'กมธ.กิจการสภา' พบพิรุธ สภา ทุ่ม7ล้าน-ไร้สัญญา ทำสโมสรรัฐสภาใหม่

"กมธ.กิจการสภาฯ" ชี้ "สภาฯ" บอกเลิกสัญญา "ผู้ค้ารายเก่า" ไม่ยุติธรรม ขอให้ทบทวน พร้อมพบพิรุธ ทุ่ม7ล้าน ลงทุนให้ "ผู้รับเหมา" โดยไม่มีสัญญาจ้าง
ที่รัฐสภา นายศุภปกรณ์ กิตยาธิคุณ สส.พิษณุโลก พรรคประชาชน ฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) กิจการสภาผู้แทนราษฎร สภาผู้แทนราษฎร แถลงภายหลังการประชุมซึ่งพิจารณาเรื่องร้องเรียนกรณีผู้ประกอบการร้านอาหารสวัสดิการของสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรถูกเลิกสัญญาเช่าพื้นที่และการบริหารจัดการร้านอาหารสวัสดิการของสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ว่า กมธ.เชิญรองเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร และประธานกรรมการสวัสดิการสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร รวมถึงตัวแทนผู้ประกอบการร้านค้าและร้านอาหารสวัสดิการ ชั้น 1 อาคารรัฐสภา เข้าร่วมประชุม จากการพิจารณาพบว่าหนังสือแจ้งยกเลิกสัญญาเช่าพื้นที่และการบริหารจัดการร้านอาหารสวัสดิการของสำนักงานเลขาธิการสภาฯ ไม่เป็นธรรมกับผู้ประกอบการร้านค้าในสภาฯ ขณะเดียวกันกรณีการย้ายสโมสรรัฐสภา ไปยังชั้น บี2 นั้นยังไม่มีการลงนามสัญญา แต่พบการใช้งบตกแต่งกว่า 7 ล้านบาท ทั้งที่ผู้รับเหมารายใหม่เข้ามาตกแต่งใช้งบเเค่ 3-4 ล้านบาทเท่านั้น กลายเป็นว่าสภาฯและผู้รับเหมารายใหม่กึ่งลงทุนร่วมกัน
นายศุภปกรณ์ กล่าวต่อว่า แม้สัดส่วนลงทุนสภาฯจะมากกว่า แต่กลับไม่มีเงื่อนไขในการรักษากลุ่มผู้ค้ารายเดิม โดยกมธ.ฯ สอบถามสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ได้รับข้อมูลยืนยันว่า ยังไม่มีการเซ็นสัญญาจริง และยังไม่ได้ระบุเงื่อนไข เพียงแต่เป็นการตกลงปลงใจกันเท่านั้น กลายเป็นว่าสภาฯ ลงทุนให้ และให้ผู้รับเหมารายใหม่มาตกแต่งทั้งที่ไม่มีสัญญาจัดซื้อจัดจ้างต่างๆ ตนจึงกังวลว่าหากเกิดความเสียหายขึ้น ในขณะที่ผู้รับเหมารายใหม่ไม่มีสัญญาผูกพัน สภาฯ จะเอาผิดได้อย่างไร
นายศุภปกรณ์ กล่าวด้วยว่า ทั้งนี้ ข้อสรุปของกมธ.ฯ เห็นร่วมกันว่าต้องให้ผู้รับเหมารายใหม่ เปิดพื้นที่ให้ผู้ประกอบการร้านค้ารายเดิม มีเวทีในการตกลงเจรจากัน เพื่อให้โอกาสร้านค้ารายเดิมที่ขายอยู่ในสภาฯ ได้ลงไปชั้น บี2 ด้วย ส่วนสัญญาในการจัดซื้อจัดจ้างกับผู้รับเหมารายใหม่ ตนขอเอกสารจากสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรไปแล้วและจะดำเนินการติดตามเรื่องนี้ต่อไปอย่างใกล้ชิด







