในอนาคตที่สภาฯ เราเหลือเวลาอีกไม่เยอะ อีกประมาณ 2 ปีก็จะมีการเลือกตั้งใหม่ ผมจะสร้างความปรองดองให้เกิดขึ้น ดังนั้นความสัมพันธ์ส่วนตัว ความคุ้นเคยส่วนตัวขอให้นำมาใช้ประโยชน์ในการประชุมแม้จะอยู่คนละฝ่าย" นายฉลาด กล่าว
นายฉลาด กล่าวต่อว่าฝากถึงรัฐบาลว่าแม้เรามีเสียงข้างมาก ทุกคนเป็นหน้าที่โดยตรง ขอรัฐบาลอย่าไปตำหนิฝ่ายอื่น เป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่ต้องมาประชุม ผมและประธานจะทำหน้าที่รับฟังความคิดเห็นของทุกฝ่าย จะไม่วินิจฉัยโดยไม่มีการรับฟังจากทุกฝ่าย เพราะหากเป็นเช่นนั้นสภาฯ จะมีการขัดแย้งกันแน่นอน แม้เพื่อนสมาชิกจะต้องลงไปในพื้นที่ต่างๆ แต่ก็อยากให้เพื่อนสมาชิกทำหน้าที่ในสภาจนวันสุดท้ายของอายุสภาฯ อยากให้มีความมุ่งมั่นตั้งใจเหมือนที่เรามาวันแรก
เมื่อถามถึง กรณีที่วันที่ 1 ส.ค. ศาลรัฐธรรมนูญ จะนัดวินิจฉัยคดีของนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาฯ คนที่ 1 นั้น นายฉลาด กล่าวว่า ตนได้คุยกับนายพิเชษฐ์ เขาบอกว่าบริสุทธิ์ใจ แต่ในข้อกฎหมายไม่สามารถก้าวล่วงได้ ดังนั้นไม่สามารถคาดเอาผลได้ เป็นดุลพินิจของศาลรัฐธรรมนูญ
เมื่อถามถึง กรณีความไม่สงบบริเวณพื้นที่ ชายแดนไทย-กัมพูชา นายฉลาด กล่าวว่า ในฐานะ สส.อยากเห็นบ้านเมืองมีความสงบ มีเพื่อนบ้านที่ดี ทุกคนมีเป้าหมายเดียวกันคือรักษาดินแดนของตัวเอง ส่วนที่มีความขัดแย้งกันอยู่นั้น ก็เป็นเรื่องของกระบวนการเจรจา ทุกอย่างต้องมีการเจรจากัน เป็นเรื่องปกติที่มีการกระทบกระทั่งกันบริเวณพื้นที่ชายแดนเหมือนข้างบ้านเรา แต่ยืนยันว่ารัฐบาลทำงานด้วยความมุ่งมั่น แม้แต่สส.ก็ให้กำลังใจรัฐบาล ในฐานะ สส.พร้อมจะให้ความสนับสนุนและอำนวยความสะดวกเครื่องมือต่างๆ ที่รัฐบาลขอมา





