ปชน.ตรวจเข้มงบกระตุ้น ศก. 1.57 แสนล. หวั่นถูกใช้ 'กระสุนการเมือง'

ปชน.ตรวจเข้มงบกระตุ้น ศก. 1.57 แสนล. หวั่นถูกใช้ 'กระสุนการเมือง'

'พริษฐ์' ลั่น ปชน.ลุยตรวจเข้ม 'งบกระตุ้นเศรษฐกิจ' 1.57 แสนล้านบาท จี้รัฐเปิดข้อมูลให้โปร่งใส หวั่นถูกใช้เป็น 'กระสุนการเมือง' กระจุกงบ สะสมแต้มเตรียมเลือกตั้ง

KEY

POINTS

  • พรรคประชาชน (ปชน.) ประกาศตรวจสอบงบกระตุ้นเศรษฐกิจ 1.57 แสนล้านบาทอย่างใกล้ชิด โดยแสดงความกังวลว่าอาจถูกใช้เป็น "กระสุนการเมือง" และเสี่ยงต่อการทุจริต
  • เรียกร้องให้ทุกหน่วยงานเปิดเผยข้อมูลโครงการอย่างโปร่งใสในรูปแบบที่ประชาชนสามารถตรวจสอบได้ เพื่อป้องกันการใช้งบประมาณในทางที่ผิด
  • ตั้งข้อสังเกตว่าการเร่งรัดเบิกจ่ายและการเปิดทางให้มีผู้รับจ้างรายเดียว อาจเอื้อประโยชน์ต่อการฮั้วประมูล แม้จะเข้าใจเจตนาของรัฐบาลที่ต้องการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างรวดเร็ว
  • จะใช้กลไกสภาฯ ในการติดตามการกระจายงบประมาณว่าตอบสนองต่อความเดือดร้อนของประชาชนจริง หรือเน้นเฉพาะพื้นที่ที่มีนัยทางการเมือง

เมื่อวันที่ 21ก.ค. 2568 ที่รัฐสภา นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน (ปชน.) ในฐานะโฆษกพรรค และกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีกรมบัญชีกลาง มีหนังสือถึงปลัดกระทรวง อธิบดี ผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้บริหารท้องถิ่น และรัฐวิสาหกิจทั่วประเทศ ให้เร่งจัดทำโครงการและดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างตามงบประมาณกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 157,000 ล้านบาท โดยสามารถเปิดให้มีผู้รับจ้างรายเดียวประมูลงานได้

นายพริษฐ์ กล่าวว่า แม้งบประมาณดังกล่าวจะอยู่ในปีงบประมาณ 2568 แต่การเร่งรัดเบิกจ่ายจำนวนมากในเวลาอันสั้น ทำให้ฝ่ายค้านจำเป็นต้องเร่งตรวจสอบควบคู่ไปด้วย โดยเฉพาะในเรื่องของความโปร่งใสในการดำเนินโครงการ ความเหมาะสมของประเภทโครงการ และความเป็นธรรมในการกระจายงบประมาณลงสู่พื้นที่ต่าง ๆ

“เราขอเรียกร้องให้ทุกหน่วยงานเปิดเผยข้อมูลอย่างโปร่งใส ไม่ใช่เพียงแค่การเขียนชื่อโครงการสั้น ๆ แล้วแปะเป็นแผ่นกระดาษ แต่ต้องเปิดเผยในลักษณะที่สามารถตรวจสอบได้ เช่น รูปแบบตารางข้อมูลที่สามารถวิเคราะห์ต่อได้ เพราะระหว่างที่โครงการดำเนินอยู่ต้องตรวจสอบได้ และเมื่อเสร็จสิ้นแล้วก็ต้องตรวจสอบย้อนหลังได้เช่นกัน” นายพริษฐ กล่าว

นายพริษฐ์ กล่าวอีกว่า ขณะนี้พรรคจะใช้กลไกคณะกรรมาธิการสามัญเพื่อติดตามการใช้งบประมาณในภาพรวม แต่หากพบประเด็นที่ต้องตรวจสอบอย่างเฉพาะเจาะจง ก็สามารถผลักดันให้มีการตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญขึ้นเพื่อตรวจสอบโดยตรง โดยในส่วนของการออกระเบียบที่เปิดทางให้จัดซื้อจัดจ้างแบบมีผู้รับจ้างรายเดียว นายพริษฐ์ยอมรับว่า เข้าใจในเจตนารมณ์ของรัฐบาลที่ต้องการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างเร่งด่วน แต่ย้ำว่าต้องมีมาตรการป้องกันความเสี่ยงจากการทุจริต หรือการฮั้วประมูล เพราะท้ายที่สุดงบประมาณจำนวนนี้คือเงินภาษีของประชาชน และต้องใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด

“เราจะตรวจสอบว่าโครงการที่เสนอเข้ามาแต่ละประเภทมีความเหมาะสมกับปัญหาในพื้นที่หรือไม่ ไม่ใช่เสนอแค่ตู้น้ำดื่มหรือโครงการที่ไม่มีความจำเป็นในพื้นที่นั้น ๆ ต้องดูทั้งบริบท ความเดือดร้อน และความสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของงบกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างแท้จริง” นายพริษฐ์ กล่าว

เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงกระแสวิพากษ์ว่า การเร่งใช้งบกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งนี้ อาจเป็นการสะสมฐานเสียงและเตรียมตัวสำหรับการเลือกตั้งครั้งหน้า นายพริษฐ์ระบุว่า เป็นสิ่งที่สามารถสังเกตได้จากรูปแบบการใช้จ่ายและการกระจายงบประมาณ

“ถ้างบถูกใช้เพื่อประโยชน์ทางการเมือง ก็จะเห็นการกระจายงบไปในพื้นที่ที่มีนัยทางการเมืองชัดเจน แต่ถ้าใช้เพื่อแก้ปัญหาของประชาชนจริง การกระจายจะเป็นไปตามลำดับความเดือดร้อนอย่างแท้จริง ซึ่งข้อมูลทั้งหมดนี้คือทรัพย์สำคัญในการตรวจสอบ รัฐบาลต้องแสดงความจริงใจด้วยการเปิดเผยข้อมูลอย่างครบถ้วน” นายพริษฐ์ กล่าว

นายพริษฐ์ กล่าวด้วยว่า พรรคประชาชนเตรียมเสนอให้รัฐเปิดช่องทางสาธารณะให้ประชาชนเข้าถึงข้อมูลโครงการและงบประมาณได้ด้วยตนเอง พร้อมทั้งเรียกร้องให้ทุกฝ่ายร่วมกันเฝ้าระวัง และตรวจสอบเพื่อไม่ให้งบประมาณจำนวนมหาศาลนี้ถูกนำไปใช้ในทางที่ผิด หรือถูกแปรเปลี่ยนเป็นเครื่องมือทางการเมือง