'กมธ.งบฯ69' มติเอกฉันท์ หั่นงบสภาฯ 178ล้าน หวั่นถูกร้องผิดม.144

กมธ.ฯงบ69 หวั่นซ้ำรอย "พิเชษฐ์" ถูกร้อง ผิดมาตรา144 โยกงบประมาณพัฒนาเยาวชนลงพื้นที่ โหวตเอกฉันท์ หั่นงบ3โครงการ วงเงิน178 ล้านบาท
ที่รัฐสภา ผู้สื่อข่าวรายงานถึงการประชุมคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2569 สภาฯ ที่มีนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง ฐานะรองประธานกมธ.ฯ เป็นประธานการประชุม ซึ่งมีวาระพิจารณางบประมาณของหน่วยงานของสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร
ทั้งนี้ก่อนการพิจารณา นายจุลพันธ์ แจ้งต่อที่ประชุม และขอปรึกษาหารือว่า สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร มี สส.ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ กรณีสส. มีส่วนในการเสนอแปรญัตติหรือการกระทำการใดๆ ที่มีส่วนในทางตรงหรือทางอ้อมในการใช้งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 และศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งรับคำร้องไว้พิจารณา เมื่อวันที่ 17 ก.ค. ที่ผ่านมา เพื่อให้เกิดความโปร่งใสในการพิจารณางบประมาณปี 2569 ของสภาฯ ระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญยังไม่มีคำวินิจฉัยดังกล่าวและเพื่อไม่ให้เป็นการสุ่มเสี่ยงต่อการกระทำที่อาจจะฝ่าฝืนต่อบทบัญญัติตามรัฐธรรมนูญมาตรา 144 จึงขอให้ที่ประชุมพิจารณาปรับลดงบประมาณในส่วนของสำนักงานเลขาธิการสภาฯ ซึ่งเป็นรายการภายใต้แผนงานยุทธศาสตร์และเสริมสร้างการเมืองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข วงเงิน178 ล้านบาท ประกอบด้วย 3 รายการ ได้แก่
1.โครงการพัฒนาศักยภาพเยาวชนและประชาชนในการปกครองระบอบประชาธิปไตย
2.โครงการส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชนในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
และ 3.โครงการส่งเสริมบทบาทของเสรีทางการเมืองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
ทั้งนี้ในส่วนของ กมธ.พรรคประชาชน ได้ร้องขอให้ฝ่ายกฎหมายของสภาฯ ชี้แจงรายละเอียด เพราะกังวลว่าหาก กมธ.งบฯ69 มีมติปรับลดงบประมาณอาจกระทบต่อการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญในวันที่ 1 ส.ค.นี้
ทำให้ ว่าที่ร.ต.ต.อาพัทธ์ สุขะนันท์ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ชี้แจงว่า มีคำร้องที่เกิดขึ้นใน 2 ช่วงของกมธ.งบประมาณ ปี 68 โดยทั้ง 3 โครงการนั้นเกิดจากการแปรญัตติเพิ่มเติมของสำนักงานเลขาธิการสภาฯ ซึ่งได้มีการดำเนินการในงบประมาณปี 68 สำหรับคำร้องในปี 68 นั้นศาลรัฐธรรมนูญไม่ได้รับคำร้อง ส่วนกรณีของปี 69 นั้น สำนักงานเลขาธิการสภาฯ เสนอไปตามกระบวนการตามปกติคือต่อเนื่องจากโครงการที่เคยได้รับ ขอเรียนว่ากระบวนการปี 69 ไม่ได้เกิดในชั้นกมธ.ฯ วิสามัญ แต่เป็นกระบวนการที่ร้องว่าสำนักงานฯ เสนองบประมาณทั้ง 3 โครงการเป็นกระบวนการที่ฝ่าฝืนต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 144 หรือไม่
"ศาลรัฐธรรมนูญได้แจ้งให้นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 ไปรับคำร้องเพื่อชี้แจง รวมถึงศาลรัฐธรรมนูญได้ขอเอกสารเพิ่มเติม ซึ่งเราได้ส่งไปตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้วแล้วก่อนที่ศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัย" เลขาธิการสภาฯ ชี้แจง
อย่างไรก็ดีในที่ประชุมกมธ. ยังถกเถียงกันต่อถึงกรณีที่หากมีการลงมติแล้วจะมีผลต่อสถานะคำร้องของศาลรัฐธรรมนูญหรือไม่ ทำให้ ว่าที่ร.ต.ต.อาพัทธ์ กล่าวว่า "ผมในฐานะเลขาฯ ขอถอนทั้ง 3 โครงการออกไป พวกท่านจะได้เดินหน้าต่อไม่ต้องมาเสียเวลา โดยจะทำหนังสือขอถอนโครงการตามมาอีกครั้ง"
ทำให้นายจุลพันธ์ อภิปรายว่าในกรณีดังกล่าวไม่ว่าจะดำเนินการอย่างไร กมธ.ต้องทำตามกรอบของรัฐธรรมนูญ มาตรา 144 ดังนั้น ตามที่มีผู้เสนอให้มีการปรับลดขอให้ที่ประชุมลงมติ
จากนั้นที่ประชุมกมธ.ฯ ที่มีผู้เข้าร่วม 48 คน ลงมติเอกฉันท์ 45 เสียงให้ปรับลด งดออกเสียง 2 และไม่ประสงค์ลงคะแนน 1 เสียง ถือว่ากมธ.ฯ เห็นด้วยกับการปรับลดงบประมาณจำนวน 178 ล้านบาทของสำนักเลขาธิการสภาฯ ใน 3 โครงการที่เสนอขอมาในร่าง พ.ร.บ.งบฯ69






