มท.2 หัวโต๊ะถกผู้ว่าฯ-นอภ. ตามสถานการณ์ 7 จว.ชายแดนไทย-กัมพูชา

มท.2 หัวโต๊ะถกผู้ว่าฯ-นอภ. ตามสถานการณ์ 7 จว.ชายแดนไทย-กัมพูชา

'ธีรรัตน์' นำประชุม ศบ.ทก.มท. ร่วมผู้ว่าฯ – นายอำเภอ ติดตามการบริหารจัดการศูนย์อพยพ ดูแลประชาชนในพื้นที่ 7 จังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา

KEY

POINTS

  • รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย (มท.2) เป็นประธานการประชุมติดตามสถานการณ์ในพื้นที่ 7 จังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา ร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัดและนายอำเภอ
  • วาระการประชุมมุ่งเน้นการบริหารจัดการศูนย์อพยพ การดูแลประชาชน และการเบิกจ่ายเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน
  • พิจารณาขยายวงเงินทดรองราชการในอำนาจผู้ว่าฯ จังหวัดละ 100 ล้านบาท เพื่อให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบเป็นไปอย่างรวดเร็วและทั่วถึง

เมื่อวันที่ 29 ก.ค. 2568 เวลา 17.00 น. นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการประชุมศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดน ไทย-กัมพูชา กระทรวงมหาดไทย (ศบ.ทก.มท.) เพื่อติดตามการบริหารจัดการศูนย์อพยพและการดูแลประชาชนใน พื้นที่ 7 จังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา โดยมี นายชำนาญวิทย์ เตรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านกิจการความมั่นคงภายใน (ผอ.ศบ.ทก.มท.) นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ผู้แทนกรมบัญชีกลาง ผู้แทนกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุม ณ ห้อง War Room กระทรวงมหาดไทย

การประชุมในวันนี้เป็นการประชุมร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัด รองผู้ว่าราชการจังหวัด ปลัดจังหวัด หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด ท้องถิ่นจังหวัด นายอำเภอ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ในพื้นที่ 7 จังหวัด ชายแดนไทย-กัมพูชา ได้แก่ จังหวัดบุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี จันทบุรี ตราด และจังหวัดสระแก้ว ผ่านระบบ Video Conference

สำหรับวาระการประชุมในวันนี้ ได้แก่

1.การชี้แจงเรื่องเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน ตามระเบียบกระทรวงการคลัง ว่าด้วยเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินฉบับต่าง ๆ

2. การสะท้อนปัญหาอุปสรรค ในการใช้เงินของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยและกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น

3. การบริหารจัดการศูนย์อพยพในพื้นที่

4. การยกเว้นการปฏิบัติตามระเบียบกระทรวงการคลัง ว่าด้วยเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ. 2562 กรณีได้รับการขยายวงเงินทดรองราชการในอำนาจผู้ว่าราชการจังหวัดซึ่งได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์บริเวณชายแดนไทย - กัมพูชา และมีแนวโน้มที่จะยกระดับความรุนแรงและขยายวงกว้างมากยิ่งขึ้นอีกจังหวัดละ 100 ล้านบาท พร้อมทั้งขยายวงเงินทดรองราชการในอำนาจอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเพิ่มเติมเป็น 100 ล้านบาท เพื่อให้สามารถช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบได้อย่างรวดเร็ว ทั่วถึง และทันต่อสถานการณ์

ทั้งนี้ ภายหลังจบการประชุม นางสาวธีรรัตน์ มีกำหนดแถลงผลการประชุมต่อสื่อมวลชนอีกด้วย