ไล่‘เน’ สกรัม‘หนู’ เซ่นไฟแค้น เด็ดปีก‘ยังบลัด’ ทลายฐานน้ำเงิน

สถานการณ์ของสีน้ำเงิน กับการฝ่าแรงแค้นนายใหญ่ ดูจะเอาจริง จับให้มั่น คั้นให้ตาย ไม่ปล่อยให้พล็อตเรื่องเก่าๆ ซ้ำรอย หลอกหลอน มันจบแล้วครับนาย ถึง 3 ครั้ง
KEY
POINTS
- พรรคสีน้ำเงินและแกนนำกำลังเผชิญการเช็กบิลทางการเมืองอย่างหนักจากขั้วอำนาจเก่า หลังขัดแย้งแตกหัก
- มีการใช้กระบวนการทางกฎหมาย (นิติสงคราม) โจมตีหลายด้าน เช่น การสอบสวนกรณีฮั้ว สว. ที่อาจกระทบถึง 138 สว. และกรณีที่ดินเขากระโดง สนามกอล์ฟเขาใหญ่ และสนามบิน
- เป้าหมายของการโจมตีมุ่งทำลายฐานอำนาจสีน้ำเงิน โดยพุ่งเป้าไปที่แกนนำคนสำคัญและกลุ่มนักการเมืองรุ่นใหม่ (Young Blood) ของพรรค
การเมืองมีขึ้นมีลง อำนาจเป็นของร้อน ไม่เข้าใครออกใคร ไม่ต่างจากความสัมพันธ์ระหว่างผู้นำตัวจริง เพื่อไทยและภูมิใจไทย ที่ก่อนหน้านี้ มีเหตุจำเป็นต้องร่วมรัฐบาล แต่พอถึงจุดหนึ่ง เคมีแดง-น้ำเงิน ก็เข้ากันไม่ได้จนต้องแตกหัก
การประกาศถอนตัวของภูมิใจไทย จากการร่วมรัฐบาล ในจังหวะคลิปเสียงคุยหลุดโทรศัพท์ ระหว่าง แพทองธาร ชินวัตร กับ ฮุน เซน กำลังร้อน สร้างความไม่พอใจให้กับประชาชนอย่างหนัก เป้าหมายคือหวังซ้ำให้รัฐบาลพังคาตา
การสละเรือในวันนั้น ถึงวันนี้ ก็อาจยังไม่แน่ว่า ค่ายน้ำเงินตัดสินใจถูกหรือไม่ จากที่คิดว่าเมื่อถอนตัวในจังหวะที่รัฐบาลระส่ำ จะเกิดปรากฎการณ์โดมิโนจากพรรคร่วมฯ ที่เหลือแห่ถอนตัวตาม แต่กลับไม่เป็นเช่นนั้น
ค่ายน้ำเงินจึงมีราคาที่ต้องจ่ายแพงอยู่พอสมควรกับการตัดสินใจครั้งนี้
จุดตัดสำคัญของการแตกหักที่เห็นชัด คือการกำเนิดของ สว.สีน้ำเงิน ที่ครองเสียงข้างมากในสภาสูง
จนมีข้อสังเกตจากคนนอกและคนในค่ายสีน้ำเงิน ว่า บิ๊ก น. แทบจะเปลี่ยนเป็นคนละคน หลังมี สว.ในเครือข่ายเป็นร้อย ยิ่งมั่นใจอำนาจในมือว่าสามารถต่อรอง และกำหนดทิศทางทางการเมืองได้
บทบาทต่างๆ ระหว่างพรรคร่วมฯ โดยเฉพาะน้ำเงินกับแดง ก็แปรเปลี่ยน แข็งข้อกันมากขึ้น
จากเคยหักทักษิณ ชินวัตร แยกตัวไปจับมือประชาธิปัตย์ ดันอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกฯ สำเร็จ แต่วันนี้ ภูมิใจไทย ที่แตกหักอย่างหนักกับทักษิณ รอบ 2 กลับไม่สามารถพลิกขั้วขึ้นมามีอำนาจแทนได้
มิหนำซ้ำ พอสีน้ำเงินไร้อำนาจในมือ กลับโดนรุกไล่เอาคืนหนักอย่าง ทั้งเนวิน ชิดชอบ ครูใหญ่ภูมิใจไทย อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย และบรรดายังบลัดทั้งหลาย
เกมเช็กบิลฮั้ว สว. ตามที่คณะกรรมการสืบสวนและไต่สวนกลาง คณะที่ 26 ส่งสำนวนการสอบให้ กกต. โดยมี229 คนในข่าย ประกอบด้วย 138 สว. และบิ๊กสีน้ำเงิน รวมถึงกรรมการบริหารพรรค คนรุ่นใหม่ ก๊วนลูกเทพ ก็อยู่ในโผอีกเพียบ
หนทางต่อจากนี้ 138 สว. ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ หรือหลุดจากตำแหน่ง หรือลามไปถึงภูมิใจไทยจะถูกยุบพรรคหรือไม่ และตัดสิทธิทางการเมืองอะไรกับใครหรือไม่ คงต้องรอให้กระบวนการยุติธรรม เดินหน้าพิสูจน์ข้อเท็จจริงกันต่อไป
นิติสงคราม ที่รุมเร้า เน-หนู และผองเพื่อน น่าจะเป็นเรื่องหนักที่สุดที่ต้องรับมือ แถมยังมีเรื่องที่ดินเขากระโดง ร้อนขึ้นมาอีกรอบ
หลังอำนาจในมหาดไทยเปลี่ยนมือ ข้าราชการสีน้ำเงิน กระอักเลือดกันเป็นแถว โดยเฉพาะ พรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน
ที่โดนขู่เด้งเช้า เด้งเย็น หากชี้แจงไม่เคลียร์ กรณีไม่ดำเนินการตามคำพิพากษาศาล เรื่องเพิกถอนเอกสารสิทธิ์
เกมเช็กบิล ที่ดินสนามกอล์ฟ เขาใหญ่ ของครอบครัวอนุทิน ซึ่งเคยถูกธนดล สุวัณณะฤทธิ์ มือทำงานของธรรมนัส พรหมเผ่า ตรวจสอบที่มาที่ไปและความถูกต้องหรือไม่อย่างไร เนื่องจากตั้งอยู่บนพื้นที่คาบเกี่ยวระหว่าง นิคมสร้างตนเองลำตะคอง และ ส.ป.ก. จนเป็นประเด็นก่อนหน้านี้
ล่าสุด ดีเอสไอ ลุยตรวจสอบรันเวย์ หรือสนามบินขนงพระ ดำเนินการอย่างถูกต้อง หรือทับทางสาธารณะและรุกล้ำที่ดินนิคมสร้างตนเองลำตะคองหรือไม่
ท่ามกลางข้อสังเกตว่า ทั้งสนามกอล์ฟ และรันเวย์เครื่องบิน อาจมีจุดเชื่อมโยงถึงคนการเมืองคนเดียวกัน
เครือข่ายสีน้ำเงินชั่วโมงนี้ เลยต้องรับศึกหลายด้าน ยังไม่นับกรณีฟ้องร้องระหว่างบุคคลต่างๆ
แถมศึกเลือกตั้งซ่อม ศรีสะเกษ เขต 5 ภูมิใจไทย ในวันไร้กลไกอำนาจรัฐในมือ ต้องสู้กับเพื่อไทย ที่ระดมสรรพกำลังลงพื้นที่เต็มสูบ ก็ไม่ใช่งานง่าย
เพราะอย่างที่รู้ ศึกเลือกซ่อม ชี้ขาดที่กระสุนเป็นหลัก แล้วถ้าโดนฝ่ายผู้มีอำนาจบล็อก ออกของไม่ได้ ก็ยิ่งลำบาก
สถานการณ์ของสีน้ำเงิน กับการฝ่าแรงแค้นนายใหญ่ ดูจะเอาจริง จับให้มั่น คั้นให้ตาย ไม่ปล่อยให้พล็อตเรื่องเก่าๆ ซ้ำรอย หลอกหลอน มันจบแล้วครับนาย ถึง 3 ครั้ง







