'สมศักดิ์' เหน็บ ภท. ไม่รู้หน้าที่ หลังถูกฟ้อง ปมหาเสียง สส.ศรีสะเกษ

'สมศักดิ์' เหน็บ  ภท. ไม่รู้หน้าที่ หลังถูกฟ้อง ปมหาเสียง สส.ศรีสะเกษ

“สมศักดิ์” เหน็บ “ภูมิใจไทย” ไม่รู้อำนาจหน้าที่หลังจ่อฟ้อง ปมปราศรัยหาเสียง สส.ศรีสะเกษ ไม่แก้ไขปัญหายาเสพติด บอกเพราะไม่ทำอะไร จึงเป็นปัญหา ชี้ชาวบ้านชายแดนเข้าใจ คลิปเสียง “นายกฯ อิ๊งค์”

22 ก.ค.2568 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงกรณีพรรคภูมิใจไทย จ่อฟ้อง หลังได้ไปปราศรัยหาเสียงช่วยผู้สมัคร สส.พรรคเพื่อไทย ที่จังหวัดศรีสะเกษ แล้วมีการกล่าวพาดพิงพรรคภูมิใจไทยว่า เมื่อครั้งดูแลกระทรวงมหาดไทยไม่แก้ปัญหายาเสพติด และทํากัญชาเสรี เพราะมองว่า เป็นหน้าที่ของสํานักงานป้องกัน และปราบปรามยาเสพติด หรือ ป.ป.ส.ที่อยู่ในการกำกับดูแลของกระทรวงยุติธรรมนั้น 

นายสมศักดิ์ ระบุว่า การที่พรรคภูมิใจไทยจะฟ้องตน เรื่องอำนาจหน้าที่ของกระทรวงมหาดไทยนั้น แสดงว่า ยอมรับสารภาพว่า ไม่เคยดำเนินการเลย รวมถึงข้อสั่งการต่าง ๆ ที่ไม่เคยสั่งการอะไร เพราะในข้อเท็จจริงแล้ว ตามประมวลกฎหมายยาเสพติดมีทั้งกระทรวงยุติธรรม, กระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงมหาดไทย ถือเป็นอีกหนึ่งหน่วยงานที่มีอำนาจหน้าที่ ที่เป็นแนวร่วมในการดำเนินการปราบปราม และมีคณะกรรมการหลายชุดที่เกี่ยวข้องกัน โดยเฉพาะนโยบายของรัฐบาลที่ต้องดูแล และแก้ไขปัญหายาเสพติด ทั้งนี้ การที่มาฟ้องตนก็เท่ากับยอมรับสารภาพว่า ไม่ได้ทำ ซึ่งไม่เป็นไร ตนก็จะไปแก้ไขแนวทางว่า จำเป็นต้องทำ และร่วมมือกัน โดยที่ผ่านมาอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย จากพรรคภูมิใจไทย ไม่ได้สั่งการ จึงเป็นปัญหาในทุกวันนี้

ส่วนที่มีการอ้างว่า อำนาจหน้าที่หลักเป็นของตำรวจ  และ ป.ป.ส. นายสมศักดิ์ ระบุว่า กระทรวงมหาดไทยต้องมีความเชื่อมโยงกับจังหวัด เพราะจังหวัดมีอำนาจหน้าที่ที่จะบูรณาการกับตำรวจ, นายอำเภอ และผู้บริหารท้องถิ่น รวมไปถึงส่วนงานการปราบปรามต่าง ๆ ซึ่งหากไม่เข้าใจตรงนี้ ก็ไม่สามารถแก้ไขปัญหาของประเทศได้ และน่าเสียดายที่เราเสียเวลาไปเปล่า ๆ เพราะท่านไม่ได้เข้าใจในข้อสั่งการ และอำนาจหน้าที่ของตนเอง และขอยืนยันว่า กรณีนี้ไม่กระทบต่อการหาเสียง ซึ่งผลตอบรับจากพื้นที่ที่ได้ลงพื้นที่ไปจังหวัดศรีสะเกษ ไม่ใช่เรื่องที่ง่าย แต่ก็ไม่ยาก ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องทำความเข้าใจกับประชาชน และมองว่า การที่ อสม. ไปมีส่วนร่วมกับการหาเสียง เป็นสิ่งที่ไม่ควรอย่างยิ่ง ที่จะทำตัวเป็นหัวคะแนน โดยควรทำหน้าที่ให้เป็นกลาง ไม่เช่นนั้นจะผิดจริยธรรม

ขณะที่กรณีคลิปเสียงสนทนาของนายกรัฐมนตรี  กับสมเด็จฯ ฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา นายสมศักดิ์ ระบุว่า ในเรื่องนี้ชาวบ้านที่อยู่ในพื้นที่ชายแดนไม่มีปัญหา และมีความเข้าใจว่า เป็นแนวทางการอยู่ร่วมกันอย่างสันติ แต่ในเรื่องของความเข้าใจของคนทั้งประเทศจะให้เข้าใจเหมือนกันทุกคนคงเป็นไปไม่ได้ จึงต้องช่วยกันชี้แจงทำความเข้าใจว่า อะไรที่เป็นประโยชน์ หรือเสียประโยชน์

ส่วนการวางคิวให้นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และนางสาวแพทองธาร ชินวัตร ในฐานะหัวหน้าพรรค ลงพื้นที่ไปช่วยผู้สมัครหาเสียงนั้น เรื่องนี้ตนไม่ทราบ เป็นเรื่องของพรรค ตนเป็นเพียงหนึ่งในผู้ช่วยหาเสียงเท่านั้น